ย้อนไปกว่าห้าปีก่อน หลังกระแสวิ่งถูกปลุกผ่านภาพยนตร์ไทย เรื่อง รัก7 ปีดี 7 หน จนนำมาซึ่งงาน “วิ่งสู่ชีวิตใหม่” ที่ทางสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้จัดขึ้นในปี 2555 ได้ส่งต่อเทรนด์นิยมเรื่องการวิ่งสู่คนรุ่นใหม่ไปจนถึงรุ่นเก๋าที่ร่วมกันปลุกพลังนักวิ่งให้กลายเป็น Talk of the Town อีกครั้ง
แน่นอนอีกปรากฏการณ์วิ่งที่สร้างกระแสฮือฮา ย่อมไม่พ้นกิจกรรมวิ่ง “คนละก้าว” ของนักร้องขวัญใจมวลชน อย่างตูนบอดี้แสลมที่ไม่เพียงสร้างประวัติการณ์ “วิ่งเพื่อให้” ในสังคมไทย แต่ยังตอกย้ำกระแสและกระตุ้นให้สังคมตื่นตัวหันมาออกกำลังกายโดยเฉพาะการเดินวิ่งเพื่อสุขภาพมากขึ้น
ยิ่ง “วิ่ง” ก็ยิ่งได้
เห็นได้ชัดว่า “การวิ่ง” ได้กลายเป็นเทรนด์ออกกำลังกายสุดฮิตของคนไทย เมื่อเราเห็นใครๆ ไม่ว่า หนุ่มสาวรุ่นใหม่ พี่ป้าน้าอา หรือลูกเล็กเด็กแดง ที่ต่างก็สวมรองเท้าวิ่งคู่ใจแล้วออกมา “วิ่ง” รีดเหงื่อ ออกกำลังแข้งขาหน้าตาสดใส
แต่อีกเสน่ห์ของการวิ่งที่ยิ่งวิ่งยิ่งได้ และกลายเป็นกิจกรรมที่หลายคนชื่นชอบ นั่นคือกิจกรรม “งานวิ่ง” ที่มักมีจัดกันเป็นประจำในทุกวันหยุดข้อดีของงานวิ่งที่นอกจากจะเป็นกิจกรรมสร้างสุขภาพทางกายแล้ว บางงานยังให้อะไรมากกว่าที่คิด
ไม่เพียงสีสันความสนุกและความเพลิดเพลินทุกครั้งที่ได้วิ่งในบรรยากาศแวดล้อมใหม่ๆ งานวิ่งยังสร้างเพื่อน จนเกิดเครือข่ายคนรักการวิ่งอีกมากมาย ที่สำคัญบางงานวิ่งยังเป็นการเผื่อโอกาสให้เราได้ทำบุญไปด้วย
จึงอย่าแปลกใจ ที่วันนี้ประเทศไทยจะสร้างสถิติงานวิ่งเฉพาะปี 2560 ที่ผ่านมา ก็แค่ราวๆ กว่า 1,000 งานเท่านั้น!
กระทั่งในปีนี้เทรนด์คนรักการวิ่งก็ยังฮิตติดลมไม่เสื่อมคลาย ซึ่งหากใครยังไม่เคยไป “งานวิ่ง” ขอแนะนำว่า ...มันต้องลองสักครั้งในชีวิต! กับงานวิ่งดีๆ อีกสองงานที่ไม่ควรพลาด
MiniHeartMiniMarathon
ร้อยหัวใจมาวิ่งเพื่อเหยื่อน้ำเมา
อีกหนึ่งงานวิ่งเพื่อสร้างพลังสังคม กับการร่วมกันสร้างขบวนการเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสิ่งดีๆ ในสังคมไทย กับกิจกรรม วิ่งร้อยหัวใจ เยียวยาผู้ประสบภัยน้ำเมา MiniHeartMiniMarathonงานเดิน-วิ่งการกุศลที่จัดขึ้นโดยเป้าหมายต้องการให้สังคมไทยตระหนักถึงโทษภัยของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่สร้างผลกระทบต่อสังคม
ซึ่งจากการที่ปัจจุบันมีผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจากน้ำเมาจำนวนมากในแต่ละปี และยังไม่มีกองทุนใดในการช่วยเหลือเยียวยาเหล่านั้นทางคณะผู้จัดได้แก่ มูลนิธิเครือข่ายพลังสังคม จึงได้ร่วมมือกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ชมรมคนหัวใจเพชร สมาพันธ์ชมรมเดินวิ่งเพื่อสุขภาพไทยและภาคีงดเหล้าทั่วประเทศ จัดกิจกรรมการวิ่งครั้งนี้ขึ้น และร่วมกันจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือเด็กเยาวชน และครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากน้ำเมา กองทุนที่มีวัตถุประสงค์ที่จะจัดหาทุนเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบดังกล่าวในเบื้องต้น
โดยกิจกรรมนี้คือการต่อยอดจากงาน SDN RUN FOR FRIEND งานวิ่งที่มีเป้าหมายที่จะสร้างเสริมสุขภาพและเฉลิมฉลองชัยชนะให้กับคนที่งดเหล้าตลอดช่วงเข้าพรรษา 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพมหานครปีที่ผ่านมาและได้รับความสนใจของประชาชนเป็นจำนวนมาก
ในปีนี้จึงใช้โอกาสในช่วงที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมวิชาการระดับโลกว่าด้วยเรื่องปัญหาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ “44th Annual Alcohol Epidemiology Symposium of the KettilBruun Society” ซึ่งระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน 2562 ณ จังหวัดเชียงใหม่ วางแผนที่จะจัดงานเดินวิ่งการกุศลอีกครั้งซึ่งงานนี้จะเป็นการส่งสัญญาณและแสดงออกถึงพลังความร่วมมือ การมีส่วนร่วมและความเอาจริงเอาจังในการร่วมกันแก้ไขปัญหาแอลกอฮอล์ที่เป็นปัญหาสำคัญและส่งผลกระทบไปทั่วโลก
“แนวคิดการจัดงานเกิดจากการที่เราทำงานรณรงค์งดเหล้ามาสิบปีนับว่าได้สร้างกระแสให้สังคมรับรู้เรื่องนี้พอสมควร แต่ที่ผ่านมาก็ยังมีผู้ได้รับผลกระทบและเห็นในข่าวเรื่อยๆ ที่สำคัญสถิติผู้เสียชีวิตยังสูงเฉลี่ยปีละกว่าสองหมื่นรายที่มีสาเหตุเกี่ยวกับแอลกอฮอล์ จึงเป็นสิ่งที่เราต้องรณรงค์ต่อ แต่นอกจากนี้ยังมีในส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บพิการและครอบครัวของผู้ที่ได้รับผลกระทบเพราะหัวหน้าครอบครัวหรือสมาชิกต้องเสียชีวิตบาดเจ็บ ยังไม่นับความรุนแรงในครอบครัว ที่ล้วนเกิดจากความเมา เราจึงหวังสร้างพลังความร่วมมือของประชาชนในการร่วมกันระดมทรัพยากร เพื่อสมทบทุนไว้เพื่อช่วยเหลือกลุ่มคนเหล่านี้ ที่ล้วนจำเป็นต้องได้รับการดูแลจากสังคม”วิษณุ ศรีทะวงศ์ ประธานมูลนิธิเครือข่ายพลังสังคม ขยายความถึงที่มาของการจัดกิจกรรม
สำหรับอีกประเด็น กิจกรรมยังตั้งเป้าหมายที่จะสร้างความตระหนัก รับรู้และเห็นความสำคัญของการมีกิจกรรมทางกายในวิถีชีวิต และเกิดแรงบันดาลใจในการที่จะออกมาเดิน วิ่งในชีวิตประจำวัน ไปพร้อมกับลดพฤติกรรมเสี่ยงสุขภาพ เช่น การงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไปด้วย
“ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เราเน้นการรณรงค์ไปที่กลุ่มเสี่ยงและปัจจัยเสี่ยงโดยตรง จึงมาคิดว่าน่าจะต้องมีกิจกรรมเชิงบวกหรือสร้างสรรค์ที่สามารถให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาร่วมกับเราได้บ้าง สำหรับงานวิ่งครั้งนี้มองว่าเป็นการขยายพื้นที่การสื่อสารกับคนภายนอก และเป็นพื้นที่ให้กับคนในภาคสังคมช่วยกันแสดงน้ำใจให้กันและกัน”
วิ่งร้อยหัวใจ เยียวยาผู้ประสบภัยน้ำเมา MiniHeartMiniMarathonจะจัดขึ้นในวันที่ 27 พฤษภาคม 2561 ณ ประตูท่าแพ รอบคูเมือง จังหวัดเชียงใหม่เปิดรับนักวิ่งผู้สนใจ 3,000 คนโดยแบ่งเป็น เดิน-วิ่ง Fun Run 5 กิโลเมตร สำหรับบุคคลทั่วไป และวิ่งมินิมาราธอน 10.5 กิโลเมตร สำหรับอายุ 16 ปีขึ้นไป ค่าสมัคร 400 บาท
สนใจสมัครหรือสอบถามรายละเอียด ได้ที่facebook: sdnrunforfriendsหรือ http://www.miniheartrun.comหรือจะร่วมบริจาค สามารถโอนเงินเข้าบัญชี ชื่อ กองทุนช่วยเหลือเด็กเยาวชนและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากน้ำเมา เลขที่บัญชี 057-0-35812-4 ธนาคารกรุงไทย ออมทรัพย์ สาขาถนนนวมินทร์
วิ่งสร้างสมาธิสมาธิสร้างสุข
ใน “เดิน-วิ่งสมาธิ วิสาขะ พุทธบูชา”
เชื่อหรือไม่ว่า การวิ่งเหยาะๆ ไปกับการภาวนา “พุท-โธ”ในระหว่างที่หายใจเข้า – ออก จะช่วยบูรณาการระหว่างร่างกายกับจิตใจ
29 พฤษภาคม 2561 ที่จะถึงนี้ เป็นวันวิสาขบูชา ซึ่งนอกจากจะเป็นวันหยุดทางราชการสำคัญที่เปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชาวไทยมีกิจกรรมทำบุญตักบาตร ทำทานหรือถือศีลปฏิบัติธรรม เพื่อสร้างจิตใจปลอดโปร่งผ่องแผ้วแจ่มใสกันแล้ว
ทางสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ยังร่วมกับ สมาพันธ์ชมรมเดินวิ่งเพื่อสุขภาพไทย และภาคีเครือข่ายทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ จัดงาน “เดิน-วิ่ง สมาธิ วิสาขะ พุทธบูชา ครั้งที่ 17” เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนนำการปฏิบัติ “สมาธิ” มาประยุกต์ใช้กับการวิ่งในการส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง
สไตล์การวิ่งสมาธิคืออะไร ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.สุชาติ โสมประยูร ผู้คิดค้นการวิ่งสมาธิ ได้เผยเทคนิคว่า การทำสมาธิเป็นกิจกรรมออกกำลังจิตเพื่อเพิ่มสมรรถภาพจิต ส่วนการวิ่งเหยาะๆ เป็นการเพิ่มสมรรถภาพให้ร่างกาย สร้างความแข็งแรงให้ทั้งกล้ามเนื้อหัวใจ ปอด และร่างกาย เมื่อการวิ่งเหยาะๆ ผนวกรวมกับสมาธิ นั่นหมายถึง การวิ่งเหยาะๆ อย่างมีสติ รู้ตัวเอง
สำหรับศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.สุชาติ ยังได้เผยข้อดีของการวิ่งที่ค้นพบและลองปฏิบัติใช้มาตั้งแต่ราวๆ 20 ปีก่อน ว่าหลังจากการวิ่งแบบภาวนาประมาณ 5 เดือน ก็ค้นพบว่า 1. เกิดอาการติดวิ่งสมาธิ 2. ลดความวิตกกังวล คลายเครียด และหลับสบาย 3. ระบบต่างๆ ของร่างกายได้รับการปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้น 4. แก้ไขปัญหาสุขนิสัยที่ไม่ดีของตนเองได้ง่ายขึ้น 5. ลดความเสี่ยงจากโรคและอุบัติภัยได้มากขึ้น 6. ร่างกายกระฉับกระเฉง ทะมัดทะแมง แคล่วคล่องว่องไว 7. อารมณ์สดชื่น แจ่มใส มีชีวิตชีวา และดูไม่แก่เกินวัย
ปีนี้อาจเป็นมิติใหม่ ที่หลายคนน่าจะร่วมมาลองท้าทายตัวเอง กับแนวทางการวิ่งในสไตล์สมาธิ ในงานเดิน-วิ่ง สมาธิ วิสาขะ พุทธบูชา ครั้งที่ 17”ปล่อยตัวจากสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ วิ่งผ่าน 3 สวนสาธารณะ ได้แก่ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) และสวนจตุจักร โดยมีค่าสมัครเพียง 200 บาท พร้อมเสื้อที่ระลึก มีระยะทางการวิ่ง 5 กม. และ 10 กม. สามารถสมัครวิ่ง และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook https://www.facebook.com/runninginthemoment/
ข่าวที่เกี่ยวข้อง