ข่าว

รวมหนาว (หน้า 1 อี 2 )) อุณหภูมิที่ดอยอินทนนท์ -1 องศาเซลเซียส

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รวมหนาว (หน้า 1 อี 2 )) อุณหภูมิที่ดอยอินทนนท์ -1 องศาเซลเซียส ในหลวงพระราชทานผ้าห่มกันหนาวแก่ราษฎรที่แม่ฮ่องสอน ขณะที่อุณหภูมิที่ดอยอินทนนท์ -1 องศาเซลเซียสแล้ว แม่ฮ่องสอน-ลำพูนประกาศพื้นที่ประสบภัยทั้งจังหวัด อุตุฯเตือนอุณหภูมิลดลงอีก1-2 องศา ท่องเที่ยวลำปางคึกคัก นักท่องเที่ยวแห่เที่ยวอุทยานแจ้ซ้อน ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย คาดสะพัดกว่า 40 ล้าน ///////////////////////////// สภาพอากาศที่หนาวเย็นในช่วงนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวแห่ไปสัมผัสอากาศหนาวเย็นที่ จ.เชียงใหม่ กันอย่างคึกคัก โดยเช้าวันที่ 8 ธันวาคม อุณหภูมิบนยอดหญ้าที่ดอยอินทนนท์ติดลบ 1 องศาเซลเซียส มีน้ำค้างแข็งขาวโพลนไปทั่วบริเวณยอดดอย ส่วนอุณหภูมิพื้นล่างที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือวัดได้ 16.2 องศาเซลเซียส นายนพดล กันธรรม ปลัดอำเภออมก๋อย จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้ราษฎรทั้ง 95 หมู่บ้านใน 6 ตำบลของ อ.อมก๋อย กำลังประสบความเดือดร้อนจากสภาพอากาศหนาวเย็น โดยราษฎรกว่า 5 หมื่นคน ยังขาดผ้าห่มและเสื้อกันหนาว ขณะที่ภาคเอกชนได้บริจาคผ้าห่ม 3,000 ผืน และเสื้อกันหนาว 2,500 ผืน ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทำให้หลายครอบครัวต้องอาศัยไออุ่นจากการผิงไฟตลอดทั้งคืน ทั้งนี้ พื้นที่ อ.อมก๋อย เป็นดอยสูงและเป็นพื้นราบเพียงร้อยละ 20 ทำให้มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี อุณหภูมิพื้นราบในฤดูหนาวเฉลี่ย 8-10 องศาเซลเซียส ขณะที่ยอดดอยหนาวจัดอุณหภูมิ 3-6 องศาเซลเซียส และบางปียังลดถึง 1 องศาเซียลเซียส ทำให้ราษฎรส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นชาวกะเหรี่ยงมีฐานะยากจนและอาศัยอยู่บนยอดดอยสูง ต้องประสบภัยหนาวเป็นประจำทุกปี และมีจำนวนไม่น้อยที่ต้องล้มป่วยด้วยโรคปอดปวมจนถึงขั้นเสียชีวิต ส่วนเครื่องนุ่งห่มกันหนาวที่มีการแจกจ่ายในแต่ละปี ยอมรับว่าไม่ทั่วถึงผู้ประสบภัย เนื่องจากงบประมาณภาครัฐมีจำกัด ขณะที่ความช่วยเหลือจากภาคเอกชนก็มีไม่มากนัก นอกจากนี้ทุกปีที่ผ่านมามีการเรียกผู้นำชุมชนเป็นตัวแทนรับมอบยังที่ว่าการอำเภอ แต่กลับพบว่าสิ่งของบริจาคถึงมือผู้ประสบภัยไม่ครบจำนวน ซึ่งปีนี้อำเภอได้มอบหมายให้องค์การบริหารส่วนตำบลเป็นผู้แจกจ่าย โดยกำชับให้แจกจ่ายอย่างทั่วถึง พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ให้คำแนะนำในการเก็บรักษาผ้าห่มที่ได้รับบริจาคให้อยู่ในสภาพใช้การได้อย่างน้อย 3 ปี พระราชทานผ้าห่มกันหนาวราษฎร ที่ จ.แม่ฮ่องสอน นายธงชัย วงษ์เหรียญทอง ผู้ว่าราชการจังหวัด ประกาศให้ 7 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบพิบัติภัยหนาว เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว เนื่องจากอุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่องกว่า 15 องศาเซลเซียส เกิน 3 วัน สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดรายงานข้อมูลล่าสุดของราษฎรที่เดือดร้อนขาดแคลนเครื่องกันหนาว 9 หมื่นราย หากการช่วยเหลือของหน่วยงานท้องถิ่นยังไม่เพียงพอสามารถประสานขอรับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากจังหวัด วันเดียวกัน นายขวัญแก้ว วัชโรทัย นายกมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมนายธงชัย วงษ์เหรียญทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมเปิดป้ายโรงเรียนพร้อมมอบเครื่องแบบนักเรียน อุปกรณ์การเรียน และผ้าห่มกันหนาวพระราชทาน แก่นักเรียนโรงเรียนสังวาลย์วิทยา ต.แม่เหาะ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเด็กนักเรียนส่วนใหญ่พ่อแม่มีฐานะยากจน ขณะเดียวกันได้มอบผ้าห่มกันหนาวให้แก่ราษฎรที่ประสบภัยหนาวใน ต.แม่เหาะจำนวน 500 คน และเยี่ยมชมนิทรรศการผลงานนักเรียน และกิจการการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ซึ่งโรงเรียนแห่งนี้ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนที่ จ.ลำพูน นายชุมพร อินต๊ะเทพ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่หนาวจัดในระยะนี้ ทำให้จังหวัดลำพูนประกาศให้ 8 อำเภอทั้งจังหวัด เป็นพื้นที่ประสบภัยหนาว โดยสำรวจพบผู้ประสบภัยที่ต้องการความช่วยเหลือทั้งหมดประมาณ 2.3 หมื่นราย มีความต้องการผ้าห่ม 2.3 หมื่นผืน และเสื้อกันหนาวอีกประมาณ 6,000 ผืน ขณะที่พื้นที่ที่ต้องให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนเนื่องจากมีสภาวะอากาศหนาวจัดคือ อ.ลี้ อ.ทุ่งหัวช้าง และ อ.แม่ทา ล่าสุดสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้จัดงบประมาณร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่จัดซื้อเครื่องนุ่งห่มกันหนาวแจกจ่ายแล้วประมาณ 1 หมื่นผืน ส่วนที่เหลือจะขอรับการสนับสนุนจากภาคเอกชนต่อไป โดยมั่นใจว่าเครื่องนุ่งห่มกันหนาวทั้งหมดจะถูกแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยอย่างทั่วถึง ก่อนลมหนาวระลอกใหม่จะมาถึงกลางเดือนธันวาคมนี้ ขณะที่หลายพื้นที่ของ จ.พิษณุโลก โดยเฉพาะบนภูเขาสูง ประสบภัยหนาว และมีผู้รอความช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านที่อยู่บนดอยสูง และที่ อ.นครไทย ซึ่งมีพื้นที่ติดกับเทือกเขาเพชรบูรณ์ และภูหินร่องกล้า ต่างผิงไฟอาศัยไออุ่นไล่ความหนาวเย็น เนื่องจากอุณหภูมิลดต่ำเหลือเพียง 7-8 องศาเซลเซียส ติดต่อกันมานานนับสัปดาห์ ทั้งยังประสบปัญหาขาดแคลนเสื้อผ้ากันหนาวจำนวนมาก เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่มีฐานะยากจน และหน่วยงานราชการมีงบประมาณจำกัด ทำให้การช่วยเหลือทำได้อย่างจำกัดและไม่ทั่วถึง โดยพบว่ายังมีผู้รอความช่วยเหลืออีกมากกว่า 5,000 ครัวเรือน ขณะที่อุณหภูมิในพื้นที่ยังคงมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง อุตุฯเตือนอุณหภูมิลดลงอีก1-2องศา กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนภัย เรื่องอากาศหนาวเย็นปกคลุมประเทศไทยตอนบน และคลื่นลมแรงในอ่าวไทย ฉบับที่ 17 ลงวันที่ 08 ธันวาคม 2551 ระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็น โดยอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทยยังมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงไปมีฝนหนาแน่น และมีฝนหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยตามภูเขาสูงและริมแม่น้ำบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ในระยะนี้ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยสูง 2-4 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 8-9 ธันวาคมด้วย ลำปางคนแห่เที่ยวอุทยานฯแจ้ซ้อน ผลจากอากาศหนาวเย็นยังทำให้นักท่องเที่ยวแห่ไปเที่ยว จ.ลำปาง เช่นกัน นายธนชัย พงษ์โสภาวิจิตร นายกสมาคมท่องเที่ยวนครลำปาง เปิดเผยว่า จากวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ระหว่างวันที่ 5-7 ธันวาคม ทำให้การท่องเที่ยวใน จ.ลำปาง คึกคักอย่างมาก คาดว่ามีเงินสะพัดไปต่ำกว่า 40 ล้านบาท แหล่งท่องเที่ยวที่ถือว่าได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด คือ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ซึ่งตั้งอยู่ใน อ.เมืองปาน มีน้ำตก 6 ชั้นที่สวยงาม และบ่อน้ำพุร้อนที่ให้บริการอาบน้ำแร่ รวมถึงเปิดให้มีการตั้งเต็นท์พักแรม ช่วงวันหยุด 3 วันที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวไปตั้งเต็นท์ เพื่อสัมผัสธรรมชาติ และอากาศที่หนาวเย็นหลายร้อยเต็นท์ ส่วนอันดับ 2 ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยม ได้แก่ ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ซึ่งตั้งอยู่ถนนสายลำปาง-เชียงใหม่ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวชมการแสดงช้าง และนั่งช้างชมธรรมชาติ เพื่อสัมผัสอากาศที่หนาวเย็นและเข้าพักที่บ้านพักกลางหุบเป็นจำนวนมาก เปิดทุ่งทิวลิปดอยผาแดงดึงนักท่องเที่ยว นายโชคดี อมรวัฒน์ นายอำเภอไชยปราการ จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า อ.ไชยปราการ ร่วมกับโครงการเกษตรหลวงอ่างขาง และองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัว เตรียมเปิดแปลงทิวลิปให้นักท่องเที่ยวเข้าสัมผัสความสวยงามบริเวณดอยผาแดง ระหว่างทางขึ้นดอยอ่างขาง ต.หนองบัว โดยดอกทิวลิปในพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ จะบานสะพรั่งตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม เป็นต้นไป และวันที่ 3-5 มกราคม จะเปิดงาน "วันทิวลิปบานที่ไชยปราการเชียงใหม่" เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ ซึ่งในงานจะมีการแสดงและประกวดธิดาชนเผ่าพร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ไปพร้อมกัน ทั้งนี้ แปลงทิวลิปบนดอยผาแดงได้นำเข้าจากประเทศฮอลแลนด์ 4 สายพันธุ์ 4 สี คือ แดง ม่วง เหลือง และขาวแดง เป็นครั้งแรกในปี 2550 โดยเก็บต้นกล้าแช่ไว้ในความเย็น -1 องศาเซลเซียส ก่อนนำลงแปลงในปลายเดือนพฤศจิกายน ซึ่งในปีแรกมีนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นดอยอ่างขางแวะชมไม่มากนัก เนื่องจากยังไม่เป็นที่รู้จัก ในปีนี้จึงนำกล้าทิวลิปลงแปลงเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 หมื่นกล้า ด้วยงบประมาณกว่า 3.75 แสนบาท หากดอกบานในช่วงปลายปีจะสวยงามเป็นอย่างมาก คาดว่าจะได้รับความสนใจแวะเข้าชมมากขึ้น นายธีรภพ สุนันตา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัว กล่าวว่า อบต.ได้จัดเตรียมพื้นที่กางเต็นท์ในบริเวณเดียวกับแปลงทิวลิป เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการพักแรม และหากได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวในปีต่อๆ ไป อบต.จะสนับสนุนงบประมาณเพื่อนำเข้ากล้าทิวลิปเพื่อขยายพื้นที่ปลูกให้มากขึ้น ///////
logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ