ข่าว

donใหม่(ฝน)ปัญญาประภาคาร/คิดเป็นก็เห็นธรรม14/ ว.วชิรเมธี /ศุกร์ที่ 12/12/2551

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

donใหม่(ฝน)ปัญญาประภาคาร/คิดเป็นก็เห็นธรรม14/ ว.วชิรเมธี /ศุกร์ที่ 12/12/2551 --------------------------- คอลัมน์ ----------- ปัญญาประภาคาร โดย---------------- ว.วชิรเมธี --------------------------------------------- คิดเป็นก็เห็นธรรม (๑๔) คิดอย่างรู้ตัวทั่วพร้อม ---------------------------------- ครั้งหนึ่ง มีคนไปแกล้ง หลวงพ่อทองรัตน์ ซึ่งเป็น อาจารย์ของหลวงพ่อชา อีกทีหนึ่ง เขียนกล่าวหาท่านต่างๆ นานา พระลูกศิษย์ได้อ่านแล้วสะดุ้งทั้งวัด แต่พอหลวงพ่อทองรัตน์ได้อ่าน ท่านบอกว่า เอาบัตรสนเท่ห์นั่นไปวางไว้ที่โต๊ะหมู่ แล้วเรามาช่วยกัน กราบบัตรสนเท่ห์ ลูกศิษย์ก็งงว่า ทำไมต้องไปกราบบัตรสนเท่ห์ เขาเขียนว่าหลวงพ่อ หลวงพ่อบอกว่า เธอรู้ไหม นี่แหละคือสิ่งที่พระพุทธเจ้าเรียกว่า โลกธรรม ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ สิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า คนทุกคนจะต้องเจอโลกธรรม การที่เขาเขียนจดหมายด่าเรา เขามาช่วยให้เราพบธรรมะข้อสำคัญ ไม่กราบก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว นี่คือมองโลกในแง่ดี เราท่านทั้งหลายก็ต้องปลูกวิถีชีวิตแบบนี้เอาไว้ สิ่งใดๆ ซึ่งผ่านเข้ามา หากเรารู้จักมองโลกในแง่ดีอย่างชาญฉลาด อย่ามองแบบโง่ๆ ถ้ามองแบบโง่ๆ เราจะถูกเขาเอาเปรียบเราตลอดเวลา วิธีคิดประการต่อไป เป็นวิธีคิดแบบอยู่กับปัจจุบัน วันนี้ทั้งวัน ตั้งแต่เช้าอาตมภาพเชื่อว่า เราท่านทั้งหลายได้ฟังวิธีคิดแบบอยู่กับปัจจุบันมาพอสมควร เพราะฉะนั้น ก็จะไม่พูดถึงวิธีคิดนี้มากนัก วิธีคิดแบบอยู่กับปัจจุบันนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า วิธีคิดแบบรู้ตัวทั่วพร้อม เคยรู้ตัวทั่วพร้อมหรือเปล่า ส่วนมากจะรู้ตัวเป็นพักๆ หลายคนไปปฏิบัติวิปัสสนา ตอนที่อยู่ในวิปัสสนาดีมาก พอกลับออกมาถึงบ้านสามีทำเย็นชาปั้นปึ่งใส่ภรรยาไปตั้ง ๗ วัน พอมาถึงเท่านั้นเอง เหมือนน้ำมันเบนซินมาเจอกับไฟ แล้วที่ฝึกๆ มาหายไปไหนหมด ออกจากอบรมกรรมฐานแล้วหายหมด ก็เพราะว่า เราไม่ได้อยู่กับปัจจุบัน เราอยู่ที่ไหน อยู่ในโลกของอดีตบ้าง อนาคตบ้าง อยู่กับคนที่มาทะเลาะกับเราบ้าง คนที่มาชวนเราทะเลาะจริงๆ ถ้าเปรียบเป็นรถ แสดงว่าเครื่องยนต์เขากำลังเสีย พอมาชวนเราทะเลาะ เราทะเลาะตอบ เครื่องยนต์เราเสียหนักกว่าเขาอีก ระบายของเสียใส่กัน วิธีอยู่กับปัจจุบันนี้ก็คือ การฝึกสติตามแนววิปัสสนากรรมฐาน นั่นเอง เรื่องนี้คงต้องยกตัวอย่างให้ฟัง อาตมภาพได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ครั้งหนึ่งมีคนไปถามหลวงพ่อชา ตอนที่ท่านบินไปเมืองนอก แล้วเครื่องบินตกหลุมอากาศ ญาติโยมตกใจมาก โยมคนหนึ่งก็ไปกระซิบถามว่า หลวงพ่อตอนที่เครื่องบินตกหลุมอากาศ หลวงพ่อเอาใจไว้ที่ไหน หลวงพ่อบอกว่า อาตมาก็เอาใจไว้ในที่ที่มันควรอยู่ แล้วโยมเอาใจไว้ที่ไหน ใจโยมตกถึงพื้นนานแล้วค่ะ เครื่องยังไม่ตกเลยนะ ตายตั้งแต่เครื่องยังไม่ถึงพื้น เพราะตกใจนั่นเอง นี่แหละ ที่เราเรียกว่า ตกใจๆ คือใจมันตก พอใจมันตกก็ตกใจ แต่คนที่อยู่กับปัจจุบัน แม้ปรากฏการณ์ข้างนอกจะสั่นไหวอย่างไรก็ตาม ข้างในไม่กระเทือน ทุกข์กระทบ กิเลสไม่กระเทือน แต่ทุกข์กระทบ ธรรมกระเทือน ครั้งหนึ่ง พระพุทธเจ้าทรงเป็นตัวอย่างที่ดีของเรื่องนี้ ก็คือ ทรงนั่งสมาธิอยู่กับปัจจุบันอย่างสงบใต้ต้นไม้ ใกล้ๆ กันนั้นฟ้าผ่าโคของชาวนาตายไป ๗ ตัว พอฝนซา ฟ้าสว่าง มีคนไปกราบทูลถามพระพุทธองค์ว่า ทรงได้ยินเสียงฟ้าผ่าไหม พระพุทธองค์ตรัสว่า เราไม่ได้ยิน เพราะอะไร พระองค์ไม่ได้ส่งใจออกไปตามเสียงฟ้าเสียงฝน แต่เก็บใจไว้ในที่ที่ควรอยู่ นั่งนิ่งๆ แต่เป็นการนิ่งอย่างตื่นรู้ ศาสดาจารย์บางท่านเรียกภาวะนี้ว่า น้ำไหลนิ่ง คือ เราดูข้างบนมันนิ่ง แต่ข้างในพื้นน้ำมันไหล แต่เพราะไหลอย่างนิ่งๆ เราจึงมองไม่เห็นความไหลของมัน น้ำจึงไหลนิ่ง ------------------------- ภาพประกอบ # 10436736 ไม่ต้องมีใต้ภาพ ++++++++++++++++++++++++++++++
logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ