ข่าว

เจ้าหญิงลำซิ่ง 11 // ** 27797105 **

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เจ้าหญิงลำซิ่ง 11 // ** 27797105 ** เสือหยกรอดชีวิตมาได้เพราะชายเก็บขยะเก็บกระสอบที่ลอยมาตามน้ำและเห็นสภาพเสือหยกยังมีลมหายใจ เสือหยกถูกนำส่งโรงพยาบาลโดยพักอยู่ห้องตรงข้ามกับสายชล อาการเสือหยกก็ดีขึ้น จนกระทั่งเสือหยกได้เห็นภาพรัศมีมาเยี่ยมสายชล เสือหยกได้จังหวะบุกเข้าห้องสายชล และบังคับให้สายชลพาไปหาตัวขวัญรัศมี เวลาเดียวกันนั้นรจนาก็รวมหัวกับชำนิ และกำไล อาศัยจังหวะนาวีอยู่กับขวัญวารินเพียงสองคน บุกเข้าจับตัวทั้งคู่ เพื่อจะกันไม่ให้ขวัญวารินขึ้นเวทีคอนเสิร์ตเดียวกับรจนา เรื่องราวบานปลายไปกันใหญ่เมื่อสายชลพาเสือหยกมาถึงบ้านพนิดา เสือหยกซัดสายชลจนสลบ รัศมีมาโรงพยาบาลเห็นสายชลหายไปก็ตกใจ จนสอบถามจากพยาบาลรู้ว่าคนป่วยห้องตรงข้ามเป็นคนเวียงสิงห์ก็เอะใจรีบไปที่บ้านพนิดา ไปถึงเจอสายชลสลบอยู่บนรถ ส่วนพวกที่เหลือพากันวิ่งไปหลบบนบ้าน หลังขวัญวารินบอกว่าเสือหยกเป็นมือสังหาร เสือหยกตามมาถึงห้องหนึ่งซึ่งชำนิกับกำไลซ่อนอยู่ใต้เตียง ส่วนขวัญวารินกับนาวีซ่อนอยู่ในตู้ เสือหยกได้ยินเสียงใต้เตียงก็ยิงปืนขึ้น กำไลร้องว้าย เสือหยกให้ทั้งคู่คลานออกมาและถามหาเจ้าหญิง สองคนมองหน้ากันเหรอหรา เสือหยกง้างนกปืนอย่างไม่พอใจ จังหวะนั้นเองขวัญวารินก็ตัดสินใจโผล่จากตู้เสื้อผ้าที่ซ่อนตัวโจนเข้าล็อกตัวเสือหยก "วาริน" "พี่วี รีบหนีเร็ว" เสือหยกพยายามจะยิงปืนใส่นาวี แต่ขวัญวารินยื้อปืนไว้ทำให้กระสุนลั่นถูกข้าวของในห้องแตกกระจาย กำไลร้องกรี๊ดลั่นพาชำนิหนีออกไปด้วยกัน รัศมีกำลังวิ่งขึ้นบันไดแต่แล้วก็เจอชำนิกับกำไลวิ่งสวนลงมา รัศมีรีบคว้าตัวกำไลมาถาม "วารินอยู่ข้างบนรึเปล่า" "โอ๊ย ไปดูเองสิยะ หน้าสิ่วหน้าขวานมัวถามอยู่ได้ ไปเถอะพี่ชำนิ รีบเผ่น" กำไลผลักรัศมี แล้วลากชำนิหนีไป รัศมีรีบขึ้นไปยังข้างบน ขวัญวารินพยายามต่อสู้กับเสือหยกแต่พลาดท่าถูกเสือหยกซัดจนกระเด็น เสือหยกยกปืนจะยิงใส่ขวัญวารินแต่นาวีก็โผล่มาต่อยเข้าเปรี้ยง "พี่วี" เสือหยกจะยิงปืนใส่นาวี แต่นาวีก็เตะจนปืนหลุดมือ ก่อนจะตรงเข้าชกต่อยซ้ำอย่างเมามัน เสือหยกไม่ทันตั้งหลักก็เลยโดนเล่นงานยกใหญ่ "นี่ เก่งนักใช่มั้ย มือสังหารงั้นเหรอ นี่แน่ะ" "พี่วีระวังนะ" "ไม่ต้องห่วงวาริน พี่จัดการได้" นาวีกระชากคอเสือหยกมาจะต่อยซ้ำ แต่แล้วเสือหยกก็คว้าเอาเศษกระจกที่พื้นมาแทงใส่ท้องนาวีจนมิด เลือดทะลัก "พี่วี" ขวัญวารินถลาเข้าไปประคองร่างนาวี ขณะที่เสือหยกก็โผไปคว้าปืนมาเล็งใส่ทั้งคู่ ขวัญวารินกอดนาวีหลับตาปี๋กะว่าตายแน่ แต่แล้วรัศมีก็โผล่มาพร้อมกับเล็งปืนไปที่เสือหยก "เสือหยก!" ปืนในมือของเสือหยกถูกยิงหลุดมือ รัศมีกระหน่ำยิงซ้ำ เสือหยกตัดสินใจกระโจนหนีออกไปนอกหน้าต่าง ร่างของมันร่วงตูมลงไปในสระว่ายน้ำ รัศมีรีบตามไปดูและเห็นว่าเสือหยกพอขึ้นจากสระได้ก็รีบหนีไปตามอย่างรวดเร็ว เวลานั้นนาวีเริ่มหน้าซีดอย่างเห็นได้ชัด จนขวัญวารินตกใจ "พี่วี พี่วีเป็นยังไงบ้าง" "วาริน" นาวีเสียงแผ่ว ขวัญวารินมองไปที่แผลของนาวีเห็นมีเลือดทะลักออกมามากมาย นาวีกำลังนอนหายใจระรวยในอ้อมแขนของขวัญวาริน โดยมีรัศมีเฝ้าดูอยู่ห่างๆ "พี่วี ทำใจดีๆ ไว้นะ รถพยาบาลกำลังจะมา" "วาริน ไม่ต้องเป็นห่วงพี่ รีบไปที่คอนเสิร์ตเถอะ ทุกคนกำลังรออยู่" "นี่นาย เวลาแบบนี้ยังจะให้วารินร้องเพลงอีกเหรอ" ขวัญวารินมองนาวีอย่างลังเล เขาเอื้อมมากุมมือเธอเอาไว้ "ที่ผ่านมาเราทำทุกอย่างก็เพื่อจะมีวันนี้ วารินอย่าลืมสิ" "แต่ว่าพี่เจ็บอยู่แบบนี้ วารินจะเอาใจที่ไหนไปร้องเพลง วารินทำไม่ได้หรอก" "ต้องได้สิ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นพี่จะอยู่เคียงข้างวาริน ตลอดไป" นาวีหมดสติไป ขวัญวารินตกใจ เวลานั้นสายชลก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาถามว่านาวีเป็นไงบ้าง "แค่หมดสติ แต่ชีพจรอ่อนมาก" รัศมีจับชีพจรแล้วบอกทุกคน ขวัญวารินกระซิบ "พี่วี รอวารินนะ แล้ววารินจะรีบกลับมาฝากพี่นาวีด้วยนะคะคุณสายชล" "นี่วารินจะไปที่คอนเสิร์ตจริงๆ เหรอ" "พี่วีพูดถูกแล้วค่ะ ทุกคนกำลังรออยู่" ขวัญวารินรับปากกับรัศมีว่าผ่านคอนเสิร์ตครั้งนี้ไปได้จะกลับไปเวียงสิงห์ พอมาถึงพนิดาก็ทำหน้าโกรธมากบอกว่าทุกอย่างสายไปแล้ว เพราะรจนาได้เสียงกรี๊ดจากคนดูเยอะมาก และขวัญวารินก็เลยคิวไปเยอะแล้ว ขวัญวารินเห็นสายตาและคำพูดที่ดูถูกของพนิดาก็ฮึดสู้ ยิ่งได้เห็นรจนาได้เสียงปรบมือเท่าไหร่ก็ยิ่งฮึกเหิมเท่านั้น ตัดสินใจฉีกกระโปรง และจับเผ่าผมให้เข้ารูปโดดขึ้นเวทีทันที รจนามองขวัญวารินแล้วยังยิ้มเยาะ พอมองเห็นขวัญวารินเริ่มโชว์ลีลาร้องบนเวที ก็จัดการก๊อกสอง ทำให้เทคนิคไฟมีปัญหา แต่ขวัญวารินยังไม่ย่อท้อร้องทั้งๆ ที่ไม่มีไฟ จนในที่สุดไฟและเครื่องเสียงต่างๆ ก็กลับมาเหมือนเดิม รจนาหงุดหงิดมากเดินมาหลังเวที เจอตำรวจพากำไลกับชำนิมา ชำนิรีบบอกตำรวจว่ารจนาเป็นตัวบงการอยู่เบื้องหลัง รจนาหน้าเสีย บนเวทีขวัญวารินร้องเพลงจบลงท่ามกลางเสียงปรบมือของคนดู เห็นทีมงานฝ่ายคอนเสิร์ตคนหนึ่งมากระซิบบอกอะไรบางอย่างแก่กวิน กวินรีบผละไปจากงาน "ก่อนอื่นวารินต้องขอขอบคุณแฟนเพลงทุกคนมากนะคะที่มาให้กำลังใจในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นแฟนเพลงของวารินหรือของคุณรจนาก็ตามแต่สำหรับคนที่กำลังโหวตคะแนนให้เราทั้งคู่ วารินขอให้หยุดเถอะค่ะ" พิธีกรมองหน้ากันงงๆ เห็นเจ้าหน้าที่กำกับเวทีส่งซิกให้นักดนตรีเล่นดนตรีคลอไปเรื่อยๆ "เพราะวาริน ยอมแพ้" ผู้คนฮือฮา ภาพเน้นที่หน้าเสี่ยอำนวยและพนิดาที่ยืนอยู่คู่กัน "วารินไม่เชื่อว่าเรตติ้ง หรือยอดขายจะชี้วัดคุณค่าของใครได้" ขวัญวารินพูดจากใจ แต่ในช่วงเวลานั้น รจนาถูกใส่กุญแจมือ และถูกคุมตัวขึ้นรถตำรวจไปพร้อมกับชำนิและกำไล เห็นนักข่าวหลายคนตามกรูกันเข้ามาถ่ายรูปรจนา "ไม่ว่าในวันนี้ใครจะแพ้หรือชนะ ทุกอย่างก็ต้องกลายเป็นอดีต แต่สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือเรื่องราวที่วารินกับคุณรจนาได้ทำลงไป" รจนายิ้มรับแสงแฟลชอย่างหมองๆ พรุ่งนี้เธอจะได้เป็นข่าวขึ้นหน้าหนึ่ง โด่งดังกว่านักร้องคนไหนๆ "นั่นคือหนทางเดียวที่จะชี้วัดได้ว่าใครมีศักดิ์ศรีหรือคุณค่ามากกว่ากัน" กวินที่เพิ่งตามมาถึงได้แต่มองภาพของรจนาอย่างไม่เชื่อสายตา "และทั้งหมดนี่ก็คือความสุข ความภาคภูมิใจของวารินในการที่ได้มาอยู่บนเวทีนี้ ขอบคุณมากค่ะ" ท่ามกลางเสียงปรบมือที่ดังขึ้นอีกครั้งอย่างกึกก้อง แฟนเพลงโยนดอกไม้ขึ้นไปบนเวที แต่แล้วฉับพลันนั้นไฟฟ้าก็ดับวูบลง "คุณลุงคะ" "ไม่ต้องห่วงหนูดา อีกเดี๋ยวไฟฉุกเฉินก็ทำงาน" เสี่ยอำนวยบอก ทันใดนั้นระบบไฟฉุกเฉินทำงานจริงๆ แต่วารินหายตัวไปจากเวทีเรียบร้อยแล้ว! ผู้คนพากันฮือฮา "วาริน" พนิดาตะลึงเสียงเพลงยังคงล่องลอย บนเวทีเหลือเพียงดอกไม้เกลื่อนพื้น เช้าวันรุ่งขึ้นสายชล กำลังคลี่หนังสือพิมพ์เพื่ออ่านข่าว "ลำซิ่งหญิงวารินหายตัวลึกลับบนเวทีคอนเสิร์ต ตำรวจเชื่อ รจนากับพวกอยู่เบื้องหลัง" สายชลถอนใจ ก่อนจะเหม่อมองไป "จนป่านนี้ยังไม่มีข่าววารินอีกเหรอ" ขณะนั้นพนิดากำลังเช็ดตัวให้นาวีที่นอนพักฟื้นอยู่ในห้อง "ดาเคยอธิบายกับคุณแล้วไงคะ เรื่องที่วารินเป็นองค์หญิงหรือว่าคุณไม่เชื่อ" "ก็เชื่อครับ แต่ว่า" นาวีลังเล "วารินคงไม่กลับมาอีกแล้วค่ะคุณนาวี ทุกอย่างมันจบแล้ว พักผ่อนมากๆ นะคะ" พนิดาถืออ่างน้ำออกไปจากห้อง เห็นเธอหันมองนาวีอย่างหนักใจอีกนิดหนึ่งก่อนจะออกไปทิ้งให้นาวีนั่งเหม่อตามลำพังบนเตียง "วาริน ทำไมคุณถึงต้องหายไปแบบนี้ด้วย ทำไมไม่บอกลาพี่สักคำ" นาวีคิดถึงขวัญวารินจับใจ ส่วนขวัญวารินยืนเหม่ออยู่ที่ระเบียง พลางปรับทุกข์กับรัศมีที่นั่งปอกผลไม้อยู่ในห้องของโรงแรมแห่งหนึ่ง "ถ้าบอกลาพี่นาวี วารินก็คงทำใจไม่ได้ วารินว่าปล่อยให้ทุกอย่างมันจบลงแบบนี้ดีกว่า หายตัวไป เหมือนไม่เคยมีคนชื่อนี้มาก่อน" "ทรงทำถูกแล้วเพคะ" "แล้วเราจะเดินทางกันเมื่อไหร่เหรอพี่หมี" "เรือสินค้าจะออกจากท่าวันมะรืนนี้เพคะ ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย" "ไม่รู้ป่านนี้พี่วีจะเป็นยังไงบ้าง" ขวัญวารินรู้สึกเหงาขึ้นมาจับใจ 000000000000000 เสือหยกติดต่อทหารที่เวียงสิงห์ให้มารับตัว สิงห์เพชรส่งลูกสาวขึ้นรถกับญาติคนหนึ่ง กำลังมองดูลูกอย่างอาลัย พอหันกลับมาได้ยินเสียงรถจำนวนมากมาจอด ภาสกรเดินลงมา บอกมีสหายคนหนึ่งต้องการเจอ ไม่ทันไรเสือหยกก็เดินลงมา สิงห์เพชรตกใจมาก สิงห์เพชรถูกนำตัวมาขังห้องเดียวกับเดชา และบอกเดชาว่าเสือหยกรอดมาได้ ทั้งคู่กังวลใจมาก ท่ามกลางเสียงไซเรนและเสียงปืนที่แว่วมา เห็นเจ้าวิไลจรัสเสด็จมาดูที่หน้าต่างอย่างหนักพระทัย ก่อนที่ภาสกรจะมาเข้าเฝ้า "สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง" "มีผู้ต่อต้านมากขึ้นพะยะค่ะ แต่หม่อมฉันก็ได้สั่งเพิ่มกำลังทหารเพื่อสลายการชุมนุมแล้ว" "วันนี้ไล่มันไป วันหน้าพวกมันก็มาใหม่ บทเรียนในประวัติศาสตร์ก็มีให้เห็น" "หม่อมฉันไม่มีทางเลือกอื่น" "ยังมีอีกวิธีหนึ่ง ถ้าลูกจับเป็นองค์หญิงขวัญวารินกลับมาได้ ในเมื่อประชาชนเรียกหาขวัญวารินกับสันติภาพ เราก็มอบให้พวกมันซะสิ" ที่โรงแรมขวัญวารินเพิ่งอาบน้ำเสร็จ พอออกมาก็เห็นรัศมีกำลังดูทีวีอยู่ตาเขม็ง ข่าวรายงานการจราจลของเวียงสิงห์ และมีข่าวของนายพลเดชา รัศมีเหลือบเห็นขวัญวารินก็ตัดสินใจกดรีโมทปิดทีวี "อ้าวทำไมล่ะพี่หมี" "เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเราเพคะ พรุ่งนี้เราต้องเดินทางตามกำหนดเดิม" "นายพลเดชา วารินคุ้นๆ ว่าเป็นพ่อของพี่หมีไม่ใช่เหรอ" "ฝ่าบาททรงจำผิดแล้วเพคะ" รัศมีเลี่ยง "ไม่ได้นะพี่หมี จะปล่อยตัวให้ท่านนายพลตายแบบนี้ได้ยังไง ต้องทำอะไรเข้าสักอย่างสิ" "หน้าที่ของหม่อมฉันคือคุ้มกันฝ่าบาท ส่วนเรื่องอื่นคงต้องขึ้นอยู่กับโชคชะตาแล้วเพคะ" ขวัญวารินอึ้งไป เวลาผ่านไปสักพัก ที่ระเบียงห้องรัศมีนั่งซุกตัวร้องไห้อย่างหมดสภาพ "ท่านพ่อ" ในเวลานั้นขวัญวารินที่แกล้งทำเป็นหลับอยู่ได้แอบมองตลอดเวลา เริ่มคิดว่าต้องทำอะไรเพื่อรัศมีบ้าง ขวัญวารินแอบย่องลงมาจากห้องพักและกดโทรศัพท์สาธารณะ "ฮัลโหล ขอสอบถามเบอร์โทรของหน่วยงานต่างประเทศค่ะ ฝ่ายกิจการภายใน สำนักราชวังเวียงสิงห์" วันรุ่งขึ้นที่ห้องโถงตำหนักเจ้าวิไลจรัส วิไลจรัสคาดคั้นเมื่อทราบเรื่องจากภาสกร "แน่ใจเหรอว่าเป็นขวัญวาริน" "ตรวจสอบดูแล้วพะยะค่ะ ใช่เสียงของขวัญวารินแน่นอน" ภาสกรมองไปเห็น เจ้าหน้าที่คนหนึ่งซึ่งประจำอยู่ทีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กได้เปิดเสียงที่บันทึกไว้ผ่านทางโปรแกรมตรวจสอบคลื่นเสียง "เจ้าป้า เจ้าพี่ภาสกร นี่หม่อมฉันขวัญวารินเองเพคะ หม่อมฉันต้องการยุติเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ถ้าหากชีวิตของหม่อมฉันมีค่าพอ ก็ขอแลกมันกับชีวิตของท่านนายพลเดชา และประชาชนชาวเวียงสิงห์" "ใช่ขวัญวารินจริงๆ" "น้องหญิงต้องการแลกชีวิตตัวเองกับนายพลเดชา" "นัดเจอที่ไหน" "ฝั่งไทยพะยะค่ะ" วันต่อมารัศมีตื่นขึ้นมาพบว่าขวัญวารินหายไปแล้ว ขวัญวารินร้อนใจมากรีบมาถามพนักงานที่ล็อบบี้ สอบถามว่าเห็นขวัญวารินไหม พนักงานบอกว่าขวัญวารินมาสอบถามว่าจะขึ้นรถไปที่สะพานข้ามแม่น้ำ รัศมีรีบตามไปทันที ที่สะพานข้ามแม่น้ำฝั่งไทยภาสกร เสือหยกพร้อมด้วยองครักษ์ฝีมือดีอีกจำนวนหนึ่งจอดรถรออยู่ ทั้งหมดปลอมตัวเป็นพลเรือนทั่วไป สักครู่ก็เห็นขวัญวารินเดินมาจากสะพานอีกฟาก "น้องหญิง ไม่ได้เจอซะนานเลยนะ" "เจ้าพี่ภาสกร" ขวัญวารินครุ่นคิดสักพัก "จำพี่ได้แล้วนี่ นึกว่าความจำยังไม่หายเสื่อมซะอีก มาเถอะ พี่จะพาน้องหญิงกลับบ้าน" ขวัญวารินเกือบจะเดินไปหาภาสกร แต่แล้วรัศมีร้องเรียก ขวัญวารินหันมองไปเห็นรัศมีวิ่งตามเธอมา "พี่รัศมี" พวกองครักษ์พากันชักปืนออกมา รัศมีจึงชะงักฝีเท้า ภาสกรชูมือห้ามพวกองครักษ์ "อย่าเพิ่งลงมือ" "อย่าทรงเสด็จไปนะเพคะ พวกมันมีแผนร้าย" "พี่ให้สัญญา ถ้าน้องหญิงยอมตามพี่กลับไป พี่จะคืนสันติภาพให้แก่เวียงสิงห์เป็นการตอบแทน" "องค์หญิง อย่าทรงเชื่อนะเพคะ ถ้าเสด็จไปกับพวกมันเมื่อไหร่ จะทรงกลับมาไม่ได้อีก" "พี่รัศมี พี่กลับไปเถอะ ฝากบอกพี่นาวีด้วย ว่าชาตินี้วารินทำบุญมาแค่นี้" "ฝ่าบาท" รัศมีทำท่าจะตรงมาหาขวัญวาริน ทั้งที่พวกองครักษ์เล็งปืนอยู่ที่เธอ รัศมีกำหมัดแน่นพร้อมจะเสี่ยงตายเพื่อขวัญวาริน ขวัญวารินเห็นเข้าก็ร้องเตือน "รัศมี! ถ้ายังเห็นเราเป็นเจ้านาย ก็ทำตามที่เราสั่ง!" รัศมีชะงักไป ขวัญวารินย่อตัวลงถอดสร้อยข้อเท้าที่นาวีเคยให้เธอออกแล้ววางไว้ที่ราวสะพาน ก่อนจะเดินน้ำตาซึมไปหาภาสกรช้าๆ ภาสกรกระชากตัวเธอมาในอ้อมกอด "พี่รอวันนี้มานานแล้วขวัญวาริน พวกเรากลับ" "แต่ว่ารัศมี" เสือหยกลังเล ภาสกรมองที่ขวัญวารินแล้วสั่ง "ห้ามใครทำร้าย ว่าที่เพื่อนเจ้าสาวของเราเด็ดขาด ไป" ขบวนรถจากไป รัศมีได้ทรุดเข่าลงอย่างหมดแรง "องค์หญิง" รัศมีหยิบสร้อยข้อเท้าของวาริน ขวัญวารินมาถึงเวียงสิงห์ และมาพบกับเจ้าวิไลจรัส ขวัญวารินถวายคำนับเก้ๆ กังๆ เพราะห่างไปนาน "เจ้าป้า ถวายบังคมเพคะ" "ขวัญวารินหลานป้า สบายดีเหรอ" "เพคะ" "ตั้งแต่หลานกลับมาก็เอาแต่เก็บตัวอยู่ที่ตำหนัก ใจคอไม่คิดจะออกไปเปิดหูเปิดตาบ้างหรือไง" "แผ่นดินเวียงสิงห์กำลังลุกเป็นไฟ ไม่มีที่ไหนน่าดูหรอกเพคะ" "ยังปากกล้าเหมือนเดิมนะ ก็ดี งั้นเรามาพูดเปิดอกกันเถอะ ป้าต้องการให้หลานเข้าพิธีอภิเษกกับภาสกรโดยเร็วที่สุดเพื่อยุติปัญหาที่เกิดขึ้น" "เจ้าป้าทรงคิดว่านี่คือทางออกหรือเพคะ" "ประชาชนชาวเวียงสิงห์รักเสรีภาพ และก็เชื่อมั่นในระบบกษัตริย์ ดังนั้นถ้าหลานยอมรับในตัวภาสกรได้ ประชาชนก็จะคล้อยเช่นกัน" "หากทำเช่นนั้น ก็เท่ากับหม่อมฉันยกแผ่นดินเวียงสิงห์ให้เป็นของเจ้าพี่" "สามีภรรยาถือครองสมบัติร่วมกัน ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน" "แต่ว่าหม่อมฉันมีเงื่อนไขเพคะ" "ซักกี่ข้อดีล่ะ ว่ามาสิ" เจ้าวิไลจรัสกำลังนั่งอ่านโพยเงื่อนไขของขวัญวารินให้เจ้าภาสกรฟัง เจ้าภาสกรเดินไปมาอย่างหงุดหงิดเต็มที "ข้อต่อไป การแต่งงานต้องเป็นเพียงแต่ในนาม ห้ามภาสกรแตะต้องขวัญวารินเด็ดขาด" "ไม่ให้แตะต้อง แล้วจะมีรัชทายาทองค์ต่อไปได้ยังไง หรือว่าเป็นเด็กหลอดแก้ว" ภาสกรหงุดหงิด เจ้าวิไลจรัส ชูมือห้ามไม่ให้ทัก กำลังอ่านต่อ "ข้อต่อไป ห้ามใช้กำลังในการปราบจลาจลอีกเด็ดขาด ขวัญวารินรับปากว่าจะขอเจรจากับแกนนำประชาชนด้วยตนเอง" "หมดรึยังพะยะค่ะ" "ข้อสุดท้าย ขอให้ปล่อยตัวนายพลเดชากับพรรคพวก โดยห้ามดำเนินคดีใดๆ ทั้งสิ้น" "นี่มันบ้าชัดๆ" "ลูกเห็นว่าเป็นไง" "เห็นว่าควรจะฆ่านางก่อนที่จะมีเงื่อนไขอีกข้อพะยะค่ะ" "ภาสกร นี่ไม่ใช่เวลามาใช้อารมณ์" "ก็ได้พะยะค่ะ หม่อมฉันยอมรับเงื่อนไขได้ทุกข้อ ยกเว้นข้อเดียวคือการปล่อยตัวนายพลเดชา เพราะมันเท่ากับเป็นการปล่อยเสือเข้าป่าชัดๆ" "ไม่เห็นจะยากอะไรนี่ ในเมื่อแต่งงานหลอกๆ ได้ ทำไมจะปล่อยตัวหลอกๆ บ้างไม่ได้" เจ้าภาสกรเอะใจ เจ้าวิไลจรัสยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ วันต่อมาขวัญวารินออกแถลงข่าวทางทีวีประกาศว่าการแต่งงานกับภาสกรเป็นไปอย่างสมัครใจขอให้ประชาชนยุติความวุ่นวาย อยากให้บ้านเมืองสงบสุข ที่บ้านครูเสน่ห์ทุกคนกำลังดูทีวีกันพร้อมหน้า หันมาอีกทีนาวีหายไปแล้ว สายชลวิ่งลงมาจากบ้าน เห็นนาวีทำท่าสตาร์ทรถก็รีบมาห้าม "ถึงไม่ได้ก็ต้องไป พี่ยอมตายดีกว่าทนเห็นวารินถูกข่มเหงแบบนี้" "แล้วถ้าพี่ตาย ใครจะช่วยวารินแทนพี่เราต้องระดมสมัครพรรคพวก ต้องวางแผนให้ได้ก่อน แล้วค่อยลงมือต่างหาก" "สายชลพูดถูก" สายชลกับนาวีหันไปจึงเห็นรัศมียืนอยู่ "ถ้านายอยากช่วยวาริน นายต้องทำตามแผนของฉัน" นาวีอึ้งไป ในขณะที่ครูเสน่ห์กับคนในบ้านพากันยืนดูเหตุการณ์อยู่ที่ชานเรือน จบตอน 11
logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ