ข่าว

((อี2/น.1))) ฝรั่งร่วมรัก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

((อี2/น.1))) ฝรั่งร่วมรัก สองหนุ่มสาวฝรั่งเมืองเบียร์ไม่อายฟ้าดิน อุตริร่วมรักบนกำแพงพระราชวังในอุทยานประวัติศาสตร์มรดกโลกเมืองกรุงเก่าอย่างโจ๋งครึ่ม เจ้าหน้าที่เดินตรวจสอบเห็นพฤติกรรมฉาว เป่านกหวีดไล่ ก่อนรวบตัวส่งตำรวจ เตรียมทำหนังสือถึงสถานทูตห้ามเข้าประเทศไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 8 ธันวาคม พ.ต.ท.เอก มหาสวัสดิ์ สารวัตรท่องเที่ยว (สว.ทท.) พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยตำรวจสายตรวจรับแจ้งจาก นายเมธาดล วิจักขณะ ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ว่า มีนักท่องเที่ยวชายหญิงร่วมรักกันอยู่ภายในโบราณสถาน เขตพระราชวังด้านกำแพงชั้นนอก วัดพระศรีสรรเพชญ์ ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างเร่งด่วน ที่เกิดเหตุบริเวณกำแพงชั้นนอกด้านทิศตะวันตกของพระราชวัง ก่อนถึงพลับพลาตรีมุข ตำรวจพบนายถาวร ขันธ์โสภา อายุ 38 ปี หัวหน้าสายตรวจฝ่ายรักษาความปลอดภัยของสำนักงานอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา นายสมโชค เมฆพุฒิ อายุ 30 ปี และนายไพฑูรย์ พึ่งทอง อายุ 46 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอุทยาน ยืนควบคุมตัวนักท่องเที่ยวชาย-หญิงที่กระทำผิดดังกล่าว จากการสอบสวนทราบชื่อนักท่องเที่ยวทั้งสอง คือ นายทอมบูก้า โอคาน อายุ 35 ปี และ น.ส.ครบคอนด์ วีวอน อายุ 32 ปี ชาวเยอรมัน เบื้องต้นนักท่องเที่ยวทั้งสองคนไม่ยอมรับสารภาพว่ากระทำการร่วมรักกัน ตำรวจจึงควบคุมตัวไปสอบสวน แต่ต่อมาทั้งคู่รับสารภาพว่ากระทำการดังกล่าวจริง จึงนำตัวส่งให้ พ.ต.ท.เอนก พงษ์สวัสดิ์ สว.เวร สภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อเปรียบเทียบปรับคนละ 500 บาท ในข้อหากระทำการอนาจารในที่สาธารณะ ก่อนจะปล่อยตัวกลับไป นายไพฑูรย์เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ขณะเดินตรวจความเรียบร้อยกับนายสมโชคภายในโบราณสถานวัดพระศรีสรรเพชญ์ มองเห็นชายหญิงชาวต่างชาติกำลังร่วมรักกันอย่างสนุกสนานโดยไม่สนใจใคร เมื่อเห็นดังนั้นจึงวิ่งเข้าไปห้ามปราม พร้อมกับเป่านกหวีดไปด้วย ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งสองคนหยุดร่วมรักดังกล่าว จากนั้นจึงเข้าไปควบคุมตัว พร้อมให้ทั้งคู่แต่งตัวให้เรียบร้อย เพราะระหว่างนั้นเสื้อของฝ่ายหญิงเปิดขึ้นจนเห็นหน้าอก ส่วนกางเกงชั้นในยังกองอยู่ที่หัวเข่า ก่อนจะแจ้งให้ตำรวจท่องเที่ยวเข้ามาตรวจสอบทันที นายเมธาดลกล่าวว่า อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ภายในโบราณสถานดังกล่าวได้ติดกล้องวงจรปิดมากถึง 33 ตัว แต่บริเวณที่เกิดเหตุอยู่เลยจากจุดที่กล้องสามารถจับภาพได้ อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเรื่องดังกล่าวได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดมากขึ้น เนื่องจากช่วงนี้เริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก อีกทั้งบางคนอาจจะไม่เข้าใจถึงวัฒนธรรมอันดีงามของประเทศไทยอย่างแท้จริง ส่วนนักท่องเที่ยวทั้งสองคนเจ้าหน้าที่รายงานไปยังสถานทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย เพื่อให้ทราบถึงพฤติกรรมดังกล่าวแล้ว และเชื่อว่าทั้งสองคนอาจจะไม่ได้มาเที่ยวในประเทศไทยอีก
logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ