Lifestyle

การเมือง ตอน 2

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

การเมือง ตอน 2 ปชป.เครียดแผนพลิกขั้วส่อวืด รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์แจ้งว่า การเดินเกม 2 ทางของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ทางหนึ่ง เป็นการพลิกขั้วเพื่อดันนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี และอีกทางหนึ่ง หาก ส.ส.บางกลุ่มในพรรคพลังประชาชนเดิมและพรรคร่วมรัฐบาลมีเงื่อนไขไม่เอานายอภิสิทธิ์ พรรคประชาธิปัตย์ได้เลือกนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคขึ้นมาแทนนั้น ล่าสุดแกนนำคนสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ ได้แก่ นายชวน นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค และนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ รองหัวหน้าพรรค ได้นัดรับประทานอาหารค่ำที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 53 เพื่อประเมินสถานการณ์ทางการเมืองที่มองไปถึงการพลิกขั้วรัฐบาลและการเกิดกรณีรัฐบาลพิเศษเกิดขึ้น ทั้งนี้ การสนทนาบนโต๊ะอาหารวันดังกล่าว ได้หยิบยกประเด็นบุคคลที่เหมาะสมขึ้นมาเป็นนายกฯ โดยมีการตั้งโจทย์ว่า หาก ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลที่จะย้ายมาไม่สนับสนุนนายอภิสิทธิ์ ขณะที่นายชวนยังเป็นที่ยอมรับจะทำอย่างไร ซึ่งแกนนำทั้ง 4 คน เห็นตรงกันว่า นายชวนควรจะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง แต่นายชวนปฏิเสธ โดยแสดงความเห็นว่านายอภิสิทธิ์เป็นคนรุ่นใหม่ มีความสามารถที่จะนำพาประเทศให้พ้นจากวิกฤติได้ แต่พอถามนายชวนว่า ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลที่จะพลิกขั้วมา มีเงื่อนไขจะให้นายชวนเป็นนายกฯ จะทำอย่างไร นายชวนบอกปัดว่า นายบัญญัติก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม มี ส.ส.ระดับผู้ใหญ่ของพรรคหลายคน อาทิ นายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.สงขลา นายนิพนธ์ วิสิษฐยุทธศาสตร์ เป็นต้น ได้เข้าพบนายชวน เพื่อขอให้พิจารณารับเงื่อนไขการกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่นายชวนปฏิเสธ ด้านความเคลื่อนไหวของคู่หูคนสำคัญ นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ และนายสุเทพ ได้เดินเกมประสานกับหลายกลุ่มในพรรคร่วมรัฐบาลเดิม อาทิ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ กลุ่มของนายเนวิน ชิดชอบ กลุ่มของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ กลุ่มในพรรคเพื่อแผ่นดิน และนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ซึ่งความคืบหน้าทุกอย่างมีการรายงานความคืบหน้าให้นายชวน นายอภิสิทธิ์ และนายบัญญัติ ทราบตลอด โดยนายชวนแนะนำนายนิพนธ์ว่า ให้คุยกับ พล.ต.สนั่น ให้ดี ต้องยึดหลักการ อย่าอยากเป็นรัฐบาลจนหลักการไป "เสนาะ"ไม่เอาพปช.-ปชป.เป็นนายกฯ นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวว่า ขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 พรรคเดิม คือ พรรคชาติไทย พรรคมัชฌิมาธิปไตย พรรคเพื่อแผ่นดิน เพื่อรวมใจไทยชาติพัฒนา และพรรคประชาราช เห็นพ้องกันว่า จะไม่สนับสนุน ส.ส.จากพรรคพลังประชาชนเป็นนายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกันก็ปฏิเสธที่จะเปลี่ยนขั้วจัดตั้งรัฐบาล เพื่อสนับสนุน ส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะอาจทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองอีก แต่จะสนับสนุน ส.ส.ใน 5 พรรครัฐบาลเป็นนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าอดีตแกนนำพรรคพลังประชาชน หรือพรรคเพื่อไทย คงเห็นด้วย เพราะขณะนี้ ส.ส.หลายคนจากพรรคพลังประชาชนก็สนับสนุนแนวทางนี้ นายเสนาะยังกล่าวถึงผลการพูดคุยกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อคืนวันที่ 4 ธันวาคม ว่า ยังไม่ได้หารือถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ แม้จะมีกระแสข่าวว่าตนและ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา เป็นตัวเต็งที่อาจได้รับการเสนอชื่อ เพราะเป็นเพียงการหารือถึงแนวทางการจัดหาผู้ลงสมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.แบ่งเขต โดยพรรคร่วมรัฐบาลอาจหลีกเลี่ยงการส่งผู้สมัครลงแข่งกันเอง กลุ่มเพื่อนเนวินปัดต่อรองราคา นายวิเชียร อุดมศักดิ์ ส.ส.หนองบัวลำภู กลุ่มเพื่อนเนวิน ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะไปสังกัดพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองใด เพราะยังมีเวลาถึง 60 วัน แต่จุดยืนของกลุ่มชัดเจนว่า ประเทศชาติต้องมาก่อน เพราะที่ผ่านมาประเทศบอบช้ำมามาก และที่ยังไม่ไปพรรคเพื่อไทยไม่ใช่เป็นการต่อรองอะไรทั้งสิ้น เมื่อถามว่าการโหวตเลือกนายกฯ หากเป็น พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หรือนายเสนาะ เทียนทอง พอรับได้หรือไม่ นายวิเชียรตอบทันทีว่า พล.อ.เชษฐา รับได้ เรารับได้ เพราะดูแล้วเป็นคนกลางๆ เป็นอดีต ผบ.สส.ยังไม่มีตำหนิอะไร แต่ก็ต้องดูอีกฝ่ายหนึ่งว่าจะเสนอใครเป็นนายกฯ ส่วนนายเสนาะนั้น ถ้าจะให้เลือก ขอเลือก พล.อ.เชษฐาดีกว่า ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ส.ในกลุ่มเพื่อนเนวินเดินทางมาที่เซฟเฮ้าส์ย่านโรงแรมสยามซิตี เพื่อร่วมหารือกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ถึงทิศทางและสถานการณ์ทางการเมือง โดยเฉพาะแนวทางการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ไม่เกิน 2 วันรู้ตัวคนถูกเสนอชื่อนายกฯ นายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น กลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวว่า จุดยืนพวกเรายังเหมือนเดิม เพื่อหาทางออกของประเทศ ไม่ใช่ดันทุรังที่จะทำให้เกิดปัญหา โดยเฉพาะตัวนายกฯ ต้องมีความสามารถแก้ปัญหาประเทศชาติได้ สร้างความสมานสามัคคีและเข้ากับทุกฝ่าย โดยไม่ให้เกิดการเผชิญหน้า สามารถนำพาประเทศเดินหน้าไปได้ เชื่อว่าในวันสองวันนี้เรื่องการเลือกนายกฯ จะจบ เพราะประเทศจะปล่อยให้ฝ่ายบริหารว่างเว้นไม่ได้ ด้านนายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม กลุ่มเพื่อนเนวิน ยืนยันว่า 37 ส.ส.ในกลุ่มยังไม่สมัครเป็นสมาชิกพรรคใดทั้งสิ้น เพราะยังมีเวลา และวันนี้อาจจะมีเพิ่มขึ้นเป็น 40 ส.ส. ส่วนการเลือกนายกรัฐมนตรียังรอดูความชัดเจนในตัวของผู้ที่จะมาเป็นนายกฯ ซึ่งต้องเป็นบุคคลที่สังคมยอมรับได้ และสามารถประสานทุกฝ่ายได้ สิ่งสำคัญจะต้องลดปัญหาความขัดแย้งแล้วรัฐบาลสามารถบริหารแก้ปัญหาประเทศได้ รวมทั้งทำให้สภามีอายุยืนยาวต่อไป ส่วนกรณีที่ ส.ส.จากอดีตพรรคพลังประชาชนยืนยันว่า นายกฯ จะต้องมาจากพรรคเพื่อไทยนั้น นายศุภชัยตอบว่า เรื่องนี้เราต้องการให้มีความชัดเจน ทุกคนมีส่วนรับรู้ร่วมกัน ให้เป็นกระบวนการของพรรค เพื่อหารือจุดอ่อน จุดแข็งจะแก้ปัญหาอย่างไร ซึ่งไม่ใช่ให้ใครมาสั่งการ เมื่อเกิดปัญหาขึ้น พวกเราก็ต้องรับชะตากรรม อย่างในครั้งที่ผ่านมา ทางกลุ่มเคยเตือนแล้วไม่ควรเลือกนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เพราะเกรงจะเกิดปัญหา แล้ววันนี้ก็เกิดปัญหาตามที่เราได้คาดการณ์ไว้ "ยงยุทธ"ชี้การเมืองต้องจับตาวันต่อวัน นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองและการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ว่า การเมืองช่วงต่อจากนี้ไปต้องประเมินสถานการณ์แบบวันต่อวัน ควรยึดหลักความเป็นธรรม เพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปได้ และควรให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินตามกระบวนการประชาธิปไตย แต่สถานการณ์ของประเทศในวันนี้เละไปหมดแล้ว เมื่อถามว่า การตั้งรัฐบาลของอดีต 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิมจะเป็นอย่างไร เพราะคล้ายว่าจะมีอุปสรรค นายยงยุทธกล่าวว่า หากยึดหลักการและฟังเสียงประชาชนแล้วก็ยังไปได้ ขอให้ทุกฝ่ายมองในแง่ดีกันไว้ และขอให้ทุกคนรักประเทศ หากยังเล่นแง่กันแบบอย่างไรก็ช่างนั้น มันก็เกิดปัญหา เมื่อถามว่า หลังคดียุบพรรคพลังประชาชนได้หารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ บ้างหรือไม่ ว่ามีความรู้สึกเช่นใด นายยงยุทธกล่าวว่า หากใครเป็นอดีตนายกฯ จะรู้สึกอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น ช่วงนี้อดีตนายกฯ เป็นห่วงบ้านเมืองและไม่สบายใจ รวมทั้งไม่พอใจกับบางสิ่งบางอย่างในวันนี้ เพราะประชาธิปไตยต้องแข่งขันกันตามระบบที่ให้ประชาชนตัดสิน แต่วันนี้มีเรื่องอื่นๆ มาบีบและรังแกกันเช่นนี้ ฉะนั้นเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องสู้กันตามกติกา ปัญหาของประเทศในวันนี้ที่มีความแตกแยก เพราะประชาชนโดนบางฝ่ายปั่นหัวและให้ข้อมูลแบบผิดๆ มีการแบ่งฝ่ายที่ชอบและเกลียดเหมือนกับบางประเทศในอดีต ที่ประชาชนขัดแย้งทางความคิดและกลายเป็นสงครามกลางเมือง อัดกลุ่มเนวินไม่เคารพปชต.-ขู่ยุบสภา นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด กลุ่มอีสานพัฒนา กล่าวถึงการคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมจะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่และกรณีที่ ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน ซึ่งยังไม่เข้าสังกัดพรรคเพื่อไทย และไม่สนับสนุนคนจากพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ต้องยอมรับว่า ขณะนี้ยังมีอดีตสมาชิกพรรคพลังประชาชนบางคนที่ไม่สังกัดพรรคการเมืองและไม่เคารพกติกาประชาธิปไตย ซึ่งอาจจะมีเรื่องผลประโยชน์แอบแฝงอยู่ แต่ไม่รู้ว่าต้องการอะไร อาจจะเป็นเรื่องของเก้าอี้รัฐมนตรีหรือการต่อรองผลประโยชน์อื่นๆ แต่ก็คงต้องมีการพูดจากันภายในอีกครั้ง แต่หาก ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินแยกตัวไปอยู่พรรคการเมืองอื่นก็ต้องเหนื่อยแน่นอนสำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า ซึ่งการเลือกตั้งใหม่อาจจะมาเร็วกว่าที่คิด เนื่องจากหากไม่สามารถตกลงกันได้ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รักษาการนายกฯ ก็อาจจะยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน และหากอดีต ส.ส.พรรคพลังประชาชนลงสมัครในนามพรรคการเมืองอื่น ก็ต้องชี้แจงกับประชาชนอย่างหนัก และเป็นไปได้สูงที่จะไม่ได้กลับเข้ามาในสภาอีก นายศักดากล่าวต่อว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทยขณะนี้มี ส.ส.เข้าสังกัดแล้วประมาณ 180 คน และจะมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วง 1-2 วันนี้ โดยเฉพาะวันที่ 7 ธันวาคม ซึ่งจะเป็นวันประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค จะมีการสรุปยอด ส.ส.ของพรรค หากพรรคเพื่อไทยมีจำนวน ส.ส.มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ก็จะต้องเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นคนที่มาจากพรรคเพื่อไทย ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถตอบคำถามประชาชนได้ว่า เหตุใดเลือก ส.ส.ของพรรคพลังประชาชน แต่กลับให้ตัวแทนจากพรรคเล็กขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี โดยผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นคนที่มีความสามารถทางด้านเศรษฐกิจ เพราะปีหน้าจะไม่ใช่ปีเผาหลอก แต่จะหนักกว่า คือเป็นปีลอยอังคาร หากเอาคนที่ไม่มีความรู้ทางเศรษฐกิจมาบริหารบ้านเมืองก็อาจจะแย่ได้ ผู้สื่อข่าวถามถึงผู้ที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยจะเป็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ นายศักดากล่าวว่า ไม่น่าจะใช่ แต่น่าจะเป็นบุคคลอื่นมากกว่า เพราะเท่าที่คุยกันก็มีคนที่มีความเหมาะสมหลายคน แต่คงต้องรอดูมติพรรคในวันที่ 7 ธันวาคม "เพื่อไทย"กางรธน.ขู่ยุบสภา นายศักดา นพสิทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเพื่อนเนวินยังไม่ตัดสินใจเข้าร่วมพรรคเพื่อไทยว่า เชื่อว่าสุดท้ายกลุ่มเพื่อนเนวินจะเข้ามาอยู่ร่วมกับพรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งตอนที่ยังอยู่ร่วมพรรคพลังประชาชน กลุ่มเพื่อนเนวินอยากได้อะไรพวกเราก็พร้อมจะให้ตลอด แม้กระทั่งตำแหน่ง รมว.มหาดไทย และหากมาอยู่ร่วมพรรคเพื่อไทยเราก็คิดว่าตำแหน่งต่างๆ ใน ครม.จะยังคงเดิมและไม่มีการเปลี่ยงแปลง หรือแม้แต่กลุ่มเพื่อนเนวิน ต้องการอะไรก็ขอให้บอกออกมา เราพร้อมที่จะพิจารณาทุกอย่าง แต่หากไม่สามารถพูดคุยกันได้ เราก็จำเป็นต้องยุบสภา เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ "สถานการณ์การเมืองแบบนี้ เราทำอะไรไม่ได้ นอกจากยุบสภา ซึ่งแกนนำพรรคเพื่อไทยได้พิจารณากฎหมายแล้ว รักษาการนายกรัฐมนตรีสามารถยุบสภาได้ เพราะไม่มีรัฐธรรมนูญมาตราไหนห้ามเอาไว้ โดยในมาตรา 182 ห้ามรักษาการนายกรัฐมนตรีกระทำอยู่เพียง 4 อย่างคือ 1.โยกย้ายข้าราชการระดับสูง 2.ห้ามก่องบผูกพันข้ามปี 3.ห้ามอนุมัติงานหรือโครงการที่จะผูกพัน ครม.ชุดต่อไปและ 4.ไม่ใช้ทรัพยากรและบุคลากรของรัฐอันจะมีผลกับการเลือกตั้ง" นายศักดากล่าว เด็กแม้วทวงบุญคุณกลุ่มเพื่อนเนวิน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ สมาชิกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงกระแสข่าว ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน 37 คน ส่งสัญญาณอาจไม่ย้ายเข้าพรรคเพื่อไทย พร้อมทั้งอาจพลิกขั้วไปจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ว่า อยากให้ย้อนกลับไปถามประชาชนที่เลือกมาว่า อยากให้อยู่พรรคไหน และถามด้วยว่า ที่เลือกเพราะเหตุใด เพราะนโยบายชื่นชอบและ พ.ต.ท.ทักษิณใช่หรือไม่ "การที่กลุ่มนั้นออกมาแถลงเรียกร้องอย่างนั้นอย่างนี้ ต้องคำนึงถึงบุญคุณนายใหญ่ด้วย วันนี้ ถ้าจะไม่อยู่กับพรรคเพื่อไทยต้องตอบให้ได้ว่า รู้คุณไหม ส่วน ส.ส.ภาคเหนือไม่สามารถเนรคุณนายใหญ่ และประชาชนที่เลือกได้" นายสุรพงษ์กล่าว ส่วนข้อเสนอลดความขัดแย้ง ให้นายกฯ มาจากพรรคร่วมรัฐบาล นายสุรพงษ์กล่าวว่า ถึงอย่างไรพันธมิตรก็ไม่ยอมรับคนที่มาจากพรรคพลังประชาชนเดิม แม้กระทั่งเอาคนกลาง นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช หรือ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ขึ้นเป็นนายกฯ พันธมิตรก็ไม่ยอมรับ ยกเว้นคนที่มาจากพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นพวกพันธมิตรเท่านั้น แต่หากเอาคนของประชาธิปัตย์ขึ้นมา เรื่องก็ไม่ยุติ 10 ส.ส.มฌ.ยันย้ายเข้าพรรคภูมิใจไทย นางพรทิวา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท อดีตเลขาธิการพรรคมัชฌิมาธิปไตย กล่าวถึงการสังกัดพรรคใหม่หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคมัชฌิมาฯ ไปแล้วว่า ขณะนี้ ส.ส.ของพรรคทั้ง 10 คน ที่ได้พูดคุยกัน ส่วนใหญ่ยืนยันจะอยู่ร่วมกัน ในสังกัดพรรคภูมิใจไทย ส่วนโอกาสจะมีการเปลี่ยนขั้วการเมืองใหม่ไปร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาลหรือไม่นั้น นางพรทิวาย้ำว่า เวลานี้ทุกอย่างยังคงเป็นไปตามแนวทาง การประชุมแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ที่มีขึ้นเมื่อค่ำวันที่ 4 ธันวาคม ที่ผ่านมา ที่พรรคร่วมรัฐบาลเดิม ยืนยันจับมือกันต่อไป ทั้งนี้ บุคคลที่จะถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะเป็นคนโควตาของพรรคเพื่อไทย หรือพรรคร่วมรัฐบาล หรือการเสนอชื่อคนนอก ขณะนี้ กลุ่ม ส.ส.ยังไม่ได้พูดคุยหารือกันอย่างจริงจัง อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเป็นโควตาในส่วนใด ก็ต้องให้เป็นที่ยอมรับ เพื่อให้สถานการณ์บ้านเมือง ที่คลี่คลายลงไปบ้างแล้ว ยังคงอยู่ต่อไปได้ ด้านนายอารยะ ชุมดวง ส.ส.สุโขทัย พรรคมัชฌิมาธิปไตยเดิม เชื่อว่าการประชุมสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะเกิดขึ้นทันที หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเรื่องสถานภาพ ส.ส.สัดส่วน โดยคาดว่าการประชุมสภาจะมีขึ้นในช่วงกลางเดือนธันวาคม สะพัดปชป.ส่ง"เกียรติกร"ล็อบบี้เปลี่ยนขั้ว รายงานข่าวจากพรรคมัชฌิมาธิปไตยแจ้งว่า นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี ซึ่งย้ายไปสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ พยายามจะติดต่อพูดคุยกับกลุ่ม ส.ส.พรรคมัชฌิมาธิปไตยเดิม ที่จะไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย เพื่อให้จับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ และเชื่อด้วยว่า สถานการณ์อาจจะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงการจับขั้วได้ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเรื่องสถานภาพ ส.ส.สัดส่วน ขณะที่อดีตสมาชิกพรรคมัชฌิมาธิปไตยยังประเมินความเป็นไปได้กรณีที่มี ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินจะเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทย หลังจากขอรับใบสมัครไปกว่า 30 ชุดแล้ว โดยเชื่อว่าสุดท้ายน่าจะมี ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน ยื่นใบสมัครสังกัดพรรคภูมิใจไทยกลับเข้ามาถึง 10 คน และคาดว่าภายใน 2 สัปดาห์นี้ พรรคภูมิใจไทยจะพร้อมจัดประชุมกรรมการผู้บริหารพรรคด้วย
logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ