เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
** (( จับ นศ.สาวพร้อมพวกค้ายาบ้า )) ** อี 2
รวบ นศ.สาวพร้อมพวกขณะส่งยาบ้า 5 พันเม็ดให้ลูกค้าย่านรามอินทรา ค้นบ้านพบบัญชีแบงก์มีเงินหมุนเวียนร่วม 10 ล้าน รับผัวเป็นเอเย่นต์รายใหญ่ในคุกคลองเปรม โทรสั่งให้ขนยาส่งลูกค้าในกทม.-ปริมณฑล อีกรายจับลูกจ้างกรมอู่ทหารเรือรับออเดอร์จาก "ตี๋เล็ก" ในคุกคลองเปรม
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 ธันวาคม พล.ต.ต.โชคชัย ดีประเสริฐวิทย์ ผบก.น.5 พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.บก.น.5 และ พ.ต.ต.อำนวย สว่างแก้ว สว.กก.สส.บก.น.5 ร่วมกันแถลงผลจับกุมผู้ต้องหาร่วมกันมียาเสพติดไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย ประกอบด้วย นายธีรพงษ์ หรือแป๊ะ โยธา อายุ 19 ปี นายนิรุจ หรือฮั้ง คล้ายสิทธิ์ อายุ 24 ปี น.ส.วาสนา หรือขนม สิงห์โตทอง อายุ 22 ปี และนายเอกลักษณ์ หรือเอก โกศลวรรณชนะ อายุ 25 ปี พร้อมยาบ้า 5,000 เม็ด สมุดบัญชีเงินฝากของธนาคารต่างๆ จำนวน 15 เล่ม มีหมุนเวียนนับ 10 ล้านบาท รถแท็กซี่ 1 คัน บัตรเอทีเอ็มของธนาคารต่างๆ จำนวน 15 ใบ สลิปบันทึกการเงินของธนาคารต่างๆ จำนวน 11 ใบ
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ล่อซื้อยาบ้าจากนายนิรุจ จำนวน 2,000 เม็ด ในราคา 1 แสนบาท โดยนัดส่งยาบ้าบริเวณริมถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. เมื่อถึงเวลานัดหมาย นายนิรุจ ได้นั่งมากับรถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นลีโม่ สีฟ้า-แดง ทะเบียน ทน-5580 กทม. โดยมีนายธีรพงษ์ โยธา เป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้รับการว่าจ้างจากสามีของ น.ส.วาสนา ซึ่งต้องโทษอยู่ในเรือนจำคลองเปรม ในข้อหาครอบครองยาบ้าเพื่อจำหน่าย ให้มาส่งลูกค้าในกรุงเทพฯ และย่านปริมณฑล โดยให้ลูกค้าโอนเงินเข้าบัญชีของ น.ส.วาสนา หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังเข้าจับกุม น.ส.วาสนา ได้ที่บ้านพัก ก่อนจะรับสารภาพว่า สามีได้สั่งให้นายเอกลักษณ์ ไปรับยาบ้าจากเครือข่ายจำนวน 8 มัด รวม 16,000 เม็ด โดยให้นำมาส่งลูกค้าย่านรามอินทรา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังไปจับกุมนายเอกลักษณ์ ได้ที่ปากซอย 28 ถนนพระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม. พร้อมยาบ้า 3,000 เม็ด
ทั้งนี้ น.ส.วาสนา ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ส่วนสามีถูกจับกุมพร้อมยาบ้า 800 เม็ด ซึ่งศาลตัดสินจำคุก 17 ปี โดยถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำคลองเปรม ตั้งแต่ปี 2548 โดยเป็นพ่อค้ายาบ้ารายใหญ่อยู่ในเรือนจำ และสามีจะเป็นคนสั่งให้ลูกน้องที่อยู่ด้านนอกนำยาบ้าไปส่งให้ลูกค้าตามสถานที่ต่างๆ ส่วนตนเป็นคนทำหน้าที่เปิดบัญชีธนาคารให้ลูกค้าที่สั่งซื้อยาบ้าโอนเงินเข้ามาในบัญชี
อีกราย เมื่อเวลา 00.15 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.กิตติพงษ์ สุวรรณ รอง ผกก.ปป.สน.วัดพระยาไกร แถลงผลจับกุม นายอดิศร นามมา อายุ 27 ปี ลูกจ้างกรมอู่ทหารเรือ และนายไพบูลย์ เฉลยศิลป์ อายุ 25 ปี พร้อมยาบ้า 4,000 เม็ด และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นโนวา สีดำ ทะเบียน กถษ 278 สมุทรปราการ โดยจับกุมได้ภายในซอยเจริญกรุง 82 แขวงและเขตบางคอแหลม กทม.
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีชาย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ นำยาบ้ามาส่งให้ลูกค้าหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านท่าพระ โดยจะใช้เส้นทางซอยเจริญกรุง 82 เป็นประจำ หลังจากได้เบาะแสเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร จึงนำกำลังไปซุ่มดูภายในซอย กระทั่งพบนายอดิศร และนายไพบูลย์ ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาด้วยท่าทางมีพิรุธ จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นพบยาบ้า 4,000 เม็ด จึงแจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รับจ้างขนยาบ้าให้กับนายตี๋เล็ก ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำคลองเปรม โดยนายตี๋เล็ก จะโทรศัพท์สั่งให้ไปรับยาบ้าจากเครือข่ายที่หน้าวัดสุทธิวราราม แล้วนำไปส่งให้ลูกค้าที่รออยู่หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง โดยจะรับจ้างขนยาบ้าส่งในพื้นที่วัดพระยาไกร บางรัก ยานนาวา และท่าพระ เป็นประจำ ได้ค่าจ้างครั้งละ 2,000 บาท ซึ่งหลังจากส่งยาบ้าแล้วจะได้รับเงินค่าจ้างโดยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร โดยทำมาแล้ว 2-3 ครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง