ชีวิตดีสังคมดี

สภาพอากาศปิดทำ 'PM2.5' อันตรายกระทบสุขภาพ เฝ้าระวัง 14-15 ธ.ค. ฝุ่นพุ่งสูง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สภาพอากาศปิดส่งผลให้ 'PM2.5' หนาแน่นอยู่ในระดับอันตราย เฝ้าระวัง 14.-15 ธ.ค. นี้ ฝุ่นพิษพุ่งสูงกระทบสุขภาพ แนะ 8 คลินิกดูแลประชาชน เจ็บ ป่วย หาหมอได้ทันที

น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ค่าฝุ่น "PM 2.5" ในหลายพื้นที่พบเกินมาตรฐานว่า รัฐบาลมีความเป็นห่วงประชาชนกลุ่มเสี่ยงทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ และหญิงตั้งครรภ์ จึงขอให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ รวมถึงกลุ่มที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคหัวใจ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และโรคหอบหืด ซึ่งผู้ป่วยโรคหอบหืด จะมีความไวต่อการกระตุ้นจาก ฝุ่น "PM 2.5" หรือสารก่อภูมิแพ้เหล่านี้ ทำให้มีสมรรถภาพปอดลดลง และเกิดอาการกำเริบได้ ซึ่งกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว ควรสวมหน้ากากเพื่อป้องกันฝุ่น และหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง

เหตุที่ทำให้ค่าฝุ่น "PM2.5" สูงขึ้นมากในขณะนี้เกิดจากความกดอากาศต่ำ และสภาพอากาศนิ่ง ส่งผลให้ฝุ่นจากแหล่งกำเนิดไม่สามารถระบายได้ จนถูกกดทับอยู่ในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะวันที่ 14-15 ธ.ค. จะมีค่าฝุ่นหนาแน่นเป็นพิเศษ แต่จากการคาดการณ์ของกรมควบคุมมลพิษว่าสถานการณ์จะเริ่มดีขึ้นช่วงวันที่ 17 ธ.ค.นี้ เพราะจะมีลมพัดแรงขึ้น ช่วยให้อากาศระบายฝุ่นที่สะสมและพัดออกจากพื้นที่

 

สภาพอากาศปิดทำ \'PM2.5\' อันตรายกระทบสุขภาพ เฝ้าระวัง 14-15 ธ.ค. ฝุ่นพุ่งสูง

 

  • พ.ร.บ.อากาศสะอาดส่งถึงมือคณะกรรมการกฤษฎีกา

ส่วนของ ร่างพ.ร.บ.การบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. .... นั้น คณะรัฐมนตรีได้มติให้ส่งร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยเนื้อหาสาระที่สำคัญก็คือ การแก้ปัญหาเชิงรุก ครอบคลุมทุกมิติ เป็นกฎหมายใหม่ที่มีความเฉพาะ ทำให้สามารถบริหารจัดการอากาศสะอาดได้อย่างแท้จริง ป้องกันปัญหาด้านอากาศที่จะเกิดขึ้น และแก้ไขปัญหามลภาวะทางอากาศที่มีอยู่ให้ลดลงและหมดไป เพราะอากาศสะอาดเป็นสิทธิพึงมีที่คนไทยทุกคนต้องได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์ตามสิทธิขั้นพื้นฐาน เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน

  • อนามัยโพลประชาชนกังวลหวั่น "PM2.5" กระทบสุขภาพ

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข รายงาน ผลสำรวจอนามัยโพล ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน – 5 ธันวาคม 2566 มีผู้ตอบจำนวน 1,303 คน พบว่ามีความกังวลว่า PM 2.5 จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพตนเองและคนในครอบครัว ร้อยละ 66 โดยกลุ่มเสี่ยงที่ต้องได้รับการดูแลก่อน ได้แก่ ผู้มีโรคประจำตัว 38% ผู้ทำงานกลางแจ้ง 19% และ เด็กเล็ก 14%

กรมอนามัย ระบุเพิ่มว่า ฝุ่น PM2.5 เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตเพิ่มเป็น 1.5 เท่า หญิงตั้งครรภ์จะมีความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ 3 อายุครรภ์ 24 – 42 สัปดาห์ ถ้าได้รับฝุ่นมลพิษ อาจทำให้คลอดก่อนกำหนดได้ และกลุ่มที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคหัวใจ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และโรคหอบหืด ซึ่งผู้ป่วยโรคหอบหืด จะมีความไวต่อการกระตุ้นจาก ฝุ่น PM2.5 หรือสารก่อภูมิแพ้เหล่านี้ ทำให้มีสมรรถภาพปอดลดลง และเกิดอาการกำเริบได้

 

 

  • 8 คลินิกมลพิษทางอากาศเจ็บป่วยเพราะ "PM2.5" ปรึกษาได้

รศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เนื่องจากในช่วงนี้ลักษณะสภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีค่าฝุ่น "PM2.5" ค่อนข้างสูง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะบุคคลกลุ่มเสี่ยง กรุงเทพมหานครไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงขอใช้พื้นที่นี้สื่อสารไปยังพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมในที่โล่ง หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ขอแนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัยเพื่อเป็นการดูแลสุขภาพในเบื้องต้น

 

นอกจากนี้หากประชาชนได้รับปัญหาสุขภาพจากฝุ่นนั้นสามารถเข้ารับคำปรึกษาได้ที่คลินิกมลพิษทางอากาศได้ โดยปัจจุบันมีการให้บริการทั้งสิ้น 8 แห่ง ดังนี้

1.โรงพยาบาลกลาง เปิดให้บริการทุกวันอังคาร และวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 12.00 น. โทร.0 2220 8000 ต่อ 10811

2.โรงพยาบาลตากสิน เปิดให้บริการทุกวันจันทร์-วันศุกร์ (ยกเว้นวันพุธและวันหยุดราชการ) ตั้งแต่เวลา 09.00 – 12.00 น. โทร. 0 2437 0123 ต่อ 1426 , 1430

3.โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ เปิดให้บริการทุกวันพุธ ตั้งแต่เวลา 13.00 – 15.00 น. โทร. 0 2289 7225

4.โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินฺธโร อุทิศ เปิดให้บริการทุกวันพฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 08.00 – 12.00 น. โทร.0 2429 3576 ต่อ 8522

5.โรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ เปิดให้บริการทุกวันอังคาร ตั้งแต่เวลา 13.00 – 16.00 น. โทร.0 2543 2090 หรือ 084 215 3278

6.โรงพยาบาลลาดกระบังกรุงเทพมหานคร เปิดให้บริการทุกวันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.00 น. โทร.0 2326 9995

7.โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ เปิดให้บริการทุกวันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.00 น. โทร. 063 324 1126 หรือ 099 170 5879

8.โรงพยาบาลสิรินธร เปิดให้บริการทุกวันอังคาร ตั้งแต่เวลา 13.00 – 16.00 น. โทร.0 2328 690

 

สภาพอากาศปิดทำ \'PM2.5\' อันตรายกระทบสุขภาพ เฝ้าระวัง 14-15 ธ.ค. ฝุ่นพุ่งสูง

 

นอกจากนี้โรงพยาบาลราชพิพัฒน์และโรงพยาบาลกลางได้มีโครงการนักสืบฝุ่นที่กระจายในชุมชน เพื่อให้ความรู้เรื่องการป้องกัน อาการ การคัดกรองตนเองเบื้องต้น ทั้งนี้หากมีอาการไอ แน่นหน้าอก วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ผื่นแดง หรือมีอาการผิดปกติทางร่างกายอื่น ๆ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที หรือพบแพทย์ผ่านทาง Telemedicine แอปพลิเคชัน “หมอ กทม.” เพื่อตรวจวินิจฉัยอาการได้อย่างรวดเร็ว สามารถปรึกษาเรื่องสุขภาพ โทร HOTLINE 1646 สายด่วนสุขภาพ สำนักการแพทย์ ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

 

โดยประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์ฝุ่นผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ airbkk.com แอปพลิเคชัน Air4Thai และ AirBKK รวมถึงเพจ facebook Live ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ และสายด่วนกรมควบคุมมลพิษ 1650

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ