ชีวิตดีสังคมดี

ตั้ง 'กรมโลกร้อน' มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ พร้อมทำงานตามภารกิจทันที

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ตั้ง กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม หรือ 'กรมโลกร้อน' มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันนี้ พร้อมเดินหน้าทำภารกิจรับมือ Climate Change

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เปิดเผยว่า วันนี้ ประเทศไทยได้มี กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว ภายหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เปลี่ยนชื่อกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เป็น กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม หรือ "กรมโลกร้อน" โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ (18 สิงหาคม 2566) เป็นต้นไป นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อปวงชนชาวไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างหาที่สุดมิได้ เนื่องจากปัจจุบันปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก หรือปัญหาภาวะโลกร้อน กำลังเป็นปัญหาสำคัญเร่งด่วนที่ทั่วโลกต่างกำลังเร่งสร้างความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างจริงจัง

โดยเฉพาะเมื่อเลขาธิการสหประชาชาติได้ออกมาชี้เมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า อุณหภูมิของพื้นผิวโลก และอุณหภูมิของมหาสมุทรในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาในปีนี้ อยู่ในระดับสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ เป็นสัญญาณเตือนว่า เรากำลังเริ่มต้นสิ้นสุดยุคของภาวะโลกร้อน (Global Warming) และกำลังเข้าสู่ยุค ภาวะโลกเดือด (Global Boiling) แล้ว ดังนั้น การตั้งกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ในครั้งนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้ประเทศไทยมีหน่วยงานรองรับการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรมโดยตรง

นายวราวุธ กล่าวต่อว่า ได้กำชับให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำกับติดตามการเปลี่ยนผ่านจากกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ไปสู่กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม อย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดำเนินงานตามภารกิจของหน่วยงานเป็นไปอย่างต่อเนื่องราบรื่นไร้ข้อติดขัด โดยให้ทำงานร่วมกับ นายสมศักดิ์ สรรพโกศลกุล  อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะทำหน้าที่ต่อเนื่องจากหน้าที่อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และหลังจากนี้ รอเพียงการประกาศกฎกระทรวงการปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการของกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะทำให้ "กรมโลกร้อน" ที่มีโครงสร้างการทำงานปรับปรุงจากโครงสร้างเดิมของกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และมีโครงสร้างส่วนหนึ่งมาจาก กองประสานการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีโครงสร้างการทำงานที่สมบูรณ์ พร้อมเริ่มงานตามภารกิจได้ทันที

 

 

สำหรับเป้าหมายในการจัดตั้ง "กรมโลกร้อน" เป็นการมุ่งเน้นการปรับตัวเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้กับทุกภาคส่วนและทุกระดับกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป และเป็นการแสดงให้ประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนได้เห็นถึงความตั้งใจของรัฐบาลไทย ในการกำหนดเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG emission) ภายในปี ค.ศ. 2065  

logoline