ข่าว

ญาติเปิดศึกชิงศพพระครูรองสมัชชาสงฆ์ไทย (อี 1 น.1)

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ญาติเปิดศึกชิงศพพระครูรองสมัชชาสงฆ์ไทย (อี 1 น.1) ป่วนทั้งวัด ญาติเปิดศึกชิงศพพระครูรองประธานสมัชชาสงฆ์ไทยในประเทศสิงคโปร์ แต่วัดบ้านแพนไม่ยอมให้ โร่แจ้งตำรวจช่วยไกล่เกลี่ย ก่อนต่อสายเจรจาสิงคโปร์ สุดท้ายยอมให้ย้ายหีบศพออกจากวัด เหตุชิงศพพระครู รองสมัชชาสงฆ์ไทยในประเทศสิงคโปร์ครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 ธันวาคม นางสุวรรณี ลี้จินดา อายุ 65 ปี พร้อมด้วยนางกิมเน้ย โกมลวานิช อายุ 78 ปี บ้านอยู่ ก 411/1 ถนนเสนาซอย 3 เขตเทศบาลเมืองเสนา อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยญาติๆ ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ปรีชา แสงสุวอ สว.เวร สภ.เสนา ว่าได้ไปติดต่อขอนำศพของพระครูขันติธรรมวัฒน์ หรือพระพรชัย ขันติพโล อายุ 75 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดพรชัยยาราม และรองสมัชชาสงฆ์ไทยในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตั้งอยู่ที่วัดบ้านแพน หมู่ 1 ต.สามกอ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา นางสุวรรณีกล่าวว่า พระครูขันติธรรมวัฒน์ ซึ่งเป็นพี่ชายของตน ได้เดินทางไปเผยแผ่ธรรมะ และอยู่ในประเทศสิงคโปร์มานานกว่า 30 ปี จนกระทั่งมรณภาพเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2551 มีฐานะเทียบเท่ารองสมเด็จพระสังฆราชในประเทศไทย โดยหลังจากมรณภาพแล้ว สมัชชาสงฆ์ไทยในสิงคโปร์ได้ส่งศพมาไว้ที่วัดบ้านแพน เนื่องจากเป็นวัดที่เคยบวช จากนั้นเมื่อญาติพี่น้องทราบข่าวการมรณภาพ จึงได้เดินทางไปรับศพ เพื่อจะได้มาทำบุญและสวดพระอภิธรรมศพกันทุกวันพระ แต่ทางวัดไม่ยอมให้ อ้างว่ารับดูแลจากสมัชชาในประเทศสิงคโปร์เอาไว้ ไม่สามารถให้ได้ จึงได้มาแจ้งความต่อตำรวจ หลังจากรับแจ้งแล้ว จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ภูมิพัฒน์ พรใหญ่พงษ์ รอง ผกก.สภ.เสนา และ ร.ต.ท.ธนรัตน์ เทือกแถว รอง สวส. เดินทางไปตรวจสอบ พบว่าที่บริเวณหน้ากุฏิของพระครูสุวรรณศีลาธิคุณ หรือหลวงพ่อพูน เกจิดังเมืองกรุงเก่า เจ้าอาวาสวัดบ้านแพน และเจ้าคณะอำเภอเสนา มีบรรดาพระภิกษุและญาติของพระครูขันติธรรมวัฒน์ยืนรออยู่ โดยสถานการณ์เริ่มตึงเครียด มีการโต้เถียงระหว่างเจ้าอาวาสกับบรรดาญาติ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปไกล่เกลี่ย แต่เจ้าอาวาสยืนยันที่จะไม่ให้นำศพออกไปเด็ดขาด พระครูสุวรรณศีลาธิคุณ หรือหลวงพ่อพูน กล่าวว่า พระครูขันติธรรมวัฒน์ ได้บวชที่วัดบ้านแพนเมื่อปี 2500 โดยมีหลวงพ่อวาสน์ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านแพน เป็นพระอุปัชฌาย์และตนเป็นพระกรรมวาจา โดยอยู่ที่วัดบ้านแพนประมาณ 10 พรรษา จากนั้นก็เดินทางไปเผยแผ่ธรรมะที่ประเทศมาเลเซียและสิงคโปร จนกระทั่งได้โอนสัญชาติไปเป็นชาวสิงคโปร์ แต่ก็ยังมาที่วัดเกือบทุกปี โดยในช่วงที่ได้รับพัดยศชั้นเอก ได้มาฉลองที่วัดบ้านแพน ได้ชั้นพิเศษก็มาฉลองที่นี่ และยังพาลูกศิษย์มาสร้างศาลามูลค่าหลายล้านบาทเอาไว้ด้วย จนก่อนที่จะมรณภาพ วัดไทยในสิงคโปร์ได้โทรศัพท์มาแจ้งวัดบ้านแพน จนถึงการมรณภาพ ก็นำศพมาไว้ที่วัด และมีกำหนดจะขอพระราชทานเพลิงศพวันที่ 21 ธันวาคมนี้ แต่ญาติมาแจ้งว่าไม่ประสงค์ที่จะประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพที่วัดบ้านแพน สมัชชาสิงคโปร์จึงขอมาเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลศพในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ ซึ่งเตรียมการเอาไว้หมดแล้ว ซึ่งหลังพิธีบำเพ็ญกุศล ก็ยินดีให้ญาติๆ นำไปประกอบพิธีเอง แต่หลังจากเจรจาอยู่นานตลอดทั้งวัน ญาติยืนยันจะนำศพออกจากวัด ซึ่งวัดก็ได้ประสานกับประเทศสิงคโปร์ และยอมให้นำศพออกไปจากวัด ก่อนจะลงบันทึกประจำวันไว้ หากมีญาติโยมจะไปบำเพ็ญกุศลก็สามารถที่จะไปร่วมบำเพ็ญกุศลได้ หลังจากญาติและพระวัดบ้านแพนได้ไปลงบันทึกประจำวันแล้ว ญาติได้ช่วยกันนำศพของพระครูขันติธรรมวัฒน์ ออกจากวัดบ้านแพนเข้าตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา โดยยังไม่เปิดเผยว่าจะนำศพไปไว้บำเพ็ญกุศลที่ใด
logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ