เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
หน้า ศก./ 3 แบงก์หั่นดอกเบี้ยกู้-ฝาก 0.5-1%
ธปท.ชี้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงนโยบายการคลังสะดุด
แบงก์ทยอยลดดอกเบี้ย "ทหารไทย-กสิกรฯ-ธอส." หั่นทั้งเงินกู้และเงินฝากอีก 0.50-1% แบงก์ชาติลดดอกเบี้ย ชี้ช่วยรองรับผลกระทบวิกฤติการเงินโลก ช่วงนโยบายการคลังเดินได้ไม่เต็มที่ เชื่อช่วยให้ปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ
นางสุชาดา กิระกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายตลาดการเงิน ธปท. กล่าวว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 1% จะเป็นผลดีในแง่ที่ช่วยรองรับผลกระทบจากภาวะวิกฤติการเงินโลก ในสถานการณ์ที่นโยบายการคลังยังไม่สามารถดำเนินการได้เต็มที่ในระหว่างที่มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ อีกทั้งการที่ธนาคารพาณิชย์ลดดอกเบี้ยเงินฝากลงก็น่าจะช่วยทำให้กิจกรรมการลงทุนในธุรกรรมอื่นๆ ในตลาดเงินมีมากขึ้น
นอกจากนี้ หากพิจารณาจากการส่งผ่านอัตราดอกเบี้ยนโยบายแต่ละช่องทางนั้น จะเห็นว่าการลดดอกเบี้ยน่าจะช่วยทำให้ความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้น ช่วยทำให้ราคาสินทรัพย์ เช่น ราคาพันธบัตรปรับสูงขึ้น ผลตอบแทนลดลง ซึ่งเป็นผลดีในการออกพันธบัตรรัฐบาลและเอกชนที่มีต้นทุนต่ำลง อีกทั้งยังช่วยทำให้การคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น โดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อมากนัก เนื่องจากความต้องการภายในประเทศยังมีไม่มาก
ด้าน ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ โดยได้ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภทลง 0.50% และธนาคารได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำทุกประเภท สำหรับบุคคลทั่วไปลง 0.75-1.00% ทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน อยู่ที่ 1.35-1.65% เงินฝากประจำ 6 เดือน อยู่ที่ 1.50-1.65% เงินฝากประจำ 12 เดือน อยู่ที่ 1.75% และเงินฝากประจำ 24 และ 36 เดือน อยู่ที่ 2.50% มีผลตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2551 เป็นต้นไป
ขณะที่นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารทหารไทย กล่าวว่า ธนาคารได้ปรับอัตราดอกเบี้ยลง ทั้งเงินให้สินเชื่อและเงินฝาก 0.50% เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ ธปท.จะมีผลตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม เป็นต้นไป
ส่วนนายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส.ได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เอ็มอาร์อาร์ จากปัจจุบัน 7.50% เหลือ 7% โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม เป็นต้นไป ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ปรับลดลง 0.50-1% โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม เป็นต้นไป ซึ่งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว สอดคล้องกับทิศทางตลาดและสภาพคล่องในระบบ เพราะที่ก่อนหน้านี้มีธนาคารพาณิชย์เอกชนหลายแห่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองเลขาธิการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนคาดหวังคุณสมบัติรัฐมนตรีในรัฐบาลใหม่คือ มีความซื่อสัตย์ มีจริยธรรม เป็นผู้นำสามารถบริหารภาครัฐได้อย่างโปร่งใสและไม่มีประโยชน์ทับซ้อน เพราะกฎหมายเปิดกว้างในการสรรหาบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอยู่แล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง