คอลัมนิสต์

บทบรรณาธิการ / คม ชัด ลึก(ส่งใหม่)

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บทบรรณาธิการ / คม ชัด ลึก(ส่งใหม่) ปชป.ต้องใช้โอกาสให้ถูก จนถึงเมื่อวันอาทิตย์ ความเป็นไปได้ในการจัดตั้งรัฐบาลยังคงอยู่ที่การรวมตัวของพรรคการเมือง 5 พรรค 260 เสียง โดยมีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้รับการสนับสนุนให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของประเทศไทย จึงเท่ากับว่าในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ประเทศไทยจะมีรัฐบาลชุดใหม่ที่อยู่คนละขั้วกับระบอบทักษิณ ซึ่งเข้ายึดกุมอำนาจและชี้นำทิศทางของประเทศมายาวนานถึง 7 ปีเต็ม เช่นนี้แล้ว ย่อมเป็นธรรมดาอยู่เองที่สังคมจะความคาดหวังกับพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะเข้ามาเร่งฟื้นฟูบูรณะความเสียหายที่เกิดจากระบอบทักษิณ ไม่ว่าเป็นด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และเฉพาะอย่างยิ่ง ความแตกแยกร้าวฉานของผู้คนในบ้านเมือง ในด้านเศรษฐกิจนั้น เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าโดยเร่งด่วนที่สุด อย่างเช่น การเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นจากนานาชาติที่สูญเสียไป เพราะความบอบช้ำอันเนื่องมาจากการต่อสู้ต่อต้านระบอบทักษิณ ประชาชนแบ่งข้างรบพุ่งกันเอง ซึ่งกินเวลาติดต่อกันนานหลายปี การเตรียมการรับมือกับภาวะถดถอยที่คาดหมายกันว่าจะเกิดขึ้นในปีหน้า อย่างที่เรียกกันว่า ได้เวลาเผาจริง ส่วนในด้านสังคมและการเมืองนั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า วิธีการแบ่งประชาชนออกมาเป็นฝักฝ่ายของระบอบทักษิณ ได้สร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นกับคนในชาติอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ดังนั้นปัญหาเร่งด่วนที่จะต้องลงมือกระทำในทันทีก็คือ การเยียวยาบาดแผลที่เกิดขึ้นนี้ อย่างที่มีผู้เสนอแนะเอาไว้แล้วก็คือ การสนับสนุนให้การเมืองภาคประชาชนแข็งแกร่งขึ้น จนสามารถมีบทบาทร่วม "คัดท้าย" รัฐนาวาให้แล่นไปในทิศทางที่ควรจะเป็นไป นั่นหมายถึงว่า ประเทศไทยจะเดินเข้าสู่แนวทางการปฏิรูปการเมืองอย่างแท้จริง พร้อมกันนั้น รัฐบาลในฐานะฝ่ายบริหาร จะต้องให้การสนับสนุนการทำหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม ภายใต้ภารกิจ "ตุลาการภิวัตน์" อันเป็นกำลังหลักในการจัดการให้การเมืองเข้ารูปเข้ารอย และกำจัดนักการเมืองสามานย์ออกไปจากระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักการเมืองผู้ซื้อเสียงเลือกตั้ง ซึ่งถือเป็นรากเหง้าของการทุจริตคอรัปชั่นในสารพัดรูปแบบสร้างความเสียหายให้แก่บ้านเมืองอย่างไม่รู้จบสิ้น ที่สุดแล้ว รัฐบาลจะต้องใช้โอกาสที่ได้รับมานี้ต่อสู้กับความไม่ชอบธรรมทั้งหลายที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศ ที่สำคัญก็คือ อำนาจจากกลุ่มการเมืองที่พยายามสร้างความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ขึ้นในประเทศ ทั้งเพื่อให้ตนเองและพวกพ้องพ้นผิด ทั้งเพื่อกลับมาเถลิงอำนาจได้อีกครั้ง ทั้งนี้ แกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะต้องใช้ความกล้าหาญในการบริหารประเทศมากพอสมควร เพราะจะว่าไป พรรคร่วมรัฐบาลเองก็มีนักการเมืองในอีกขั้วหนึ่ง หรืออำนาจเก่าเข้าร่วมจำนวนไม่น้อย ซึ่งหากเกิดการลูบหน้าปะจมูกขึ้น รัฐบาลชุดนี้ก็จะไม่แตกต่างอันใดจากรัฐบาลที่ผ่านมา
logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ