สกู๊ป / คนพันธุ์อึด คเณ จันทร์อิ่ม

สกู๊ป / คนพันธุ์อึด คเณ จันทร์อิ่ม ภาพประกอบในถัง sport ชื่อภาพ jj1 ฝึกหนัก- คนที่เรียนหลักสูตรการรบแบบจู่โจม ต้องมีธาตุทรหด เพราะฝึกหนัก jj2 ไม่ทิ้งเพื่อน- คเณ จันทร์อิ่ม (ซ้าย) ช่วยประคองเพื่อน ที่เหนื่อยแทบขาดใจจากการฝึก ภาพในระบบ 3917728 พันธุ์ดุ- คเณ จันทร์อิ่ม (ซ้าย) จัดเป็นกองหลังประเภทพันธุ์ดุ เป็นงานหนักที่คู่ต่อกรจะผ่านเขาไปได้ 11904426 - เล็งเป้า 11904440 -ตอนฝึกการขนส่งทางอากาศ ก่อนจะขึ้นเครื่องบินไปโดดร่ม 11904432 - คนพันธุ์อึด "คเณ จันทร์อิ่ม" จากแข้งทีมชาติจบฝึก "จู่โจม" "หากมีหมาเดินมา ไม่ต้องมองหน้า ก้าวเท้าวิ่งเข้าหา แล้วจับมันมากินเลย" นี่คือ ภาษิตคมความคิดของคนที่กำลังหิวจัด ตอนฝึก "หลักสูตรการรบแบบจู่โจม" การนอนไม่หลับทรมานกว่าการไม่ได้นอน บางปากของคนในเมืองคอนกรีตว่าเยี่ยงนั้น แต่สำหรับผู้เข้าฝึก "หลักสูตรมหาโหด" จะรู้ซึ้ง "เหนื่อย หิว ผิดหวัง" คำว่านอนไม่หลับ ไม่มีในพจนานุกรมของเขา เพราะหากว่างสัก 1 นาที ก็สามารถปิดสวิตช์หลับได้ในบัดดล เพราะการฝึกยาวเกือบ 3 เดือนนั้น แทบจะไม่ได้หลับนอนกันเลย แต่ปัญหาคือ เมื่อหลับได้ก็ต้องลุกมาฝึกได้เสมอ แม้ว่าเหนื่อยแค่ไหน เพราะนี่คือการฝึกที่เพื่อ ผลิตนักรบกล้า ดึงศักยภาพของมนุษย์ สำแดงธาตุแท้ทรหดออกมา เครื่องหมาย "เสือคาบดาบ" สงวนสิทธิ์ไว้สำหรับ "ยอดคน" ที่จบหลักสูตรนี้เท่านั้น "เหนื่อยสุดๆ ครับ เชื่อมั้ย ขนาดเดิน ผมยังเคยหลับ" นี่คือ คำสารภาพของ คเณ จันทร์อิ่ม นักเตะพันธุ์ดุ ปราการหลังทีมฟุตบอลชาติไทย คเณ หาใช่นักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ที่คนทั่วไปจะรู้จัก แต่สำหรับประชากรลูกหนังแล้ว รู้จักเซ็นเตอร์ฮาล์ฟรายนี้ดี ศูนย์หน้ามาเจอกับ คเณ ต้องเข็ดขยาด เส้นทางลูกหนังของ คเณ เริ่มจากเป็นเด็กมีแววลูกหนังจากเมืองมะขามหวาน จ.เพชรบูรณ์ ย้ายมาร่วมสังกัด โรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา ไล่ล่าแชมป์มากมาย ก่อนติดทีมชาติไทย ชุดเยาวชน 17 ปี สร้างประวัติศาสตร์ไปเล่น ชิงแชมป์โลก ที่อียิปต์ จากนั้นก็ติดทีมชาติไทยระดับเยาวชนเรื่อยมา ก่อนจะขยับมาเล่นชุดปรีโอลิมปิก และติดทีมชาติชุดใหญ่ เมื่ออายุครบเกณฑ์ทหาร เขาตัดสินใจสมัครเป็นทหารหาญ สังกัด กองทัพภาคที่ 3 จ.พิษณุโลก ก่อนจะได้รับการบรรจุ เป็นนายสิบ ที่ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จ.ลพบุรี เล่นฟุตบอลรับใช้ต้นสังกัด ในการแข่งขันกีฬาภายในกองทัพบก เมื่อเสร็จศึกจากกีฬากองทัพ เขารับใช้สโมสร และติดทีมชาติบ้าง แม้ผลงานกับทีมชาติชุดใหญ่ไม่โดดเด่นเพราะติดไม่กี่ครั้ง แต่ในระดับสโมสรที่เคยร่วมทัพกับบีอีซี เทโรศาสน เขาช่วยทีมได้แชมป์ไทยลีก 2 สมัย จากนั้นนักเตะรายนี้ก็ย้ายสังกัดไปเรื่อย ทั้ง ธ.กรุงเทพ, ไข่มุกดำ หนองจอก, ศรีราชา สันนิบาต ก่อนจะมาร่วมรัง เมืองทอง หนองจอก ที่ได้แชมป์ดิวิชั่น 1 ฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ คเณ ได้ช่วยทีมแค่เลกแรกเท่านั้น เพราะได้รับบาดเจ็บที่เข่า เขาจึงพักรักษาตัว จนอาการดีขึ้น พอมีการเปิดรับสมัครฝึกหลักสูตรการรบแบบจู่โจม ไอ้หนุ่มจากเมืองมะขามหวาน จึงตัดสินใจเข้าร่วมทันที โดยได้ร่วมทดสอบความเป็นคนแกร่ง ในรุ่นที่ 115 "ก่อนหน้านั้น ผมได้ไปฝึกขนส่งทางอากาศ รุ่นที่ 243 ฝึกการกระโดดร่ม สูง 1,250 ฟุต มันให้ความรู้สึกสุดยอด ตอนมองลงมาพื้นดิน หลังจากจบการฝึก จึงอยากลองฝึกการรบแบบจู่โจม ที่ทหารเขาบอกว่า หนักจริง ผมอยากจะรู้ว่า มันเหนื่อยแค่ไหน อยากท้าทาย ทดสอบความอึด คิดว่าทำได้ จึงเข้าฝึก" คเณ เล่าที่มาที่ไป หัวใจหลักของการฝึกรบแบบจู่โจมคือผลิตคนที่กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว มีภาวะความเป็นผู้นำ นำหน่วยทหารขนาดเล็กได้ โดยก่อนฝึกใครมีธุระอะไรให้สั่งเสียญาติมิตร แฟน ให้เรียบร้อย เพราะตลอดการฝึกเกือบ 3 เดือนนั้น จะไม่มีการติดต่อกับโลกภายนอก โดยมี 4 ด่านหินให้คนฝึกทดสอบ เริ่มจาก การฝึกภาคที่ตั้ง 28 วัน ด่านนี้ทดสอบสมรรถภาพร่างกายและจิตใจ ให้คุ้นเคยกับการฝึกหนักและอดนอนในอนาคต เรียนรู้ การลาดตระเวน การรบในเวลากลางวันกลางคืน การระเบิดทำลาย การติดต่อสื่อสาร การปฐมพยาบาล การอ่านเข็มทิศ ข้ามลำน้ำ ไต่หน้าผา ฯลฯ การฝึกภาคป่าเบื้องต้น 18 วัน ด่านนี้ เริ่มทวีความหนักหน่วง แต่ถึงแม้ฝึกหนักเท่าไหร่หากได้หลับนอน มีอาหารกินก็ยังดี แต่ที่ด่านนี้ไม่มีคำว่า กินอิ่มนอนหลับ เพราะจะฝึกไม่ให้ได้กิน มีเพียงขวดน้ำ 2 กระติกเท่านั้น ส่วนเรื่องการนอน เลิกฝันเลิกคิดไปได้เลย มีด่านทดสอบ เริ่มจากอดนอน 24 ชม. จากนั้น เพิ่มเป็น 48 ชม.และเพิ่มเป็น 3 วัน 3 คืน คือ 72 ชั่วโมง จนมีคำพูดที่คุ้นเคยสำหรับผู้ฝึกว่า "เราจะรักกันยันเช้า" ผสมกับการฝึกเล็ดลอดหลบหนี งานหาข่าว ลาดตระเวน ในขณะที่ต้องแบกน้ำหนักอีกเพียบ เป้เต็มหลัง 8.5 กก. ปืนยาว 3.5 กก. หมวกเหล็ก 1.5 กก. น้ำอีก 2 กก. "มันทรมานสุดๆ กับการไม่ได้นอน บางรุ่นเมื่อโดนฝึกหนักนรกสู้ไม่ไหว หายใจแทบไม่ทัน หลายคนยอมแพ้ ฝึกไม่จบ ในขณะที่มีบางส่วนต้อง "โดนจำหน่าย" หรือตาย อย่างรุ่นผมโชคดี ไม่มีใครเสียชีวิต" การฝึกภาคป่าภูเขา 6 วัน ฝึกที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา และ จ.ปราจีนบุรี ด่านนี้โหดสุดๆ เพราะต้องดำรงชีพในป่าที่ฝนตกชุก เปียกปอนแทบตลอดเวลา ที่สำคัญมีทากชุกชุม แต่สิ่งที่ยังเหมือนเดิมคือ ยังคงได้นอนพักผ่อนน้อยมาก และไม่ค่อยมีกิน ซึ่งด่านนี้บรรดาผู้ฝึกที่ตอนแรกเปรียบเหมือนลูกแมวคิตตี้ ตอนนี้เริ่มกลายเป็นเสือมากขึ้น "มันหิวจนไส้จะขาด อย่างตอนฝึกจะต้องผ่านสวนผลไม้ของชาวบ้าน พวกผมอยากจะกิน แต่มีกฎเหล็ก ห้ามขโมยของชาวบ้านโดยเด็ดขาด หากขโมยแล้วโดนจับได้ จะโดนลงโทษหนัก หรือไล่ออกจากการฝึกทันที พวกผมทำได้แค่มองมันแล้วชมว่า เออ! ผลไม้พวกนี้มันสวยดีนะ" การฝึกภาคทะเลที่ลุ่ม 13 วัน ย้ายไปฝึกที่อ่าวกระทิง เกาะจุฬา อ.แแหลมสิงห์ จ.จันทบุรี ฝึกราวกับว่า เป็นปลาอยู่ในน้ำ ดำรงชีพในทะเล ซุ่มโจมตีขบวนเรือ ตะลุยโคลน ไม่มีอาหารให้ ต้องหาอาหารเอง มีเพียงเบ็ดให้ 1 ตาเท่านั้น ฉากความเหนื่อย หิว ทรมานนั้นมากมายเหลือเกิน ลำพังหน้ากระดาษหนังสือพิมพ์ที่จำกัด คงไม่พอบันทึก หากถามว่า การฝึกนั้นเหนื่อยแค่ไหน คำตอบที่ได้รับคือ หนักกว่าซ้อมฟุตบอลทีมชาติไทย 10 เท่า เอาเป็นว่า น้ำ 2 กระติก เขาสามารถดำรงชีพได้อาทิตย์กว่า คือกินทีละฝา ถามว่า หิวขนาดไหน คนฝึกต้องบอกตรงกันว่า หากมีหมาเดินมา พร้อมจะจับมันมากิน การยุทธย่อมมีวันสิ้นเสร็จ หลักสูตรการรบแบบจู่โจม รุ่นที่ 115 มีคนเข้าฝึก 185 คน แต่ผ่านแค่ 165 คน โดย คเณ จันทร์อิ่ม เป็นหนึ่งในนั้น ที่ทุกวันนี้ มีอาร์มสัญลักษณ์ "เสื้อคาบดาบ" ติดหราที่หน้าอกด้านขวา บันทึกไว้ด้วยว่า คเณ เป็นทหารชั้นประทวนคนแรกในทำเนียบนักเตะทีมชาติไทยที่จบหลักสูตรนี้ จะว่าไปแล้ว ชีวิต คเณ ดูแล้วมีแต่เรื่องป้องกัน ตอนเล่นฟุตบอล คอยป้องกันการยิงประตู วันนี้มีหน้าที่ป้องกันความมั่นคงชาติไทย เจ้าพระยา ท่าพระจันทร์-เรื่อง นรินทร์ เครือคล้าย-ภาพ