หน้าศก./จำนำสินค้าเกษตร

หน้าศก./จำนำสินค้าเกษตร ยังไม่คึก 9.5 พันล. ดันราคาตลาดขยับ ธ.ก.ส.เผยรับจำนำสินค้าเกษตรแล้วกว่า 9.5 พันล้าน ชี้ข้าวนาปียังมีน้อยเหตุส่วนใหย่ยังรอเก็บเกี่ยว ระบุช่วยดันราคาตลาดขยับขึ้นเล็กน้อย นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลได้เริ่มเปิดรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 51/52 ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้มีเกษตรกรนำข้าวเปลือก ข้าวโพด มันสำปะหลังมาจำนำแล้วประมาณ 9.5 พันล้านบาท แบ่งเป็นข้าวเปลือกประมาณ 9 พันล้านบาท ข้าวโพด 300 ล้านบาท และมันสำปะหลัง 4 แสนบาท ซึ่งค่อนข้างน้อยเพราะรอให้ราคาปรับขึ้นก่อน ส่วนข้าวที่นำมาจำนำส่วนใหญ่เป็นข้าวนาปรังที่ตกค้างจากการรับจำนำครั้งก่อน ขณะที่ข้าวนาปีจริงๆ นั้นชาวนาเพิ่งจะเริ่มเก็บเกี่ยว โดยเชื่อว่าหลังวันที่ 15 ธันวาคมนี้ จะมีข้าวเปลือกมาจำนำมากขึ้นจนถึงเดือนมกราคม 2552 น่าจะใช้เงินประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ ธ.ก.ส.จะทยอยเบิกจ่ายกู้เข้ามาทุก 15 วัน ครั้งละ 2 หมื่นล้านบาท เพราะไม่อยากนำเงินมาเก็บไว้ให้เสียดอกเบี้ยสร้างภาระให้กระทรวงการคลังในฐานะผู้กู้เงิน โดยสิ้นเดือนกุมภาพันธ์คงจะมีความชัดเจนว่าใช้เงินในโครงการถึง 1.1 แสนล้านบาทหรือไม่ ส่วนอัตราดอกเบี้ยที่เริ่มปรับลดลงนั้น กระทรวงการคลังคงหารือกับธนาคารที่ให้กู้ต่อไป ส่วนราคารับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลกับราคาในตลาดยังต่างกันอยู่ประมาณ 1-2 พันบาทต่อตัน และที่ผ่านมาสามารถผลักดันให้ราคาตลาดปรับขึ้นมาได้บ้างเล็กน้อย เช่น ข้าวเปลือกเจ้า 100% รับจำนำ 1.2 หมื่นบาทต่อตัน ราคาเริ่มขยับมาอยู่ที่ 10,500 บาทต่อตัน จากเดิม 9 พันบาทต่อตัน ข้าวเปลือกเหนียว รับจำนำ 9 พันบาทต่อตัน ขยับมาที่ 7.5-7.8 พันบาทต่อตัน จากเดิมราคาตลาดอยู่ที่ 5-6 พันบาทต่อตัน