Lifestyle

(((อี 2/น.3))) โจรชิงทองไปไม่รอด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

(((อี 2/น.3))) โจรชิงทองไปไม่รอด โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 50 บาทไปไม่รอด ตำรวจตามรวบที่แท้เป็นเจ้าของร้านขายเครื่องดื่ม-โทรศัพท์มือถือ แถมเป็นญาติร้านทอง สารภาพเงินขาดมือเพราะเป็นหนี้พนันฟุตบอล ความคืบหน้าคดีคนร้ายสวมหมวกกันน็อกบุกเดี่ยวใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์ในร้านทองรูปพรรณจำนวน 50 บาท ภายในร้านโชคดี เลขที่ 1871/19-20 ถนนรอบเมือง ต.ธาตุเชิงชุม เขตเทศบาลเมืองสกลนคร เหตุเกิดเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา ต่อมาตำรวจสืบทราบว่าคนร้ายน่าจะเป็นนายอนพ ชนะเกียรติไพศาล หรือแอ๊ด อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/7 ซอยหนองมันปลา 1 ถนนสกลนคร-กาฬสินธุ์ ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นที่บ้านพักพบของกลางสร้อยคอทองคำ หนัก 5 บาท 7 เส้น เงินสดกว่า 3.2 หมื่นบาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ปืนพกสั้นแบบออโตเมติก ขนาด 9 มม. 1 กระบอก ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 5 ธันวาคม พล.ต.ต.อุดม จำปาจันทร์ ผบก.ภ.จว.สกลนคร พร้อมด้วย พ.ต.อ.วันชัย สุริยศรี รอง ผบก. และ พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วงศ์สุเมธ ผกก.สภ.เมืองสกลนคร นำตัวนายอนพมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในห้างทองโชคดี โดยมีตำรวจกว่า 20 นายร่วมกันดูแลพื้นที่ ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง ร.ต.อ.ศิวภาคย์ พวงจันทร์ ร้อยเวร สภ.เมืองสกลนคร ดำเนินคดีในข้อหาชิงทรัพย์โดยมีอาวุธปืนและใช้ยานพาหนะในการลงมือกระทำผิดเพื่อความสะดวก พล.ต.ต.อุดมกล่าวว่า นายอนพเป็นเจ้าของร้านจำหน่ายเครื่องดื่มและร้านซ่อม-จำหน่ายโทรศัพท์ในตัวเมือง ส่วนสาเหตุที่นายอนพก่อเหตุ ทราบว่าเป็นหนี้พนันฟุตบอลหลายแสนบาท อีกทั้งกิจการที่ดำเนินการก็ขาดทุน จึงตัดสินใจก่อเหตุ และเลือกร้านทองที่เป็นเครือญาติกัน เมื่อก่อเหตุได้หลบหนี ก่อนจะนำสร้อยทองคำที่ชิงทรัพย์มาได้เก็บซุกซ่อนไว้ในบ้าน พล.ต.ต.อุดมกล่าวต่อว่า ส่วนเบาะแสที่นำไปสู่การจับกุมมาจากกล้องวงจรปิดที่พยานดูแล้วยืนยันว่าลักษณะคล้ายนายอนพ และเมื่อตรวจสอบประวัติพบว่าเคยต้องคดีร่วมกันลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ทำให้มีลายนิ้วมือในแฟ้มประวัติ เมื่อเปรียบเทียบกับลายนิ้วมือแฝงในที่เกิดเหตุพบว่า ตรงกัน ทำให้จนมุมด้วยหลักฐาน
logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ