ข่าว

บทบก/10ธค51

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บทบก/10ธค51 การแย่งซื้อ ส.ส.ขายตัว การต่อรองทางการเมืองเพื่อแย่งกันจัดตั้งรัฐบาลระหว่างกลุ่มการเมือง 2 ขั้ว ที่มีพรรคเพื่อไทย ซึ่งตั้งใหม่เพื่อรองรับการถูกยุบพรรคพลังประชาชน และอีกฝ่ายคือพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้ประชาชนเห็นว่าการเมืองยังตกปลักอยู่ในวงจรอุบาทว์ ไม่เป็นที่พึ่งได้ในยามที่ชาติบ้านเมืองอยู่ห้วงวิกฤติการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมมวลชนแตกแยก การเมืองไทยใช้เงินลงทุนมากมายเหมือนในประเทศอื่น แต่มีส่วนต่างในประเด็นที่ว่าเงินก้อนใหญ่ถูกใช้ไปในการหว่านซื้อเสียงจากผู้มีสิทธิลงคะแนน เพื่อให้ได้เสียงมากที่สุดสำหรับชิงการจัดตั้งรัฐบาล จากนั้นจะใช้วิธีถอนทุนจากการโกงกินงบประมาณแผ่นดิน และโครงการต่างๆ จากการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานและโอกาสสร้างรายได้ผ่านการทุจริต คอรัปชั่น คราวนี้การซื้อเสียงเป็นไประหว่างกลุ่มแกนนำพรรคการเมือง ด้วยการทุ่มเงินซื้อ ส.ส.เข้าสังกัดเพื่อชิงการระดมเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล โดยซีกพรรคเพื่อไทยซึ่งยังไม่เคยมีกิจกรรมหรือ ส.ส.ผ่านการเลือกตั้งมา ได้รับการโอนจากพรรคพลังประชาชน ขอเป็นรัฐบาล หลังจากถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุบพรรคถึง 2 รุ่น เพราะเป็นภัยร้ายแรงต่อระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย ไม่ยอมเปิดทางให้อีกฝ่ายมีโอกาสทำงานเพื่อบ้านเมือง ฟื้นฟูโครงสร้างต่างๆ เพราะไม่ยอมเสียอำนาจรัฐซึ่งสามารถเอื้อประโยชน์ส่วนตัวหลายประการ พรรคเพื่อไทย หรือซากเก่าของพรรคพลังประชาชน ไม่ยอมฟังเสียงเรียกร้องของภาคธุรกิจเอกชน สถาบันต่างๆ ให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลโดยการเปลี่ยนขั้ว เพราะพรรคพลังประชาชนถูกมองว่าสิ้นความชอบธรรม กระทำผิดซ้ำซากโดยการโกงเลือกตั้งในรูปแบบต่างๆ แทนที่จะละอาย มีจิตสำนึกว่าควรพักหรือเลิกราจากการเมือง แต่กลับเห็นแก่ตัวมากกว่าผลประโยชน์ของบ้านเมือง เมื่อการทุ่มเงินเพื่อซื้อตัว ส.ส.ด้วยเงินจำนวนมาก พร้อมเสนอผลประโยชน์ มีข้อเสนอให้แต่งตั้งผู้นำรัฐบาลคนใหม่ โดยไม่คำนึงถึงคุณสมบัติ ความรู้ ความสามารถ เหมาะสมกับสถานการณ์ แต่เพียงต้องการให้เป็นหุ่นเชิด คนประสานผลประโยชน์ ย่อมทำให้การเมืองไร้อนาคต จมอยู่ในกับดักของการทุจริต โดยไม่รู้สึกอับอายว่าได้สร้างความเสียหายให้ประชาชน การดันทุรังอย่างไม่ห่วงสภาวะบ้านเมืองยามเผชิญวิกฤติ จะทำให้เกิดความขัดแย้งยืดเยื้อ เพราะนักการเมืองส่วนหนึ่งไม่ยอมให้มีการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติเพื่อทำงานให้ทุกฝ่าย กอบกู้สภาพบ้านเมือง โดยอ้างว่าไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ทั้งๆ ตัวเองมาจากการซื้อเสียง ถูกประจานผ่านคำพิพากษาของศาล ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของประเทศเพราะมีนักการเมืองมือสกปรกไร้ยางอายกุมอำนาจรัฐ ผลสุดท้ายเมื่อสังคมยอมทนต่อไปไม่ได้ อาจมีการเรียกร้องผลักดันให้เกิดวิธีใหม่ในการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ โดยนักการเมืองถูกพักงานยาวนานจนกว่าจะได้จัดตั้งระบบใหม่เพื่อให้มั่นคงถาวรต
logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ