“สหกรณ์การเกษตรห้วยคต” ยิ้มรับความสำเร็จ

กรมส่งเสริมสหกรณ์โชว์เคสความสำเร็จ โครงการเกษตรแปลงใหญ่ที่สหกรณ์การเกษตรหัวยคต เมืองอุทัยธานี หลังดันพัฒนาจน 67 เกษตรกร สามารถลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และตลาด มีอนาคตสดใสยั่งยืน ส่งผลผลิตคุณภาพส่งโรงงานและแปรรูปขายแบบออนไลน์

นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า โครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มุ่งเน้นดำเนินการเพื่อการพัฒนาภาคการเกษตรของประเทศไทย ให้มีการปรับโครงสร้างและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ทั้งด้านการลดต้นทุนการผลิตเพิ่มผลผลิตต่อพื้นที่ พัฒนาคุณภาพมาตรฐานตรงตามความต้องการของตลาด การรวมกลุ่มการผลิตมีการบริหารจัดการร่วมกันและสร้างเครือข่ายที่มีการเชื่อมโยงและเกื้อกูลกัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าเกษตร และเพิ่มรายได้ของเกษตรกร ตลอดจนดูแลคุณภาพชีวิตของเกษตรกร  ซึ่งในการดำเนินโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นหนึ่งในหน่วยงานหลักที่ร่วมบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้เกิดผลสำเร็จตามเป้าหมาย 

“กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ขับเคลื่อนโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 จนถึงปัจจุบัน ภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการเกษตรแปลงใหญ่ให้มีตลาดรองรับ โดยการเชื่อมโยงตลาดร่วมกันระหว่างผู้ผลิตแปลงใหญ่ สหกรณ์ และภาคเอกชน รวมทั้งส่งเสริมให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่มการผลิต การจำหน่าย และการบริหารจัดการร่วมกันโดยวิธีการสหกรณ์ ซึ่งผลการดำเนินงานที่ผ่านมา กรมส่งเสริมสหกรณ์สามารถดำเนินการได้ตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการฯ   สร้างผลดีต่อเกษตรกร ทำให้เกิดการรวมกลุ่มเพื่อการผลิต ทำให้เกษตรกรลดต้นทุนลงมา ในอนาคตกรมส่งเสริมสหกรณ์มีเป้าหมายที่จะสร้างความเข้มแข็ง โดยเพิ่มศักยภาพการผลิต การพัฒนาเรื่องคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐานตรงกับความต้องการของตลาด  ” อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์กล่าว

นายวิศิษฐ์ กล่าวต่อไปว่า ภายใต้การส่งเสริมการทำเกษตรแปลงใหญ่  โดยสำนักงานสหกรณ์จังหวัดอุทัยธานี  ได้ทำให้สหกรณ์การเกษตรห้วยคต จำกัด ได้เกิดการพัฒนาตามแนวทางของโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่อย่างเห็นผล โดยเฉพาะในด้านการลดต้นทุนการผลิต สามารถผลิตสินค้าที่ตรงกับความต้องการของตลาด อันนำมาสู่การช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรสมาชิกอย่างมั่นคงและยั่งยืนด้าน นางพนาพร ปิติสกุลสวัสดิ์ ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรห้วยคต จำกัด ในฐานะผู้จัดการแปลงใหญ่ กล่าวว่า สหกรณ์การเกษตรห้วยคต เป็นสหกรณ์การเกษตรดำเนินธุรกิจรวบรวมผลผลิตด้านการเกษตร โดยเฉพาะสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวีย ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญในพื้นที่  โดยในปี พ.ศ. 2560 ได้เข้าร่วมโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่กับสำนักงานสหกรณ์จังหวัดอุทัยธานี ในรูปแบบของแปลงใหญ่สับปะรด  ปัจจุบันมีพื้นที่ดำเนินการ 1,452 ไร่ สมาชิก 67 ราย  จากการสนับสนุนอย่างเต็มที่ในทุกด้าน ส่งผลทำให้เกิดความเข้มแข็งทั้งด้านการผลิตที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย และได้รับการรับรอง GAP รวมถึงการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านราคาผลผลิตตกต่ำ จนสามารถสามารถพาเกษตรกรสมาชิกก้าวพ้นวิกฤตราคาผลผลิตตกต่ำได้ ด้วยการนำนโยบายตลาดนำการผลิตมาเป็นหลักดำเนินการ รวมถึงการส่งเสริมด้านการลดต้นทุน ด้วยการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพขึ้นใช้เองทดแทนการใช้สารเคมี จนทำให้สามารถลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิตต่อไร่ได้เป็นอย่างดี

นางพนาพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ต้นทุนการปลูกสับปะรดของเกษตรกรสมาชิกได้ลดลง เหลือเฉลี่ยที่ 6,400 บาทต่อไร่  ในขณะที่ปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 500 กก.ต่อไร่ ในส่วนของการตลาด สหกรณ์ได้ส่งจำหน่ายผลผลิตสับปะรดให้กับริษัท วี แอนด์ เค สับปะรดกระป้อง จำกัด และบริษัท ฟรุตต้า เนเธอรัล จำกัด พร้อมทั้งมีการเพิ่มค่าผลผลิตด้วยการนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สินค้าแปรรูปต่าง ๆ  เช่น สับปะรด อบน้ำผึ้ง สับปะรดกวน โดยส่งจำหน่ายให้กับซุปเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ งานแสดงสินค้ากลุ่ม OTOP รวมทั้งทางออนไลน์ และในอนาคตมีแผนที่จะขยายตลาดเพิ่มขึ้น”

“ สหกรณ์การเกษตรห้วยคต ต้องขอขอบคุณกรมส่งเสริมสหกรณ์ ที่ได้ให้การสนับสนุนเงินทุน และอุปกรณ์ต่าง ๆที่ใช้ในการแปรรูป ทางสหกรณ์จะนำสิ่งที่กรมส่งเสริมสหกรณ์มอบให้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับเกษตรกรสมาชิกให้มากที่สุด” นางพนาพร กล่าวในที่สุด