คอลัมนิสต์

บทบรรณาธิการ / คม ชัด ลึก(ส่งใหม่อัพอี 5)

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บทบรรณาธิการ / คม ชัด ลึก(ส่งใหม่อัพอี 5) ภารกิจที่ต้องใช้ขั้วอำนาจใหม่ แม้ว่าจะยังคงมีความพยายามแข่งขันชิงไหวชิงพริบกันระหว่างสองขั้วการเมือง เพื่อจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ แต่ที่สุดแล้ว ภายในเวลา 30 วันถ้าหากรักษาการนายกรัฐมนตรีไม่เลือกยุบสภาเสียก่อน ก็จะต้องได้รัฐบาลตามกระบวนการ ซึ่งผลที่จะตามมาก็มองเห็นกันได้ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า ถ้าหากขั้วอำนาจเก่ากลับมาเป็นรัฐบาลอีก ปัญหาเดิมๆ ที่สั่งสมมานานก็จะไม่ได้รับการแก้ไข ซ้ำร้ายจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นด้วย ในทางกลับกัน ถ้าหากขั้วอำนาจใหม่เข้ามาเป็นฝ่ายบริหาร ยังจะพอมีหวังอยู่บ้างว่าจะแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองลงได้ หรืออย่างน้อยก็ช่วยบรรเทาเบาบางความรุนแรงลง โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดจากระบอบทักษิณที่ได้เข้ายึดกุมอำนาจแและชี้นำทิศทางของประเทศมายาวนานถึง 7 ปีเต็ม เช่นนี้แล้วย่อมเป็นธรรมดาอยู่เองที่สังคมจะคาดหวังกับรัฐบาลชุดใหม่ ที่จะเข้ามาเร่งฟื้นฟูบูรณะความเสียหายที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และเฉพาะอย่างยิ่ง ความแตกแยกร้าวฉานของผู้คนในบ้านเมือง ในด้านเศรษฐกิจนั้น เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าโดยเร่งด่วนที่สุด อย่างเช่น การเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นจากนานาชาติที่สูญเสียไป เพราะความบอบช้ำอันเนื่องมาจากการต่อสู้ต่อต้านระบอบทักษิณ ประชาชนแบ่งข้างรบพุ่งกันเอง ซึ่งกินเวลาติดต่อกันนานหลายปี การเตรียมการรับมือกับภาวะถดถอยที่คาดหมายกันว่าจะเกิดขึ้นในปีหน้า อย่างที่เรียกกันว่า ได้เวลาเผาจริง ส่วนในด้านสังคมและการเมืองนั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า วิธีการแบ่งประชาชนออกมาเป็นฝักฝ่ายของระบอบทักษิณ ได้สร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นกับคนในชาติอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ดังนั้นปัญหาเร่งด่วนที่จะต้องลงมือกระทำในทันทีก็คือการเยียวยาบาดแผลที่เกิดขึ้นนี้ อย่างที่มีผู้เสนอแนะเอาไว้แล้วก็คือ การสนับสนุนให้การเมืองภาคประชาชนแข็งแกร่งขึ้น จนสามารถมีบทบาทร่วม "คัดท้าย" รัฐนาวาให้แล่นไปในทิศทางที่ควรจะเป็นไป นั่นหมายถึงว่า ประเทศไทยจะเดินเข้าสู่แนวทางการปฏิรูปการเมืองอย่างแท้จริง พร้อมกันนั้น รัฐบาลในฐานะฝ่ายบริหาร จะต้องให้การสนับสนุนการทำหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม ภายใต้ภารกิจ "ตุลาการภิวัตน์" อันเป็นกำลังหลักในการจัดการให้การเมืองเข้ารูปเข้ารอย และกำจัดนักการเมืองสามานย์ออกไปจากระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักการเมืองผู้ซื้อเสียงเลือกตั้ง ซึ่งถือเป็นรากเหง้าของการทุจริตคอรัปชั่นในสารพัดรูปแบบ สร้างความเสียหายให้แก่บ้านเมืองอย่างไม่รู้จบสิ้น ที่สุดแล้ว รัฐบาลจะต้องใช้โอกาสที่ได้รับมานี้ต่อสู้กับความไม่ชอบธรรมทั้งหลายที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศ ที่สำคัญก็คือ อำนาจจากกลุ่มการเมืองที่พยายามสร้างความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ขึ้นในประเทศ ทั้งเพื่อให้ตนเองและพวกพ้องพ้นผิด ทั้งเพื่อกลับมาเถลิงอำนาจได้อีกครั้ง ทั้งนี้ แกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะต้องใช้ความกล้าหาญในการบริหารประเทศมากพอสมควร เมื่อเป็นดังนี้แล้ว ย่อมชี้ชัดว่า ถ้าหากขั้วอำนาจเก่าเข้ามาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง ปัญหาต่างๆ ก็จะไม่ได้รับการแก้ไข ซ้ำร้ายยิ่งจะทำให้เกิดวิกฤติรุนแรงมากยิ่งขึ้นอีก
logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ