ข่าว

สุทธิชัย หยุ่น

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สุทธิชัย หยุ่น + จับตาเกมใต้ดินยื้อต่อ + วันนี้ความเข้มข้นเรื่องของการยื้อแย่งโอกาสที่จะตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย ยังคงจะได้เห็นดีกรีของความดุเดือดรุนแรงเพิ่มยิ่งขึ้น ฝ่ายของประชาธิปัตย์ก็พยายามที่จะให้ ส.ส.1 ใน 3 ของทั้ง 2 สภา เสนอให้ประธานรัฐสภา คุณชัย ชิดชอบ ขอพระราชทานพระบรมราชโองการ เพื่อขอเปิดการประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ขณะที่พรรคเพื่อไทยจะต้องใช้แรงสุดฤทธิ์ในการที่จะดึงเอาพรรคร่วมรัฐบาลเก่ากลับมาอยู่กับฝ่ายตน เพื่อสามารถตั้งรัฐบาล มีนายกรัฐมนตรีมาจากฝ่ายนี้ให้ได้เช่นเดียวกัน ทั้ง 2 ฝ่ายพยายามที่จะให้ประชาชนเห็นว่า ตัวเองนั้นมีความ "ชอบธรรม" มากกว่า ฝ่ายประชาธิปัตย์บอกว่า พรรคเล็กๆ ที่มาจับมือแถลงข่าวเมื่อวันเสาร์ (6 ธันวาคม) รวมกันได้ 260 เสียงนั้น มีเสียง "เกินกึ่งหนึ่ง" ในสภาหลายสิบคะแนน เพราะว่ากึ่งหนึ่งนั้น คือ 220 เสียงในสภา แต่ว่าทางด้านพรรคเพื่อไทยบอกว่า พรรคเล็กพรรคน้อยหลายคน "ถูกหลอก" ไป เพราะว่าไม่รู้ข้อเท็จจริง และไม่มีการประชุมพรรคเล็กพรรคน้อยอย่างเป็นทางการ โอกาสที่จะดึงกลับมายังมีอยู่ พรรคประชาธิปัตย์พยายามจะให้เห็นว่า ถ้าให้ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านเป็นนายกรัฐมนตรี ก็จะสามารถสร้างความศรัทธา สามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจได้รวดเร็วกว่า เพราะพรรคเพื่อไทยยังไม่มีรายชื่อที่จะเสนอเป็นนายกฯ แล้วสังคมจะยอมรับได้โดยทั่วไป แต่ในขณะเดียวกันพรรคเพื่อไทยก็ชี้นิ้วไปที่พรรคประชาธิปัตย์ว่าเป็นพรรคที่มี "สีเขียว" หนุนหลังอยู่ มีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ล็อบบี้ให้มีการโอนย้ายพรรคเล็กพรรคน้อยไปอยู่ข้างประชาธิปัตย์ ถือว่าเป็นการแทรกแซงการเมืองโดยฝ่ายทหาร ซึ่งหลายคนในพรรคเพื่อไทยบอกว่า ไม่ถูกต้อง ไม่ชอบธรรม ขณะเดียวกันก็มีข่าวคราวว่า คุณทักษิณ ชินวัตร ต่อสายตรงไปถึงลูกพรรคของพรรคเล็กพรรคน้อยทั้งหลาย เสนอเงื่อนไขต่างๆ เพื่อดึงกลับมา เช่น เสนอว่าจะให้สูตรใหม่ ใครมี ส.ส.5 คนให้ตำแหน่งรัฐมนตรี 1 ตำแหน่งไปเลย ถึงขั้นมีเสนอด้วยว่า ถ้า พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ พร้อมที่จะกลับมาอยู่กับฝ่ายพรรคเพื่อไทยจะเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรีด้วยซ้ำไป ข้อเสนอต่างๆ เหล่านี้มีอยู่มากมายก่ายกองพอจะให้เห็นแล้วว่า ไม่ใช่ทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่ใช่จะทำเพื่อพาประเทศให้พ้นวิกฤติไป แต่เพียงต้องการเอาชนะคะคาน ต้องการจะกุมอำนาจรัฐเท่านั้น ถึงขั้นว่า มีข่าวว่า คุณทักษิณพยายามจะติดต่อให้พูดจากับ คุณเนวิน ชิดชอบ ซึ่งขณะนี้อ้างว่ามี ส.ส.อยู่ในการควบคุม 37 คน แต่ว่าทางฝ่ายพรรคเพื่อไทยก็บอกว่า จริงๆ แล้วกลุ่มเพื่อนเนวินนั้นเหลืออย่างมากก็แค่ 20 คน อาจจะเพียง 15-20 คนเท่านั้น แต่ถึงขนาดนั้นก็ตาม กลุ่มเพื่อนเนวินก็ยังยืนยันว่า เสียงส่วนใหญ่ในกลุ่มมี 30 กว่าคนนั้น จะมาสนับสนุนประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาลแน่นอน จะเห็นชัดเจนว่า ความพยายามของทั้ง 2 ฝ่าย ณ วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม ยังดุเดือด เข้มข้น แต่ว่าจุดหลักของประชาชนเจ้าของประเทศที่แท้จริงอย่างพวกเราต้องการเห็นก็คือ ความจริงใจของทั้ง 2 ค่ายที่จะแก้ปัญหา ที่จะทำให้ประเทศชาติพ้นจากวิกฤติ ไม่ใช่การยื้อแย่งด้วยวิธีการ "ใต้ดิน" ต่างๆ เพื่อที่จะได้อำนาจรัฐมาให้ฝ่ายตน เพราะมิเช่นนั้นแล้ว โอกาสที่จะฟื้นประเทศนั้นยากเหลือเกิน ขณะนี้ปัญหาใหญ่อย่างยิ่งของประเทศไทยก็คือ 1.แผนสมานฉันท์คนทั้งประเทศ 2.แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจที่หนักหนาสาหัส 3.แผนที่จะวิ่งสาย เดินสายทั่วโลก เพื่อให้ภาพลักษณ์ประเทศไทยกลับมาสู่ทางบวกให้ได้ หลังจากที่มีข่าวคราวด้านลบมาตลอด เริ่มจากเพื่อนสมาชิกอาเซียนที่เราได้เลื่อนประชุมสุดยอดไป การปิดสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมืองที่กระทบต่อภาพลักษณ์กระทบต่อการท่องเที่ยว กระทบต่อการลงทุนอย่างหนักหน่วง รวมไปถึงความสามารถในการตั้งรับต่อวิกฤติเศรษฐกิจระดับโลกด้วย ทั้ง 3 แผนนี้ ใครก็ตามแต่ที่ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องเรียกว่า เป็น "นายกรัฐมนตรีเฉพาะกาล" จะต้องพิสูจน์ว่าทำได้ เริ่มต้นด้วยใครเป็นนายกฯ ไม่ว่าจะเป็นคุณอภิสิทธิ์ หรือว่าจะเป็นใครก็ตามแต่ที่ "สังคมยอมรับได้" จะต้องทำ 3 แผนนี้อย่างเร่งด่วน ฉับพลัน ถ้าทั้ง 2 ค่ายนี้ยังเล่นเกมใต้ดิน ยังพยายามยื้อยุดฉุดกระชากลากถูประเทศชาติก็จะถูกสังคมประณามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ +++++++++++++++++++++++++++++
logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ