ล้วงตับการเมือง

ล้วงตับการเมือง ๐๐๐ ช่วงนี้จะเห็น "แกนนำอดีตพรรคชาติไทย" พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อผ้า "ไว้ทุกข์" หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่ง "ยุบพรรค" หลังจากต้อนรับ "หนุ่มมาร์ค" อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ "ป๋าเติ้ง" บรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ซึ่งออกปากว่า "ขณะนี้ไม่ใช่มังกรการเมืองแต่เป็นมังกือไปแล้ว เนื่องจากถูกตัดหัวตัดหาง" ก็เดินทางไป "อ้อนชาวสุพรรณบุรี" โดยมีประชาชนไปร่วมงานนับหมื่นคน ที่สำคัญงานนี้ประชาชนที่เดินทางมาเหมือนเข้าอกเข้าใจ "ป๋าเติ้ง" พร้อมใจกันสวมเสื้อผ้า "ไว้ทุกข์" ขาว-ดำมาร่วมงาน เวทีปราศรัยก็ยังใช้ผ้าผูกประกอบฉากสีดำ เหมือนเป็นการไว้ทุกข์ให้แก่พรรค ยิ่ง "ป๋าเติ้ง" ขึ้นเวทีเล่าถึงข้อกังขาที่ค้างคาอยู่ในใจเกี่ยวกับที่พรรคถูกยุบพร้อมกับตั้งข้อสังเกตองค์กรอิสระที่ตั้งขึ้นมาด้วยลีลาที่ไม่เหมือน "ป๋าเติ้ง" คนเก่า และยืนยันว่า "พรรคชาติไทยจะไม่ตาย แต่จะแปลงรูปเหมือนเงาะป่า อีก 5 ปีจะสมัครรับเลือกตั้งใหม่เป็นปู่สภาให้ได้" ...แหมเวลาให้สัมภาษณ์นักข่าวในกรุงเทพฯ เหมือนถอดใจว่าอายุปูนนี้แล้วอีก 5 ปี คงเล่นการเมืองไม่ไหว สุดท้ายก็ยังไม่ทิ้งลาย "ปลาไหลใส่สเกต" อยู่ดี ๐๐๐ ในสมัยที่ "เสี่ยวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล" เป็น "รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม" เคยมีแนวคิดจะนำความเชื่อและพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ อาทิ พญานาค ควายธนู เสน่ห์ยาแฝด น้ำมนต์ ปลัดขิก ฯลฯ มาทำเป็นสินค้าวัฒนธรรม เพื่อขายเป็นของที่ระลึก ตามนโยบายที่จะใช้วัฒนธรรมนำเศรษฐกิจ เมื่อมาดำรงตำแหน่ง "รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ" ก็ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่มีนักเรียน นักศึกษาในสังกัด เขียนการ์ด หรือจดหมายส่งไปขอโทษนักท่องเที่ยว เพื่อให้ทราบว่าประเทศไทยรู้สึกเสียใจที่ความขัดแย้งทางการเมือง เป็นสาเหตุให้มีการปิดสนามบิน และกระทบต่อความรู้สึกของนักท่องเที่ยว งานนี้เลยถูก "นักเรียน" ย้อนว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนักเรียนไม่ได้เป็นผู้ก่อ ทำไมต้องเป็นผู้ขอโทษแทนผู้ทำผิด แม้ว่าเป็นเจตนาที่ดี ทำเพื่อประเทศ แต่การแก้ปัญหาน่าจะผิดวิธีหรือไม่ หากต้องเขียนจดหมายขอโทษก็เป็นเพราะความจำเป็นต้องทำตามคำสั่งมากกว่ามาจากความรู้สึกของเด็กจริงๆ...งานนี้ "รัฐมนตรีวรวัจน์" คงต้องเก็บไปคิดพิจารณาให้ดีหากภายหน้ามีโอกาสได้เป็น "รัฐมนตรี" อีกครั้งจะได้ไม่พลาดพลั้งถูก "เด็ก" ย้อน...