ประชาชนทุกหมู่เหล่าถวายความอาลัย   

     

         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง วันที่ 26 ต.ค. สำนักพระราชวังได้เปิดให้ประชาชนเข้ามาถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และลงนามสมุดหลวงเพื่อถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช วันที่ 12 เมื่อ เวลา 08.12 น.โดยมีประชาชนสวมชุดดำเดินทางมาต่อแถวเข้าทางประตูวิเศษไชยศรีอย่างต่อเนื่อง โดยมีบุคคลที่มีชื่อเสียงและคณะครูโรงเรียนต่างๆ เช่น นายสตีเวน ซีกัล ผู้กำกับและดาราฮอลลีวู้ด, คณะครูและนักเรียน โรงเรียนวัดหัวลำโพง จำนวน 50 คน, คณะครูและนักเรียน วิทยาลัยเทคโนโลยีตั้งตรงจิตรพณิชยการและวิทยาลัยเทคโนโลยีตั้งตรงจิตรบริหารธุรกิจ จำนวน 200 คน

   พ.ต.อ.ไพรัช พลโยธา

       พ.ต.อ.ไพรัช พลโยธา ข้าราชการบำนาญอดีตนักบิน ส.บ.5 สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อายุ 77 ปี ซึ่งมีโอกาสได้ขับเฮลิคอปเตอร์นำขบวนเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตั้งแต่ปี พ.ศ.2511 เป็นเวลานานกว่า 11 ปี และยังมีโอกาสได้ตามเสด็จพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ที่กล่าวพลางร้องไห้ว่า เมื่อก่อนมีโอกาสได้ถวายงาน ขับเฮลิคอปเตอร์ตามขบวนไปมาแล้วทุกพื้นที่ของประเทศ โดยต้องเป็นส่วนนำที่ขึ้นไปดูก่อน ไม่เว้นแม้แต่พื้นที่คอมมิวนิสต์ แต่ละพื้นที่ล้วนเป็นพื้นที่กันดาร หากเฮลิคอปเตอร์ลงไม่ได้ ท่านก็จะเสด็จพระราชดำเนินต่อไปเองเรื่อยไปตามทาง ทุกพื้นที่ไม่เคยมีปัญหาใดแม้จะอันตรายมาก หลายครั้งที่สภาพอากาศไม่เป็นใจ พระองค์ก็จะให้ลงจอดที่สนามบินก่อนเพื่อความปลอดภัยของทุกคนในขบวน หลายครั้งที่มีคนป่วยหนัก เช่นคนจะคลอดลูก พระองค์ก็จะมีรับสั่งให้นำเฮลิคอปเตอร์ย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินเหล่านี้ไปส่งโรงพยาบาลในทันท่วงที แต่ละครั้งได้กลับออกจากพื้นที่ก็ 4-5 ทุ่มแล้วก็มี       

        “ตลอดเวลาที่ได้เป็นนักบินนำขบวนนั้น ภาพประทับใจติดตาคือพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงงาน โดยมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี คอยทรงพระอักษรถวายอยู่เคียงข้าง ในแต่ละครั้งเห็นพระองค์ทรงงานหนักเสมอ เป็นความภูมิใจที่สามารถนำเรื่องไปเล่าให้ลูกฟังได้อีกยาวนาน ความประทับใจสูงสุดคือได้มีโอกาสรับพระราชทานรูปพระฉายาลักษณ์ของพระองค์ที่มีเราอยู่ในภาพนั้น ซึ่งกองงานได้ส่งมาให้ เป็นความประทับใจที่สุด วันที่ท่านสวรรคตรู้สึกหัวใจสลาย น้ำตาไหลออกมาไม่รู้ตัว เป็นความรู้สึกที่บรรยายออกมาไม่ได้ คิดถึงทีไรก็ยังมีน้ำตาอยู่เสมอ”       

 

นางบูยา อาแซ่-นางศาวณีย์ มาเยอะ

         นางบูยา อาแซ่ อายุ 73 ปี ชาวเขาเผ่าอาข่า เดินทางมาจาก อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ พร้อมลูกสะใภ้ นางศาวณีย์ มาเยอะ อายุ 44 ปี ที่พักอาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ ด้วยชุดชนเผ่า เล่าให้ฟังด้วยภาษาท้องถิ่นพร้อมหลั่งน้ำตา โดยมีลูกสะใภ้แปลความหมายให้ฟังว่า พ่อหลวงทรงงานมานานแล้ว ตอนนี้พ่อหลวงพักผ่อนอยู่บนสวรรค์ ตนรักพ่อหลวงและคิดถึงมาก ลูกคนไหนๆ ก็เป็นลูกของพ่อหลวงทั้งนั้น พ่อหลวงทรงสอนดี เคยรับเสด็จฯ พ่อหลวงเมื่อตอนอายุ 43 ปี ทรงสอนให้ชาวเขาปลูกผักปลูกผลไม้ ทำให้พวกเรามีชีวิตที่ดี ชาวอาข่าหลายคนก็อยากมา แต่เดินทางมาลำบากมาก       

        ขณะที่ นางศาวณีย์ เปิดเผยว่า ชาวเขาเผ่าอาข่าเราได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างมากจากพ่อหลวง ทรงช่วยเหลือพวกเราให้มีที่ทำกิน จากที่ปลูกข้าว ปลูกฝิ่นในสมัยก่อน พ่อหลวงได้สอนให้พวกเราปลูกผักและผลไม้ ทั้งข้าวโพด ผักกาด พริก มะเขือเทศ ส้มเขียวหวาน แล้วยังให้ส่งไปจำหน่ายให้กับโครงการหลวง ทำให้พวกเรามีรายได้แบบไม่ผิดกฏหมาย ลูกหลานเกิดมารุ่นต่อๆ ไปไม่ต้องติดยา พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างที่ดี   

       นายเกียรติศักดิ์ เข้าครอง  

       นายเกียรติศักดิ์ เข้าครอง อายุ 45 ปี ชาวอำเภอประจันตคราม จ.ปราจีนบุรี อาชีพค้าขาย เล่าวซึ่งเดินทางถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล สองครั้ง โดยวันแรกเดินทางมาเมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมาแต่เข้าข้างในพระบรมมหาราชวังไม่ทัน ทำได้แค่อยู่ด้านนอก ครั้งนี้จึงแก้ตัวใหม่โดยเดินทางมาล่วงหน้า 1 วัน เผยว่า เพราะพ่อแม่คอยบอกเล่าให้ลูกๆ ฟังตั้งแต่จำความได้ คือ ไม่ว่าพระองค์จะเสด็จไปแห่งไหนก็เจริญที่นั่น ด้วยเหตุนี้ตัวเองรักและเคารพต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาก อีกทั้งยังรู้สึกภูมิใจและเป็นบุญมากที่ได้เกิดได้อยู่ในแผ่นดินรัชกาลที่ 9 เรียกว่า ไม่มีอะไรมาเปรียบเทียบได้       

        “ผมน้อมนำแนวทางการดำเนินชีวิตในเรื่องการดำรงตนเป็นคนดีไม่ทำให้สังคมเดือดร้อน รวมถึงช่วยจะพยายามสืบสานพุทธศาสนาให้สืบต่อไป และด้วยความรักที่มีต่อพระองค์ท่านเป็นแรงบันดาลใจให้ผมเก็บสะสมพระบรมฉายาลักษณ์ และเหรียญเกี่ยวกับพระองค์มาตลอดตั้งแต่อายุ 10 ปี ทั้งนี้ไม่ใช่เพื่อเป็นมูลค่าแต่เพื่อให้ลูกหลานคนเกิดใหม่ได้เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับพระองค์” หนุ่มปราจีนเล่าถึงความตั้งใจ

นายสตีเวน ซีกัล ผู้กำกับและดาราฮอลลีวู้ด

จิตอาสา ช่วยเข็นพาคุณยายมาร่ววมลงนามถวายความอาลัย 

ประชาชนเดินทางมาอย่างไม่ขาดสาย