ข่าว

เสื้อแดง/ อี 5

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เสื้อแดง/ อี 5 ปาบึ้มบ้าน "บุญจง" ปมสลับขั้วการเมือง ย้ายขั้วทำพิษ ! มือมืดปาระเบิดบ้าน "บุญจง" ที่โคราช แต่ระเบิดด้าน ตร.เชื่อปมหนุน ปชป. เจ้าตัวไม่หวั่น-ไม่เปลี่ยนใจ ส่วนเสื้อแดงขอนแก่นวางหรีดบ้าน 2 ส.ส.เพื่อนเนวิน บช.ภ.1 เปิดศูนย์แจ้งความปิดสุวรรณภูมิ เผย ทอท.ฟ้อง พธม. 3.5 หมื่นล. ความเคลื่อนไหวในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์กำลังกุมความได้เปรียบพรรคเพื่อไทยอยู่ในขณะนี้ทำให้มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนภาคอีสานเพื่อกดดัน ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินที่จะไปจับขั้วกับพรรคประชาธิปัตย์อย่างหนักหน่วงเพื่อไม่ให้จัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 9 ธันวาคม พ.ต.ท.บรรณพิชิต สีหุพล พนักงานสอบสวน สภ.โชคชัย อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา รับแจ้งเหตุคนร้ายขว้างระเบิดเข้ามาในบริเวณรั้วบ้านพักเลขที่ 333 บ้านบึงทับปรางค์ หมู่ 10 ต.โชคชัย อ.โชคชัย ซึ่งเป็นบ้านของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.เขต 6 นครราชสีมา พรรคพลังประชาชน จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ สว่างวงศ์ จงสมชัย ผกก.สภ.โชคชัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บ้านหลังเกิดเหตุอยู่ริมถนนสายราชสีมา-โชคชัย ช่วงหลักกิโลเมตร 19-20 ขาเข้า อ.โชคชัย ภายในรั้วบ้านบริเวณทิศเหนือพบวัตถุระเบิดชนิดเอ็ม 26 หรือลูกเกลี้ยง ไม่มีสลักนิรภัย ตกอยู่บนพื้นหญ้าข้างศาลา ห่างตัวบ้านประมาณ 50 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้นำยางรถยนต์มาวางครอบวัตถุระเบิด และกันคนให้ออกห่างจากจุดที่พบวัตถุระเบิดหลายสิบเมตร จากนั้นประสานเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญมาทำลายวัตถุระเบิด โดยใช้วิธีขุดหลุมรอบๆ จากนั้นจุดชนวนเข้าไปทำลายวัตถุระเบิดในที่สุด พ.ต.ท.บรรณพิชิตกล่าวถึงผลการสอบสวนว่า ในช่วงเช้าตรู่วันที่ 9 ธันวาคม มีผู้นำโลงศพ 2 ใบ มาวางไว้ที่หน้าบ้าน และมีกระดาษเขียนข้อความในทำนองไม่พอใจนายบุญจงอย่างรุนแรง โดยกล่าวโจมตีนายบุญจงว่า ไม่มีอุดมการณ์ เป็น ส.ส.ขายตัว ระบุชื่อกลุ่มที่เขียน คือ "คนโคราชรักประชาธิปไตย" ก่อนที่ช่วงสายจะมีการขว้างระเบิดดังกล่าวเข้ามาในบ้านพัก โชคดีที่ระเบิดไม่ทำงาน ส่วนสาเหตุในการข่มขู่ครั้งนี้ เบื้องต้นตำรวจมุ่งประเด็นเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง เนื่องจากที่ผ่านมา นายบุญจง ซึ่งเป็นคนสนิทของนายเนวิน ชิดชอบ และยังเป็นแกนนำ นปช.สายโคราช เคยเคลื่อนไหวตอบโต้กับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอยู่เสมอ แต่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นายบุญจงซึ่งอยู่กลุ่มเพื่อนเนวินได้แสดงท่าทีเปลี่ยนไป โดยแถลงข่าวร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรี อาจสร้างความไม่พอใจให้คนบางกลุ่มกระทั่งมีการปาระเบิดข่มขู่ครั้งนี้ "บุญจง" ไม่หวั่นบึ้ม หนุน ปชป.ต่อ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา กลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวหลังทราบเหตุการณ์ว่า "เชื่อว่าเป็นการข่มขู่ให้กลัว หลังจากมีข่าวว่าผมและกลุ่มเพื่อนเนวินไปสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาล คงไม่มีสาเหตุอย่างอื่นอย่างแน่นอน" นายบุญจงกล่าวอีกว่า ขอยืนยันว่าตัดสินใจแล้ว และจะเดินตามแนวทางต่อไปโดยไม่หวั่นไหว จะขอทำเพื่อประเทศชาติ และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ "จากการหารือของกลุ่ม เรายังคงยืนยันที่จะสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาล ขณะนี้ก็เป็นหน้าที่ของพรรคที่เป็นแกนหลักที่จะเดินสายประสานกับพรรคร่วมอื่นๆ แต่ถึงอย่างไรเราก็ยืนยันจะให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์แน่นอน" นายบุญจงกล่าว เสื้อแดงวางหรีดหน้าบ้าน ส.ส.ขอนแก่น ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งสวมเสื้อสีแดงประมาณ 20 คน นำโดย นายภูเบศ ภูมิอัครเดช ผู้ประสานสาน นปช.ส่วนกลาง นายยงยุทธ คงปฏิมากร ประธาน นปช.ขอนแก่น ได้นำมวลชนมารวมตัวกันบริเวณริมบึงแก่นนครหน้าบ้านพักของ นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ส.ส.ขอนแก่น และนายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น กลุ่มเพื่อนเนวินที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ จัดตั้งรัฐบาล จึงมาต่อต้านและวางพวงหรีดประณาม จากนั้นกลุ่มมวลชนดังกล่าวได้เคลื่อนไปยังบ้านพักของนายจักริน พัฒน์ดำรงจิตร ส.ส.ขอนแก่น พรรคพลังประชาชน เขต 1 ซึ่งย้ายเข้าพรรคเพื่อไทย เพื่อให้กำลังใจนายจักรินที่ยังคงร่วมกับพรรคเพื่อไทย และยังสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ชุมนุมได้นำพวงหรีดสีดำและแผ่นป้ายข้อความโจมตี 2 ส.ส. อดีตพรรคพลังประชาชน ที่ให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ว่าเป็นการเนรคุณ พ.ต.ท.ทักษิณ และเป็นการไม่เคารพเสียงของประชาชนที่เลือกเข้ามาในนามพรรคพลังประชาชน นายภูมิเดช ซึ่งเป็นแกนนำผู้ชุมนุม กล่าวว่า ตนร่วมเคลื่อนไหวกับ นปช.ส่วนกลาง และร่วมกิจกรรมรายการความจริงวันนี้ตลอด จึงไม่พอใจที่อดีต ส.ส.พรรคพลังประชาชน เปลี่ยนไปสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ จึงนำมวลชนมาประท้วงที่หน้าบ้านพัก "ประจักษ์" ยันไม่เปลี่ยนขั้ว นายประจักษ์กล่าวว่า การที่ชาวบ้านมาประท้วงการตัดสินใจของตนที่หน้าบ้านพักเป็นเรื่องปกติตามระบอบประชาธิปไตย ได้บอกไปว่าให้วางพวงหรีดได้ แต่ขออย่าทำลายบ้าน หรือบุกรุกให้ได้รับความเสียหาย เพราะถ้าทำเช่นนั้นก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย "ผมตัดสินใจในฐานะคนไทยคนหนึ่งเพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ และไม่อยากให้บ้านเมืองวุ่นวาย คำถามทุกอย่างที่มีมาถ้าจะนั่งคุยกับผม ผมมั่นใจว่าชาวบ้านที่เลือกผมจะไม่ติดใจ และถึงขั้นนี้แล้ว ผมคงไม่เปลี่ยนใจ" นายประจักษ์กล่าว "ขวัญชัย" อ้าง "ทักษิณ" เตือนถูกอุ้ม นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณโทรศัพท์สายตรงมาหาเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นห่วงความปลอดภัยของตน หลังทราบข่าวว่ามีกลุ่มการเมืองบางกลุ่มลงขันเพื่อพยายามที่จะอุ้มและทำร้ายร่างกายตน ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณไม่สบายใจ จึงโทรมาให้กำลังใจ และให้ระวังเรื่องความปลอดภัย เสื้อแดงเชียงใหม่ฉุน ตร.ไม่จับเสื้อเหลือง เมื่อเวลา 16.30 น. วันเดียวกัน ผู้ชุมนุมสวมเสื้อแดงในกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 กว่า 50 คน นำโดย นายนริศวร ทองแย้ม ประธานกลุ่มและ น.ส.กัญญาภัค มณีจักร หรือ ดีเจอ้อม นักจัดรายการวิทยุชุมชนเอฟเอ็ม 92.5 เมกะเฮิรตซ์ เดินขบวนจากหน้าโรงแรมแกรนด์วโรรส ไปปิดล้อมหน้า สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมกรณีที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดีกับกลุ่มเสื้อแดงที่ร่วมกันทำร้ายร่างกาย นายเศรษฐา เจียมกิจวัฒนา บิดา นายเทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา แกนนำทหารเสือพระราชาเชียงใหม่ จนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน หน้าหมู่บ้านระมิงค์นิเวศน์ ถ.ทิพยเนตร ต.หายยา แต่กลับไม่ดำเนินคดีกลุ่มเสื้อเหลืองซึ่งยิงหนังสติ๊ก และปืนตอบโต้ระหว่างการปะทะกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ชุมนุมใช้เวลาประมาณ 10 นาทีจึงยอมสลายตัว หลังจาก พ.ต.ท.สวัสดิ์ หล้ากาศ รอง ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ออกมาเจรจา พ.ต.ท.สวัสดิ์ กล่าวว่า กลุ่มผู้ชุมนุมระบุว่าที่ออกมาชุมนุม เพราะต้องการสอบถามว่าทำไมตำรวจถึงจับกุมเฉพาะกลุ่มเสื้อแดง ทั้งๆ ที่ฝ่ายเสื้อเหลืองก็มีอาวุธ และยิงหนังสติ๊กกับปืนออกมาตอบโต้ จึงมองว่าตำรวจไม่ให้ความเป็นธรรม "ผมได้ชี้แจงกับผู้ชุมนุมว่า ตำรวจได้ทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง ที่ดำเนินคดีกับฝ่ายเสื้อแดงนั้น เพราะมีพยานหลักฐานพร้อม ซึ่งหากพยานหลักฐานถึงพร้อมจะเอาผิดกับฝ่ายเสื้อเหลืองได้ตำรวจก็จะดำเนินคดีเช่นกัน" พ.ต.ท.สวัสดิ์ กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเย็นวันเดียวกัน ตำรวจได้ส่งกำลังประมาณ 30 นาย ไปตั้งด่านประจำการหน้าหมู่บ้านระมิงค์นิเวศน์ หลังจากมีข่าวว่า นายเทอดศักดิ์ แกนนำกลุ่มทหารเสือพระราชาจะเดินทางกลับจากกรุงเทพฯมาถึง จ.เชียงใหม่ จึงเกรงจะเกิดเหตุรุนแรงขึ้น บช.ภ.1 เปิดศูนย์ร้องทุกข์ปิดสุวรรณภูมิ พล.ต.ต.คำรบ ปัญญาแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (รอง ผบช.ภ.1) ได้แถลงข่าวเปิดศูนย์บริการรับคำร้องทุกข์กล่าวโทษ และรวบรวมพยานหลักฐาน กรณีเหตุชุมนุมเรียกร้อง และปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ณ สภ.ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ พล.ต.ต.คำรบ ระบุว่า บช.ภ.1 ตั้งศูนย์ดังกล่าวเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการชุมนุมเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน-3 ธันวาคม 2551 โดยมีพนักงานสอบสวน บช.ภ.1 จำนวน 33 นาย รับแจ้งความเวลา 08.30-16.30 น. ทุกวันไม่เว้นวันหยุด รอง ผบช.ภ.1 กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์กับทางศูนย์แล้ว 1 ราย คือ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งแจ้งความดำเนินคดีกับแกนนำรวม 13 คน ในข้อหาร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง และทำให้การให้บริการของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิหยุดชะงัก ซึ่งบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้ระบุความเสียหายไว้ประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท พันธมิตรโต้ สมช.ก๊อบปี้ข้อมูลไปเอง นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลระบุว่า ข้อมูลความมั่นคง และฮาร์ดดิสก์บางส่วนของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) หายไปว่า เรื่องนี้อย่าซัดทอดพันธมิตร เพราะในช่วงชุมนุมที่ทำเนียบมีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานมายื่นขอข้อมูล และเอกสารสำคัญๆ เป็นระยะๆ ทางเราก็อนุญาตให้นำออกไป และมีการลงนามบันทึกไว้ทุกครั้ง "แต่มีครั้งหนึ่งมีเจ้าหน้าที่ สมช. 5 คน แอบลักลอบเข้ามาในตึก สมช.ด้วยวิธีสแกนลายนิ้วมือ แล้วใช้แฮนดี้ไดรฟ์ก๊อบปี้ข้อมูลไป ซึ่งการ์ดพันธมิตรนำตัวมาสอบสวน ทั้ง 5 คนรับสารภาพ และบันทึกหลักฐานไว้เรียบร้อยแล้ว และที่ผ่านมาก็มีการนำตัวคนที่แปลกปลอมและมิจฉาชีพส่งให้แก่ สน.นางเลิ้ง ทุกครั้งที่จับตัวได้ หากเจ้าหน้าที่จะขอหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เรายินดีให้ความร่วมมือ" นายสุริยะใสกล่าว ส่วนกรณี พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มาตรวจสอบแหล่งเงินสนับสนุนการชุมนุมของพันธมิตร นายสุริยะใสกล่าวว่า เป็นการจ้องทำลายความชอบธรรม เพราะการบริจาคให้พันธมิตรแทบทั้งหมดเป็นรายเล็กรายน้อยไม่ใช่ 10 ล้าน 100 ล้าน มีการเปิดเผยชื่อผู้บริจาคบนเวทีทุกครั้ง ไม่เข้าข่ายกฎกหมาย ปปง. ปปง.ปัดยึดทรัพย์พันธมิตร แหล่งข่าวระดับสูงใน ปปง.กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจเตรียมส่งเรื่องให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และยึดทรัพย์บริษัทที่สนับสนุนพันธมิตรว่า เรื่องนี้เป็นการมุ่งหวังเพื่อทำลายกันทางการเมือง โดยใช้ ปปง.เป็นเครื่องมือในการดำเนินคดีกับฝ่ายตรงข้าม แต่ ปปง.เป็นองค์กรที่ทำงานโดยยึดหลักข้อกฎหมายเป็นสำคัญ อีกทั้งการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรก็ไม่น่าจะไม่เข้าองค์ประกอบความผิดแต่อย่างใด ตรวจทำเนียบของหายอีก 4 แสน ส่วนการตรวจสอบทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ ได้เข้าสำรวจความเสียหายภายในสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พบร่องรอยการงัดฝ้าเพดาน และรื้อค้นสิ่งของตามลิ้นชัก โดยเฉพาะห้องนายเยี่ยมศักดิ์ คุ้มอินทร์ ผอ.ส่วนงานวินิจฉัยอุทธรณ์ สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ที่อยู่บนชั้น 2 ทรัพย์สินสูญหายกว่า 4 แสนบาท ได้แก่ พระเครื่อง สร้อยคอทองคำ แหวนเพชร และทองคำแท่ง เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจเก็บลายนิ้วมือแฝงไว้เป็นหลักฐาน ต่อมาเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตรวจพบประทัดยักษ์ 2 ลูก ซุกซ่อนในลิ้นชักโต๊ะทำงานของข้าราชการประจำสำนักนายกฯ ชั้น 1 ตึกบัญชาการ 2 และที่หลังเวทีภายในตึกสันติไมตรี ก็พบระเบิดปิงปองอีกจำนวนหนึ่ง คาดใช้งบปรับปรุงกว่า 100 ล. นายนที เปรมรัศมี ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ได้เตรียมเอกสารหลักฐานสรุปความเสียหายในทำเนียบรัฐบาลเสนอต่อ ครม.ให้ทราบเพื่อพิจารณาดำเนินการ พร้อมเสนอของบประมาณปรับปรุง จากการตรวจสอบเบื้องต้น จะต้องใช้งบ 25 ล้านบาทเพื่อปูหญ้าใหม่ หากรวมระบบสาธารณูปโภค ประปา ไฟฟ้า ต้องใช้งบไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ส่วนเรื่องคดีความได้แจ้งความดำเนินคดีกลุ่มพันธมิตรในข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการ และคาดว่าจะมีเจ้าหน้าที่ไปแจ้งความเพิ่มอีก เนื่องจากข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของเจ้าหน้าที่หายเป็นจำนวนมาก ครม.มีมติยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน วันเดียวกัน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุม ครม.รักษาการ ว่าที่ประชุม ครม. มีมติให้ยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่ดอนเมือง กรุงเทพฯ และลาดกระบัง บางพลี บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เนื่องจากเห็นว่ากลุ่มพันธมิตรได้ถอนการชุมนุมออกจากพื้นที่แล้ว จึงไม่เป็นประโยชน์ใดๆ ที่จะประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อไป ส่วนกรณีที่พันธมิตรบุกยึดทำเนียบรัฐบาล และสนามบินสุวรรณภูมิ ได้ให้แต่ละหน่วยงานไปรวบรวมรายละเอียดเสนอ ครม.ครั้งต่อไป เพื่อประเมินความเสียหาย และมอบให้ส่วนราชการดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา โดยให้หารือกับพนักงานสอบสวน และอัยการสูงสุด ในการยื่นฟ้อง เท 1,900 ล. เยียวยาเหยื่อปิดสนามบิน น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ รักษาการรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่าที่ประชุม ครม.รักษาการมีมติเห็นชอบกรอบ และหลักเกณฑ์การดำเนินการเยียวยากรณีที่สนามบินสุวรรณภูมิไม่สามารถให้บริการผู้โดยสารต่างชาติที่ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศ และคนไทยในต่างประเทศที่ไม่สามารถกลับประเทศได้ โดยจะให้ความช่วยเหลือค่าที่พัก และอาหารในวงเงินคนละไม่เกิน 2,000 บาทต่อวัน คาดว่าจะใช้งบประมาณ 1,900 ล้านบาท โดยให้ความช่วยเหลือตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน-9 ธันวาคม
logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ