ข่าว

ฝนโปรยปรายแต่ประชาชนไม่มีหนีรอถวายสักการะ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพตั้งแต่เวลา 04.45 น. แนะคนไทยเปลี่ยนความโศกเศร้าเป็นพลังให้ประเทศเดินหน้า

ฝนโปรยปรายแต่ประชาชนไม่มีหนีรอถวายสักการะ

สำหรับบรรยากาศในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เป็นวันที่ 78 ถึงจะมีฝนโปรยปรายลงมาตั้งแต่เช้าตรู่ ก็ยังคงมีประชาชนแต่งกายด้วยชุดดำเรียบร้อยจำนวนมากจากทั่วประเทศ มาถวายสักการะพระบรมศพโดยเจ้าหน้าที่ได้เปิดประตูให้ประชาชนเดินแถวเข้าตั้งแต่เวลา 04.45 น. ขณะเดียวกัน สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 16 ม.ค. หลังสำนักพระราชวัง ปิดไม่ให้ประชาชนเข้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อขึ้นกราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในเวลา 23.40 น.จากกำหนดเดิมในเวลา 21.00น. เนื่องจากยังมีประชาชนเข้าแถวรอคิวกราบพระบรมศพ ในมณฑลพิธีสนามหลวงเป็นจำนวนมาก ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 51,381 คนรวม 77 วัน มี 3,383,519 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 4,952,262.45 บาทรวม 77 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 278,909,324.79 บาท

ฝนโปรยปรายแต่ประชาชนไม่มีหนีรอถวายสักการะ

กลุ่มสาธิตเกษตร

นางณัฏฐาวดี ทิพเวส ในฐานะประธานรุ่น คณะนักเรียนโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รุ่นที่ 17 กล่าวว่า ความรู้สึกที่ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลพระบรมศพในครั้งนี้ รู้สึกเป็นเกียรติและปลาบปลื้มใจมาก เนื่องจากพวกเราทุกคนมีโอกาสได้เฝ้าฯ รับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล อย่างใกล้ชิด ทุกครั้งที่เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานปริญญาที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มาตั้งแต่ยังเป็นเด็กนักเรียน

“จำได้ว่าตอนเรียนอยู่ตั้งแต่ชั้นป.1 รุ่นของเรามีโอกาสได้รับเสด็จฯ พระองค์ครั้งมาพระราชทานปริญญาบัตรแก่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์อยู่เสมอ จำได้อีกว่ารุ่นของเราทุกคนที่มีจำนวน 200 กว่าคน จะนั่งอยู่ตลอดสองฝากฝั่งของถนน ยืนรอให้รถพระที่นั่งเคลื่อนผ่านเพื่อเปล่งเสียงว่า ทรงพระเจริญ ทำให้ครั้งนี้เราทุกคนที่มาร่วมเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหาร มีความรู้สึกใกล้ชิดพระองค์หมือนในวัยอีกครั้ง ส่วนคำสอนที่ทางรุ่นของเรานำมาใช้หลัก ๆ คือ เรื่องของความพอเพียงและปฎิบัติตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด โดยพยายามทำสิ่งต่างๆ ที่เราพอจะทำได้ ได้แก่ การจัดกิจกรรมอาสาโดยคณะกลุ่มของเรา และท้ายสุดสิ่งที่อยากบอกคนไทยคือ อยากให้เปลี่ยนความโศกเศร้าอาดูรนี้แปรเปลี่ยนเป็นพลังให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไป” นางณัฎฐาวดี กล่าว

ฝนโปรยปรายแต่ประชาชนไม่มีหนีรอถวายสักการะ

สมร ขันธประโยชน์(ขวาสุด) 

นางสมร ขันธประโยชน์ อายุ 61 ปี ลูกจ้างประจำ กระทรวงกลาโหม ชาว ต.สามโคก อ.สามโคก จ.ปทุมธานี กล่าวว่า เดินทางมาพร้อมกับเพื่อนบ้านมาถึงท้องสนามหลวงช่วงเวลา 02.30 น. และได้เข้ากราบสักการะพระบรมศพ เวลา 08.30 น.ถือว่าเร็วกว่าครั้งก่อน ซึ่งตัวเองเดินทางมาเป็นครั้งที่ 2 ครั้งก่อนรอนานถึง 13 ชั่วโมง เนื่องจากมาตรงกับวันอาทิตย์แต่ก็ไม่รู้สึกเหนื่อย และตั้งใจจะว่าถ้ามีโอกาสก็จะเดินทางมากราบสักการะอีกเรื่อยๆ รักและซาบซึ้งมากที่เห็นพระองค์ท่านทำทุกๆ อย่างเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ๆ 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ