เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
หน้า 1 อี2/ "แพทย์หญิง" เหยื่อถ่ายคลิปร้องแพทยสภา
แพทย์หญิงเหยื่อแอบถ่ายคลิปใต้กระโปรง เครียดหนัก ผู้บริหาร รพ.กดดันถึงบ้าน ร้อง สสจ.ไม่คืบ เล็งยื่นขอความเป็นธรรมแพทยสภา-กรรมการสิทธิฯ ด้านเลขาฯ แพทยสภายันช่วยเต็มที่ ชี้ผิดจริงโทษหนักถึงถอนใบวิชาชีพแพทย์
.......
ความคืบหน้ากรณีแพทย์หญิงประจำโรงพยาบาลอำเภอแห่งหนึ่งใน จ.ชัยภูมิ เข้าแจ้งความเอาผิดผู้ลักลอบตั้งกล้องถ่ายภาพไว้ใต้โต๊ะทำงานภายในโรงพยาบาล เพื่อแอบถ่ายใต้กระโปรง โดยเชื่อว่าเป็นฝีมือผู้บริหารรายหนึ่ง และเมื่อตำรวจตรวจสอบพบว่ามีการลักลอบถ่ายภาพโดยติดกล้องเว็บแคมลงโปรแกรมไว้ในเครื่องแพทย์หญิง จากนั้นใช้วิธีแฮ็กสั่งการให้กล้องถ่าย โดยทำมาแล้วนานนับเดือน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด พญ.บี (นามสมมติ) วัย 25 ปี กล่าวว่า ขณะนี้รู้สึกเครียด เพราะถูกกดดันจากผู้บริหารรายนี้มาก หลังจากคู่กรณีมาขอพบที่บ้าน พร้อมกล่าวขอโทษต่อครอบครัว และแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น โดยเสนอเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อไม่ให้เอาเรื่อง จากนั้นก็มีการนัดพูดคุยกันให้ผู้บริหารรายนี้ไปแสดงความรับผิดชอบต่อหน้า นพ.ชูรัตน์ คูสกุลรัตน์ สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ (สสจ.ชัยภูมิ) เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นและช่วยหาทางแก้ไขปัญหา
พญ.บี กล่าวอีกว่า เมื่อพอมาพูดคุยต่อหน้า สสจ.ชัยภูมิ ผู้บริหารคนดังกล่าวกลับไม่แสดงความรับผิดชอบ และยืนยันว่าไม่ผิด กลายเป็นว่าเรียกให้เราไปพูดต่อหน้าผู้บังคับบัญชาระดับสูง เพื่อให้ยืนยันว่าจะไม่ติดใจเอาเรื่อง เพื่อให้เขารอดตัวเท่านั้น ซึ่งตนและญาติรู้สึกเสียใจในเรื่องนี้มาก
"ญาติของฉันถือว่าเรื่องนี้ยอมไม่ได้ เมื่อมาพูดกับเราอีกอย่างหนึ่ง เพื่อให้เราไปพูดอีกอย่างหนึ่ง ทั้งๆ ที่เราเป็นผู้เสียหาย และถูกละเมิดสิทธิ แต่ไม่มีใครสนใจลงมาดูแลและจะปล่อยให้เรื่องนี้เงียบไปเอง โดยไม่มีความเป็นธรรม วันนี้รู้สึกท้อแท้ในการจะมาทำงานที่โรงพยาบาลแห่งนี้ และคิดจะขอย้ายไปทำงานที่อื่น หลังครบวันลาพักราชการ 7 วัน" พญ.บีกล่าว
ด้านญาติของผู้เสียหายกล่าวว่า หลังเกิดเรื่องผู้บริหารคนดังกล่าวพยายามเข้ามากดดัน เพื่อไม่ให้เอาเรื่องโดยตลอด ทั้งมาด้วยตัวเองถึงที่บ้าน และทางโทรศัพท์ เราถือว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมมากจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัด ที่ไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของผู้เสียหายเลย ทั้งๆ ที่ผู้เสียหายถูกละเมิดสิทธิขนาดนี้ แต่ผู้กระทำความผิดยังเดินลอยนวลหน้าตาเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดังนั้น ครอบครัวจึงเตรียมจะร้องขอความเป็นธรรมไปที่แพทยสภา และคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
"เราขอเรียกร้องให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนใจเรื่องที่เกิดขึ้น ที่จะช่วยแก้ปัญหาการถูกละเมิดสิทธิสตรี ช่วยลงมาช่วยเหลือด้วย อย่างมูลนิธิปวีณาฯ ก็อยากให้ลงมาช่วยเหลือเช่นกัน ตอนนี้รู้สึกสงสารหมอที่ไม่เป็นอันกินอันนอน" ญาติแพทย์หญิงกล่าว
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวว่า มีความพยายามจะช่วยกันดึงเวลาไม่ให้ผู้บริหารโรงพยาบาลรายนี้ แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก จนถึงฤดูกาลสับเปลี่ยนย้ายตำแหน่งในระดับตามวาระ ซึ่งคาดว่าไม่เกินต้นปี 2552 เพื่อย้ายไปอยู่ที่อื่นแทน
มีรายงานอีกว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ผู้หญิง แพทย์หญิง พยาบาลหญิง ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งของ จ.ชัยภูมิ ทราบข่าวว่าอาจมีการย้ายผู้บริหารรายนี้ไปที่นั่น ต่างพร้อมใจกันแสดงพลังเคลื่อนไหว โดยขู่ว่าหากเป็นเรื่องจริงจะใส่กางเกงมาทำงานแทนกระโปรง เพราะกลัวถูกแอบถ่ายใต้กระโปรง
ด้าน นพ.อำนาจ กุสลานันท์ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า ขณะนี้แพทย์หญิงผู้เสียหาย หรือญาติ ยังไม่ได้มาติดต่อร้องเรียนต่อแพทยสภา จึงขอให้แพทย์หญิงมาติดต่อร้องเรียนกับตนได้ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 8 ธันวาคมนี้ ซึ่งแพทยสภาพร้อมจะดูแลให้ความช่วยเหลือปกป้องสิทธิกรณีที่ถูกล่วงละเมิดและความปลอดภัยอย่างเต็มที่ จะไม่ให้มีการกลั่นแกล้งกันได้ โดยมั่นใจว่าดูแลได้ ไม่มีปัญหา เพราะ นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นกรรมการแพทยสภา แต่อยากได้ข้อมูลเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการจากแพทย์หญิงผู้เสียหายก่อน หลังจากนั้นจะประสานกับกระทรวงสาธารณสุข ขอให้ดูแลช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายเพราะต่างเป็นสมาชิกแพทยสภา จึงจะให้ผู้บริหารโรงพยาบาลใน จ.ชัยภูมิ มาชี้แจงด้วย
"ยังไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เท่าที่ทราบจากข่าวแพทย์หญิงแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ซึ่งเป็นกระบวนการยุติธรรมทางศาล ส่วนของแพทยสภานั้น ข่าวที่ออกมาเป็นการกระทำที่ผิดจริยธรรมวิชาชีพแพทย์อย่างมาก แพทยสภากำหนดโทษไว้สูงสุดคือ เพิกถอนใบประกอบวิชาชีพแพทย์" นพ.อำนาจกล่าว
เลขาธิการแพทยสภากล่าวอีกว่า เมื่อแพทย์หญิงมาร้องเรียน แพทยสภาจะตรวจสอบจริยธรรมวิชาชีพแพทย์ของผู้บริหารคนดังกล่าว โดยนำเรื่องเข้าอนุกรรมการจริยธรรมแพทย์ ซึ่งจะดำเนินการสอบสวนด้วยการเชิญทั้งแพทย์หญิงผู้เสียหายและผู้บริหารโรงพยาบาลใน จ.ชัยภูมิ มาชี้แจงข้อเท็จจริง และสรุปผลสอบสวนเสนอคณะกรรมการแพทยสภา หากพบว่ากระทำผิดจริงจะถูกลงโทษขั้นรุนแรง แต่ยังบอกไม่ได้ว่าถึงขั้นเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพแพทย์หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการแพทยสภา
ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่าผู้บริหารคนดังกล่าวจะไม่ลาออก โดยปล่อยให้เรื่องเงียบไปเฉยๆ เพื่อรอการโยกย้ายตามฤดูกาลของกระทรวง จะได้ย้ายไปโรงพยาบาลอื่นนั้น นพ.อำนาจกล่าวว่า แพทยสภาจะประสานไปยังกระทรวงสาธารณสุข ขอให้ช่วยดูแลในเรื่องนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง