Lifestyle

หน้า 1 อี5/ ในหลวง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หน้า 1 อี5/ ในหลวง แถลงการณ์สำนักพระราชวัง ในหลวงทรงมีไข้-พระศออักเสบ เสวยพระกระยาหารเหลวได้ ผลตรวจพระโลหิตไม่พบเชื้อแบคทีเรีย โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมฯ เสด็จฯ ไปในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช พสกนิกรทั่วไทยพร้อมใจจุดเทียนชัยถวายพระพร .......... เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวร ฉบับที่ 1 ความว่า เมื่อค่ำวันพุธที่ 3 ธันวาคม 2551 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระอาการเจ็บภายในพระศอลงไปถึงหลอดพระกระยาหารส่วนต้น ทำให้ทรงเจ็บเวลาทรงกลืนพระกระยาหาร มีพระปรอท (ไข้) สูงเล็กน้อย แพทย์ได้ถวายตรวจพระวรกายพบการอักเสบของพระศอบริเวณด้านหลังช่องพระโอษฐ์ และได้ถวายตรวจพระโลหิตและถวายพระโอสถรักษา ต่อมาในวันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม 2551 หลังจากตื่นพระบรรทมมีพระอาการเจ็บพระศอมากขึ้น จนไม่สามารถเสวยพระกระยาหารและพระโอสถได้ แพทย์จึงถวายน้ำเกลือและน้ำตาลทดแทน ตลอดจนถวายพระโอสถปฏิชีวนะผ่านทางหลอดพระโลหิต มีพระปรอทลดลงในช่วงกลางวัน แต่ในตอนค่ำกลับมีพระปรอทเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในวันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม 2551 พระปรอทลดลงในตอนเช้า และสูงขึ้นในตอนเย็น เสวยพระกระยาหารเหลวได้บ้างเล็กน้อย ผลการตรวจพระโลหิต เมื่อค่ำวันพุธที่ 3 ธันวาคม 2551 บ่งว่ามีอาการอักเสบ ส่วนการเพาะเชื้อในพระโลหิตและพระเสมหะได้รับรายงานผลการตรวจในวันนี้ว่า ไม่พบเชื้อแบคทีเรีย จุดเทียนชัยถวายพระพร เมื่อเวลา 06.45 น. วันที่ 5 ธันวาคม นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) นำข้าราชการ และประชาชนทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 282 รูป เพื่อถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 81 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2551 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ด้านทิศเหนือ จากนั้นคณะกรรมการมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช และคณะกรรมการจัดงาน ร่วมถวายภัตตาหารเช้า และถวายเครื่องไทยธรรมแด่พระราชาคณะ 10 รูป ในช่วงเช้าวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังตั้งโต๊ะลงนามถวายพระพรชัยมงคล ที่ห้องแดง ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม มีบุคคลสำคัญ เช่น นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี นักการเมือง ผู้นำเหล่าทัพ และข้าราชการ มาลงนามถวายพระพรชัยมงคล โดยสำนักพระราชวังมอบหนังสือปกสีชมพู เรื่อง "พระราชดำริสู่ชีวิตและธรรมชาติ" เป็นที่ระลึก ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช ในช่วงเย็นวันเดียวกัน ริ้วขบวนเชิญเครื่องราชสักการะมาถึงยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในเวลา 17.50 น. เพื่อถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ ก่อนร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพรอย่างพร้อมเพรียงกัน กระทั่งเวลา 19.29 น. นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเครื่องราชสักการะ ประกอบพิธีจุดเทียนชัย และกราบบังคมทูลถวายราชสดุดี นำประชาชนทั่วไทยและทั่วโลก กล่าวถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 81 พรรษา 5 ธันวาคม 2551 ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงสดุดีมหาราชา จากนั้นมีการจุดพลุและดอกไม้ไฟเฉลิมพระเกียรติชุดต่างๆ จากกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และภาคเอกชน ซึ่งมีสีสันสวยงามสร้างความประทับใจแก่ประชาชนที่เข้าร่วมพิธีในท้องสนามหลวง และบริเวณรอบเกาะรัตนโกสินทร์ รวมทั้งประชาชนทั่วประเทศที่ชมการถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ปิดท้ายด้วยการแสดงมหรสพ และการแข่งขันชกมวย ทั้งนี้ มูลนิธิ 5 ธันวามหาราช เตรียมเทียนที่ผ่านพิธีมังคลาภิเษกแล้วจำนวน 2 ล้านเล่ม ให้แก่ผู้เข้าร่วมพิธี พ่อตัวอย่างแนะยึดหลักพอเพียง เมื่อเวลา 14.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.อ.กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ในการมอบเกียรติบัตรแก่พ่อตัวอย่างแห่งชาติประจำปี 2551 จำนวนทั้งสิ้น 342 คน ที่อาคารใหม่ สวนอัมพร ในจำนวนนี้มีบุคคลที่มีชื่อเสียงทั้งส่วนราชการและเอกชน เช่น นายบัญญัติ จันทน์เสนะ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายไพศาล มีธนาถาวร บิดานายรัฐพล มีธนาถาวร รองปลัด กทม. นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ รองอัยการสูงสุด เป็นต้น นายบัญญัติกล่าวว่า รู้สึกภูมิใจที่ได้รับเลือกเป็นพ่อตัวอย่าง ทำให้นึกถึงพระคุณของพ่อแม่ที่ได้สั่งสอนให้เป็นคนคิดดี พูดดีและทำดี ส่วนตัวยึดแบบอย่างการประพฤติปฏิบัติตนที่ดีของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ แต่เหนือสิ่งอื่นใดได้น้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พ่อแห่งแผ่นดินไทย ที่มีพระมหากรุณาธิคุณอย่างใหญ่หลวงแก่ปวงชนชาวไทยมาเป็นแนวทางปฏิบัติตนในชีวิต ยึดมั่นทำสิ่งที่ดีงามเพื่อส่วนรวมและประเทศชาติ หากพ่อทุกคนทำได้เช่นนี้ ถือเป็นแบบอย่างที่ดีที่ลูกๆ จะยึดถือต่อไป ด้านนายณรงค์ บัวศรี อายุ 56 ปี อาชีพเกษตรกร จากเขตสายไหม กรุงเทพฯ หนึ่งในพ่อตัวอย่างแห่งชาติปีนี้ กล่าวว่า เลี้ยงลูก 3 คน จนเรียนจบปริญญา ด้วยอาชีพชาวนาในกรุงเทพฯ ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมยกย่องแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงว่า เป็นสิ่งที่ดีที่สุด ปัจจุบันมีที่ดิน 30 ไร่ สำหรับปลูกข้าว ปลูกผัก เพื่อกินและขาย พร้อมแนะนำว่า ทำการเกษตรเพื่อกินจะทำให้มีเหลือสำหรับขาย แต่หากตั้งใจทำเอาไว้ขาย อาจไม่มีเหลือสำหรับกินก็ได้ นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจุดเทียนชัยถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย ชวนส่งไปรษณียบัตร"สมานฉันท์" ด้าน นายสุเมธ ตันติเวชกุล ประธานโครงการทำดีเพื่อพ่อขอคนไทยให้รักกัน กล่าวว่า โครงการทำดีเพื่อพ่อขอคนไทยให้รักกัน เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติ และรณรงค์ให้คนไทยทุกหมู่เหล่าร่วมกันทำความดี มีจิตสำนึกในการให้รูปแบบต่างๆ เพื่อสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างคนไทยด้วยกัน และสร้างความสมานฉันท์ในสังคม ผ่านการเขียนไปรษณียบัตรของโครงการ เพื่อถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อเนื่องไปจนถึงโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา นายสุเมธ กล่าวอีกว่า ประชาชนสามารถร่วมส่งไปรษณียบัตรแสดงพลังแห่งการให้ 10 ประการ คือ ให้อภัย ให้โอกาส ให้รอยยิ้ม ให้เวลา ให้ความรู้สึกที่ดีต่อกัน ให้ความช่วยเหลือ ให้ความใกล้ชิด ให้ความจริงใจ ให้ความซื่อสัตย์ และให้ความรัก ส่วนรูปแบบของไปรษณียบัตร ประกอบด้วย ไปรษณียบัตร 2 ส่วน คือ สีเหลือง และสีชมพู สามารถเขียนข้อความบอกเล่าแบ่งปันความรู้สึกดีๆ ให้แก่คนที่เป็นมิตร หรือผู้ที่ต้องการปรับความเข้าใจกัน แล้วแยกส่ง โดยส่วนที่เป็นสีเหลือง ส่งมาที่โครงการทำดีเพื่อพ่อฯ ตู้ ปณ.81 กรุงเทพมหานคร 10330 หรือที่เว็บไซต์ www.dogood.or.th ส่วนสีชมพู เขียนชื่อที่อยู่และส่งให้บุคคลที่เขียนถึง พร้อมทั้งติดแสตมป์ เปิดตัวแสตมป์ชุด"5 ธันวา" ขณะเดียวกัน บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด หรือ ปณท. เปิดตัวแสตมป์ชุด "5 ธันวา" สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 81 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2551 เป็นพระบรมสาทิศลักษณ์ในฉลองพระองค์สีชมพู ขณะทรงฉายภาพพสกนิกรที่มาเฝ้ารับเสด็จในวันเสด็จพระราชดำเนินออกจากโรงพยาบาลศิริราชกลับพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2550 สำหรับตราไปรษณียากรชุดมหามงคลสมัยนี้ ราคาดวงละ 3 บาท ซองแรกจำหน่ายราคา 10 บาท เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคมนี้ เป็นต้นไป ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่ง จัดพิมพ์ทั้งหมด 1 ล้านดวง ทั่วไทยพร้อมใจจุดเทียนชัย นอกจากนี้ส่วนราชการและประชาชนในทุกจังหวัดพร้อมใจกันจัดพิธีทำบุญตักบาตร และจุดเทียนชัยถวายพระพร เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างพร้อมเพรียงกัน ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ดร.มุรธาธีร์ รักชาติเจริญ นายอำเภอด่านขุนทด นำข้าราชการและประชาชนประมาณ 1,000 คน ทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ ด้วยข้าวสารอาหารแห้ง โดยมี พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด มาร่วมในพิธีด้วย หลวงพ่อคูณกล่าวถวายพระพรเป็นภาษาบาลี ซึ่งแปลความได้ว่า "ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จงทรงพระเจริญ" หลวงพ่อคูณ กล่าวถึงพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า "ก็ขอให้พระองค์จงทรงทุเลาหายจากอาการประชวรโดยเร็ว เพื่อเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงพสกนิกรประชาชนชาวไทย ยั่งยืนยาวนานตลอดกาลสืบไป" ด้าน นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ร่วมกับผู้นำศาสนาอิสลาม โต๊ะครู โต๊ะอิหม่าม และประชาชนในพื้นที่กว่า 500 คน จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวัน 5 ธันวามหาราช ที่บริเวณสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.ยะลา โดยการลงนามถวายพระพรชัยมงคล พร้อมกล่าวคำถวายสดุดี และร่วมกันประกอบพิธีสวดดูอาร์ (ขอพร) ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่วนที่บริเวณหน้าเทศบาลนครนครสวรรค์ นายศุภกิจ บุญญฤทธิพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ นำข้าราชการและประชาชนกว่า 1,000 คน ตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ 82 รูป เพื่อถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้งร่วมอธิษฐานขอพรขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหายจากพระอาการประชวรในเร็ววัน ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นายปรีชา กมลบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำข้าราชการและประชาชนกว่า 2,000 คน ร่วมกันทำบุญตักบาตรเพื่อถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะเดียวกัน ได้นำพระแสงดาบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานแก่จังหวัดซึ่งเก็บรักษาไว้ที่คลังจังหวัด ออกมาประกอบพิธีถวายพระพรชัยมงคลด้วย ส่วนที่ วังช้างอยุธยา แลเพนียด บรรดาผู้ปกครองได้อุ้มบุตรหลานมานั่งช้างฟรี และหลายคนก็ถือโอกาสอุ้มลูกลอดท้องช้างเพื่อความเป็นสิริมงคลและตามความเชื่อว่าจะทำให้ลูกเลี้ยงง่าย พร้อมทั้งชมการแสดงของช้างพลายปีเตอร์ วัย 6 ปี ที่ใช้งวงเขียนคำว่า "รักพ่อ" บนกระดาษ สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวและประชาชนที่มาชมเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกัน นายประยงค์ โชติชัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการศูนย์รวมการศึกษาและวัฒนธรรมของชาวไทยภูเขาในประเทศไทย กล่าวว่า เตรียมจัดงานมหกรรมสืบทอดภูมิปัญญาเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระหว่างวันที่ 6-7 ธันวาคมนี้ ที่พิพิธภัณฑ์ชาวเขากลางแจ้ง สวนเฉลิมพระเกียรติล้านนา ร.9 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การจัดแสดงนิทรรศการพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และจุดเทียนชัยถวายพระพร คาดว่าจะมีพี่น้องชนเผ่าเข้าร่วมงาน 9-10 เผ่า เช่น อาข่า เมี่ยน ม้ง ลัวะ ลีซู ลาหู่ เป็นต้น ส่วนการจัดงาน "ราชพฤกษ์รวมใจภักดิ์รักพ่อหลวง" ภายในสวนเฉลิมพระเกียรติฯ จ.เชียงใหม่ โดยกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระหว่างวันที่ 1-10 ธันวาคมนี้ เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และร่วมแสดงความจงรักภักดีในโอกาสอันเป็นมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยในวันที่ 5 ธันวาคม มีนักท่องเที่ยวเข้าชมงานประมาณ 2.6 หมื่นคน รวมยอดผู้เข้าชมทั้งหมดจนถึงขณะนี้กว่า 7 หมื่นคน
logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ