ข่าว

หน้า 3 อี 1 /// หนุ่มขี้ยาทำทีเป็นลูกค้าจี้ชิงเงินสาวสปาย่านทองหล่อ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หน้า 3 อี 1 /// หนุ่มขี้ยาทำทีเป็นลูกค้าจี้ชิงเงินสาวสปาย่านทองหล่อ ++++ หนุ่มขี้ยา ทำทีเป็นลูกค้าสบโอกาสใช้ปืนปลอมจี้ชิงเงินพนักงานสาวร้านสปาย่านทองหล่อ ช่วงหลบหนีสายตรวจทองหล่อพบท่าทางพิรุธไล่กวดจับได้ทันควัน สารภาพก่อเหตุมาแล้ว 6 ครั้ง ร.ต.ท.กรกช ยงยืน หัวหน้าสายตรวจ สน.ทองหล่อ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.ทองหล่อ ได้ร่วมกันจับกุม นายอนุสรณ์ บุญเติม อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 816 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 57 แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม. หลังก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ในร้านสปาชื่อทองหล่อมาสซาส ซอยสุขุมวิท 55 หรือซอยทองหล่อ 1 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. หลังก่อเหตุได้พยายามหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงช่วยไล่สกัดจับ กระทั่งสามารถควบคุมตัวได้ จึงควบคุมตัวให้พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ดำเนินคดีข้อหาจี้ชิงทรัพย์ผู้อื่น โดยมีอาวุธหรือใช้อาวุธปืนปลอม พร้อมของกลางอาวุธปืนปลอม 1 กระบอก มีดพกปลายแหลมยาว 3 นิ้ว 1 เล่ม รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ไอคอน สีน้ำเงิน ทะเบียน วฉษ 634 กรุงเทพมหานคร 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และเงินสด 4,352 บาท ร.ต.ท.กรกชกล่าวว่า ขณะออกตรวจพื้นที่เพื่อป้องกันเหตุ กระทั่งมาถึงร้านสปาทองหล่อมาสซาส พบนายอนุสรณ์ วิ่งออกมาจากร้านสปา ท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้น แต่นายอนุสรณ์พยายามวิ่งหนี พร้อมกับทิ้งอาวุธปืน แต่สุดท้ายก็ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวไว้ได้ ด้าน น.ส.อสมาภรณ์ หาญฉิมพลี พนักงานร้านที่เกิดเหตุ กล่าวว่า คนร้ายเข้ามาทำทีสอบถามรายละเอียดเพื่อจะใช้บริการ พอสบโอกาส ขณะที่ตนอยู่เพียงลำพัง คนร้ายใช้อาวุธปืนมาจี้ที่เอว แล้วขู่บังคับให้นำเงินสดมาให้ ด้วยความกลัว จึงหยิบเงินสดจำนวนหนึ่งส่งให้คนร้าย จากนั้นคนร้ายก็รีบหลบหนีออกจากร้าน ขณะเกิดเหตุตกใจกลัวทำอะไรไม่ถูก แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจตราเห็นคนร้ายมีพิรุธจึงจับกุมคนร้ายได้ จากการสอบสวนเบื้องต้น นายอนุสรณ์ ให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้ว 6 ครั้ง ซึ่งทุกครั้งที่ลงมือเป็นร้านสปาย่านทองหล่อทั้งหมด เหตุผลที่เลือกร้านสปาเพราะระบบรักษาความปลอดภัยไม่เข้มงวด และผู้คนไม่เยอะ ส่วนใหญ่ก็จะมีแต่ผู้หญิงก่อเหตุได้โดยง่าย และจะจี้เอาเฉพาะเงินสด เนื่องจากนำไปใช้ได้เลย ตนจะหลีกเลี่ยงไม่เอาสร้อยแหวนเงินทองหรือเครื่องประดับมีค่า เพราะต้องนำไปจำนำหรือขายอีกที ซึ่งเป็นสิ่งที่ยุ่งยากและทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับได้ง่าย "ผมไม่ได้ทำงานอะไร เงินที่จี้ชิงทรัพย์ไปได้ผมก็นำไปซื้อยาบ้ามาเสพ การก่อเหตุแต่ละครั้งจะใช้ปืนปลอมจี้บังคับเอาเงินสดกับพนักงานในร้านสปา ซึ่งเป็นผู้หญิง ก่อนลงมือก็ทำทีเป็นลูกค้าเข้าไปในร้าน เมื่อสบโอกาสมีพนักงานอยู่คนเดียวก็จะลงมือ ส่วนใหญ่ผู้เสียหายก็ไม่ต่อสู้ขัดขืนเพราะกลัวว่าจะถูกทำร้าย และผมจะเลือกร้านที่คนไม่พลุกพล่าน" นายอนุสรณ์กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจับกุมนายอนุสรณ์ และให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้งก็ทำการสืบค้นประวัติ พบว่านายอนุสรณ์ มีหมายจับของศาลจังหวัดพระโขนง ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2551 ข้อหาจี้ชิงทรัพย์ ซึ่งออกหมายจับจากภาพกล้องวงจรปิดของร้านสปา โดยเห็นหน้านายอนุสรณ์ชัดเจนเนื่องจากไม่ได้สวมหมวกหรือคลุมใบหน้าแต่อย่างใด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะประสานผู้เสียหายและสถานีตำรวจใกล้เคียง เพื่อมาดูตัวผู้ต้องหาที่ สน.ทองหล่อ ต่อไป
logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ