Lifestyle

การเมือง หน้า 1-e5 (ตอน 2)

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

การเมือง หน้า 1-e5 (ตอน 2) ปชป.เครียดแผนพลิกขั้วส่อวืด รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์แจ้งว่า การเดินเกม 2 ทางของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ทางหนึ่ง เป็นการพลิกขั้วเพื่อดันนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี และอีกทางหนึ่ง หาก ส.ส.บางกลุ่มในพรรคพลังประชาชนเดิมและพรรคร่วมรัฐบาลมีเงื่อนไขไม่เอานายอภิสิทธิ์ พรรคประชาธิปัตย์ได้เลือกนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคขึ้นมาแทนนั้น ล่าสุดแกนนำคนสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ ได้แก่ นายชวน นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค และนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ รองหัวหน้าพรรค ได้นัดรับประทานอาหารค่ำที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 53 เพื่อประเมินสถานการณ์ทางการเมืองที่มองไปถึงการพลิกขั้วรัฐบาลและการเกิดกรณีรัฐบาลพิเศษเกิดขึ้น ทั้งนี้ การสนทนาบนโต๊ะอาหารวันดังกล่าวได้หยิบยกประเด็นบุคคลที่เหมาะสมขึ้นมาเป็นนายกฯ โดยมีการตั้งโจทย์ว่า หาก ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลที่จะย้ายมาไม่สนับสนุนนายอภิสิทธิ์ ขณะที่นายชวนยังเป็นที่ยอมรับจะทำอย่างไร ซึ่งแกนนำทั้ง 4 คน เห็นตรงกันว่า นายชวนควรจะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง แต่นายชวนปฏิเสธ โดยแสดงความเห็นว่านายอภิสิทธิ์เป็นคนรุ่นใหม่ มีความสามารถที่จะนำพาประเทศให้พ้นจากวิกฤติได้ แต่พอถามนายชวนว่า ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลที่จะพลิกขั้วมา มีเงื่อนไขจะให้นายชวนเป็นนายกฯ จะทำอย่างไร นายชวนบอกปัดว่า นายบัญญัติก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม มี ส.ส.ระดับผู้ใหญ่ของพรรคหลายคน อาทิ นายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.สงขลา นายนิพนธ์ วิสิษฐยุทธศาสตร์ เป็นต้น ได้เข้าพบนายชวน เพื่อขอให้พิจารณารับเงื่อนไขการกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่นายชวนปฏิเสธ ด้านความเคลื่อนไหวของคู่หูคนสำคัญ นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ และนายสุเทพ ได้เดินเกมประสานกับหลายกลุ่มในพรรคร่วมรัฐบาลเดิม อาทิ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ กลุ่มของนายเนวิน ชิดชอบ กลุ่มของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ กลุ่มในพรรคเพื่อแผ่นดิน และนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ซึ่งความคืบหน้าทุกอย่างมีการรายงานให้นายชวน นายอภิสิทธิ์ และนายบัญญัติทราบตลอด โดยนายชวนแนะนำนายนิพนธ์ว่าให้คุยกับ พล.ต.สนั่นให้ดี ต้องยึดหลักการ อย่าอยากเป็นรัฐบาลจนเสียหลักการไป "เสนาะ" ไม่เอา พปช.-ปชป.เป็นนายกฯ นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวว่า ขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 พรรคเดิม คือ พรรคชาติไทย พรรคมัชฌิมาธิปไตย พรรคเพื่อแผ่นดิน เพื่อรวมใจไทยชาติพัฒนา และพรรคประชาราช เห็นพ้องกันว่าจะไม่สนับสนุน ส.ส.จากพรรคพลังประชาชนเป็นนายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกัน ก็ปฏิเสธที่จะเปลี่ยนขั้วจัดตั้งรัฐบาล เพื่อสนับสนุน ส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะอาจทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองอีก แต่จะสนับสนุน ส.ส.ใน 5 พรรครัฐบาลเป็นนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าอดีตแกนนำพรรคพลังประชาชน หรือพรรคเพื่อไทย คงเห็นด้วย เพราะขณะนี้ ส.ส.หลายคนจากพรรคพลังประชาชนก็สนับสนุนแนวทางนี้ นายเสนาะยังกล่าวถึงผลการพูดคุยกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อคืนวันที่ 4 ธันวาคม ว่า ยังไม่ได้หารือถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ แม้จะมีกระแสข่าวว่าตนและ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา เป็นตัวเต็งที่อาจได้รับการเสนอชื่อ เพราะเป็นเพียงการหารือถึงแนวทางการจัดหาผู้ลงสมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.แบ่งเขต โดยพรรคร่วมรัฐบาลอาจหลีกเลี่ยงการส่งผู้สมัครลงแข่งกันเอง พรรคร่วมให้เพื่อไทยเสนอชื่อนายกฯ มีรายงานว่า แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเดิม โดยนายมั่น พัธโนทัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กับอดีตพรรคชาติไทยบางส่วนเห็นพ้องกันว่าควรให้สิทธิ์พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป เพราะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพียงแต่ต้องเป็นบุคคลที่สังคมให้การยอมรับ ขณะที่นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน จากพรรคมัชฌิมาธิปไตย พร้อมให้การสนับสนุนเช่นกัน โดยรอให้พรรคเพื่อไทยสรรหาบุคคลได้ลงตัวก่อน ถ้าไม่สำเร็จจะพิจารณาพรรคอื่น ส่วนนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ขอให้พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อก่อน จากนั้นพรรคจะพิจารณาอีกครั้ง เบื้องต้นยืนยันว่าร่วมรัฐบาลเช่นเดิม อัดกลุ่มเนวินไม่เคารพ ปชต.-ขู่ยุบสภา นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด กลุ่มอีสานพัฒนา กล่าวถึงการคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมจะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่และกรณีที่ ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน ซึ่งยังไม่เข้าสังกัดพรรคเพื่อไทย และไม่สนับสนุนคนจากพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรีว่า ต้องยอมรับว่าขณะนี้ยังมีอดีตสมาชิกพรรคพลังประชาชนบางคนที่ไม่สังกัดพรรคการเมืองและไม่เคารพกติกาประชาธิปไตย ซึ่งอาจจะมีเรื่องผลประโยชน์แอบแฝงอยู่ ไม่รู้ว่าต้องการอะไร อาจจะเป็นเรื่องของเก้าอี้รัฐมนตรีหรือการต่อรองผลประโยชน์อื่นๆ ก็คงต้องมีการพูดจากันภายในอีกครั้ง แต่หาก ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินแยกตัวไปอยู่พรรคการเมืองอื่นก็ต้องเหนื่อยแน่นอนสำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า ซึ่งการเลือกตั้งใหม่อาจจะมาเร็วกว่าที่คิด เนื่องจากหากไม่สามารถตกลงกันได้ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รักษาการนายกฯ ก็อาจจะยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน และหากอดีต ส.ส.พรรคพลังประชาชนลงสมัครในนามพรรคการเมืองอื่น ก็ต้องชี้แจงกับประชาชนอย่างหนัก และเป็นไปได้สูงที่จะไม่ได้กลับเข้ามาในสภาอีก นายศักดากล่าวต่อว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทยขณะนี้มี ส.ส.เข้าสังกัดแล้วประมาณ 180 คน และจะมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วง 1-2 วันนี้ โดยเฉพาะวันที่ 7 ธันวาคม ซึ่งจะเป็นวันประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค จะมีการสรุปยอด ส.ส.ของพรรค หากพรรคเพื่อไทยมีจำนวน ส.ส.มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ก็จะต้องเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นคนที่มาจากพรรคเพื่อไทย ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถตอบคำถามประชาชนได้ว่า เหตุใดเลือก ส.ส.ของพรรคพลังประชาชน แต่กลับให้ตัวแทนจากพรรคเล็กขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี โดยผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นคนที่มีความสามารถทางด้านเศรษฐกิจ เพราะปีหน้าจะไม่ใช่ปีเผาหลอก แต่จะหนักกว่า คือเป็นปีลอยอังคาร หากเอาคนที่ไม่มีความรู้ทางเศรษฐกิจมาบริหารบ้านเมืองก็อาจจะแย่ได้ "เพื่อไทย"กาง รธน.ขู่ยุบสภา นายศักดา นพสิทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเพื่อนเนวินยังไม่ตัดสินใจเข้าร่วมพรรคเพื่อไทยว่า เชื่อว่าสุดท้ายกลุ่มเพื่อนเนวินจะเข้ามาอยู่ร่วมกับพรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งตอนที่ยังอยู่ร่วมพรรคพลังประชาชน กลุ่มเพื่อนเนวินอยากได้อะไร พวกเราก็พร้อมจะให้ตลอด แม้กระทั่งตำแหน่ง รมว.มหาดไทย และหากมาอยู่ร่วมพรรคเพื่อไทย เราก็คิดว่าตำแหน่งต่างๆ ใน ครม.จะยังคงเดิมและไม่มีการเปลี่ยงแปลง หรือแม้แต่กลุ่มเพื่อนเนวิน ต้องการอะไรก็ขอให้บอกออกมา เราพร้อมที่จะพิจารณาทุกอย่าง แต่หากไม่สามารถพูดคุยกันได้ เราก็จำเป็นต้องยุบสภา เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ "สถานการณ์การเมืองแบบนี้ เราทำอะไรไม่ได้ นอกจากยุบสภา ซึ่งแกนนำพรรคเพื่อไทยได้พิจารณากฎหมายแล้ว รักษาการนายกรัฐมนตรีสามารถยุบสภาได้ เพราะไม่มีรัฐธรรมนูญมาตราไหนห้ามเอาไว้ โดยในมาตรา 182 ห้ามรักษาการนายกรัฐมนตรีกระทำอยู่เพียง 4 อย่างคือ 1.โยกย้ายข้าราชการระดับสูง 2.ห้ามก่องบผูกพันข้ามปี 3.ห้ามอนุมัติงานหรือโครงการที่จะผูกพัน ครม.ชุดต่อไปและ 4.ไม่ใช้ทรัพยากรและบุคลากรของรัฐอันจะมีผลกับการเลือกตั้ง" นายศักดากล่าว 10 ส.ส.มฌ.ยันย้ายเข้าพรรคภูมิใจไทย นางพรทิวา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท อดีตเลขาธิการพรรคมัชฌิมาธิปไตย กล่าวถึงการสังกัดพรรคใหม่หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคมัชฌิมาฯ ไปแล้วว่า ขณะนี้ ส.ส.ของพรรคทั้ง 10 คน ที่ได้พูดคุยกัน ส่วนใหญ่ยืนยันจะอยู่ร่วมกัน ในสังกัดพรรคภูมิใจไทย ส่วนโอกาสจะมีการเปลี่ยนขั้วการเมืองใหม่ไปร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาลหรือไม่นั้น นางพรทิวาย้ำว่า เวลานี้ทุกอย่างยังคงเป็นไปตามแนวทาง การประชุมแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ที่มีขึ้นเมื่อค่ำวันที่ 4 ธันวาคม ที่ผ่านมา ที่พรรคร่วมรัฐบาลเดิม ยืนยันจับมือกันต่อไป ทั้งนี้ บุคคลที่จะถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะเป็นคนโควตาของพรรคเพื่อไทย หรือพรรคร่วมรัฐบาล หรือการเสนอชื่อคนนอก ขณะนี้ กลุ่ม ส.ส.ยังไม่ได้พูดคุยหารือกันอย่างจริงจัง อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเป็นโควตาในส่วนใด ก็ต้องให้เป็นที่ยอมรับ เพื่อให้สถานการณ์บ้านเมือง ที่คลี่คลายลงไปบ้างแล้ว ยังคงอยู่ต่อไปได้ ด้านนายอารยะ ชุมดวง ส.ส.สุโขทัย พรรคมัชฌิมาธิปไตยเดิม เชื่อว่าการประชุมสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะเกิดขึ้นทันที หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเรื่องสถานภาพ ส.ส.สัดส่วน โดยคาดว่าการประชุมสภาจะมีขึ้นในช่วงกลางเดือนธันวาคม สะพัด ปชป.ส่ง"เกียรติกร"ล็อบบี้เปลี่ยนขั้ว รายงานข่าวจากพรรคมัชฌิมาธิปไตยแจ้งว่า นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี ซึ่งย้ายไปสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ พยายามจะติดต่อพูดคุยกับกลุ่ม ส.ส.พรรคมัชฌิมาธิปไตยเดิม ที่จะไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย เพื่อให้จับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ และเชื่อด้วยว่าสถานการณ์อาจจะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงการจับขั้วได้ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเรื่องสถานภาพ ส.ส.สัดส่วน ขณะที่อดีตสมาชิกพรรคมัชฌิมาธิปไตยยังประเมินความเป็นไปได้กรณีที่มี ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินจะเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทย หลังจากขอรับใบสมัครไปกว่า 30 ชุดแล้ว เชื่อว่าสุดท้ายน่าจะมี ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินยื่นใบสมัครสังกัดพรรคภูมิใจไทยกลับเข้ามาถึง 10 คน และคาดว่าภายใน 2 สัปดาห์นี้ พรรคภูมิใจไทยจะพร้อมจัดประชุมกรรมการผู้บริหารพรรคด้วย
logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ