เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
บทนำ อัพ อี 5-6-1 สิ่งที่ "อภิสิทธิ์ 1" ต้องทำ
ปรากฏการณ์ชิงไหวชิงพริบในการจัดตั้งรัฐบาล ระหว่างขั้วการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย แทบจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนประการหนึ่งแล้ว หลังจาก 4 พรรคร่วมรัฐบาล พรรคชาติไทย พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา พรรคมัชฌิมาธิปไตย พรรคเพื่อแผ่นดิน และกลุ่ม ส.ส.สังกัดนายเนวิน ชิดชอบ ได้ประกาศจุดยืนอีกครั้งว่าพวกเขาจะสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี
แม้ว่าภาพการโอบกอดระหว่างนายอภิสิทธิ์ กับนายเนวิน ชิดชอบ เมื่อวานนี้ สายตาบางคู่จะเข้าใจถึงเงื่อนไข "งูเห่า" พันธนาการ ซึ่งไม่ต่างอะไรกับ "ความชั่วร้ายที่จำเป็น" ในทางการเมืองหากใครอยากเป็นผู้ชนะ ก็ต้องยอมในเงื่อนไขบางประการที่ไม่อาจปฏิเสธได้ แต่ในขณะเดียวกันสังคมไทยย่อมมีสิทธิ์คาดหวังว่า รัฐบาลใหม่ควรจะมีแนวคิด "หลุดกรอบ" กล้าที่ปลดแอกธรรมเนียมการเมืองในแบบฉบับเดิมเช่นกัน
ในภาวะที่ประเทศเกิดวิกฤติรอบด้าน แทนที่พรรคร่วมรัฐบาลจะคุยกันถึงแต่ตัวเลข โควตารัฐมนตรี ทุกคนอยากเห็น รัฐบาลใหม่ ผลักดัน "แผนสร้างชาติ" เพื่อกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยให้กลับมาอยู่ในสภาพที่ยังพอเยียวยารักษาได้แล้ว
แผนฟื้นฟูประเทศในยามฉุกเฉิน สร้างความมั่นใจต่อนักธุรกิจ นักลงทุนต่างชาติ รวมไปถึงการตั้งบุคคลที่สังคมให้ความเคารพนับถือจากสาขาวิชาชีพต่างๆ มาร่วมกันให้คำแนะนำและปรึกษารัฐบาลในด้านที่มีความสำคัญเร่งด่วนต่อประเทศชาติ
พรรคประชาธิปัตย์ ควรจะมีคำตอบแก่ประเทศและประชาชนว่า คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ จะคัดสรรคนอย่างไรเข้ามาเป็นรัฐมนตรี อาจยอมเสียสละโควตากลาง ดึงเอาคนดี คนเก่งจากต่างพรรค หรือคนนอกพรรค มาร่วมงาน ไม่ใช่แต่งตั้งเฉพาะคนใกล้ชิด ในกลุ่มก๊วน
ที่สำคัญ นายอภิสิทธิ์ จะต้องแสดงถึงภาวะผู้นำ เร่งแก้ปัญหาความขัดแย้งและความแตกแยกของสังคม ที่รุนแรงถึงขนาดแบ่งข้าง แบ่งสี แบ่งภาค จนเกิดเหตุจลาจลนองเลือดมาแล้ว การเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้ประสานของทุกฝ่าย โดยไม่คำนึงว่า ใครจะเป็นสีอะไร ...เหลือง แดง หรือเขียว เป็นสิ่งที่สังคมคาดหวัง
ข้อเสนอเหล่านี้ จึงเป็นโจทย์ที่รัฐบาลประชาธิปัตย์ ควรจะมีคำตอบให้แก่ทุกฝ่าย หาไม่แล้ว ภาพลักษณ์ของรัฐบาลอภิสิทธิ์ 1 จะไม่ต่างอะไรกับรัฐบาลไทยรักไทย รัฐบาลพลังประชาชน หรือรัฐบาลเพื่อไทย ที่เป็นรัฐบาลเพื่อสานผลประโยชน์ของพวกพ้องตนเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง