ข่าว

ประชาชนยังหลั่งไหลเข้าถวายความอาลัย 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เยาวชนจิตอาสาช่วยเข็นผู้สูงวัยเข้าถวายความอาลัย ในขณะที่ประชาชนยังเนืองแน่นต่อคิวแม้อากาศจะร้อนอบอ้าว

      ประชาชนยังหลั่งไหลเข้าถวายความอาลัย 

   เมื่อเวลาประมาณ 8.00 น. ของวันที่ 20 ต.ค. สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชน เข้ามาร่วมลงนามถวายอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ภายในศาลาสหทัยสมาคมในพระบรมหาราชวัง ซึ่งมีประชาชนเดินทางมาเป็นจำนวนมากจนท้ายแถวยาวไปถึงภายในท้องสนามหลวง โดยมีเจ้าหน้าที่คอยจัดระเบียบให้ทยอยเดินเข้ามาที่ละกลุ่ม เข้าไปยังเต้นท์กันแดดที่ติดตั้งไว้เป็นระยะ จนถึงหน้าประตูวิเศษไชยศรี โดยมีจิตอาสาคอยนำน้ำ อาหารเช้า ของหวาน ต่างๆ มาแจกจ่ายแก่ประชาชนและคอยเก็บขยะให้ เป็นระเบียบเรียบร้อย เมื่อประตูเปิดเจ้าหน้าที่ได้อำนวยความสะดวกให้กับคนชรา ผู้พิการ ให้เข้าไปสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และลงนามสมุดหลวงเพื่อถวายความอาลัย

     นางชลธาร และ นายศิริพจษ์ สุธรรมรักษ์ สองสามีภรรยา บอกว่าเดินทางมาตั้งแต่ช่วง 9 โมงเช้า แม้แถวจะยาวแต่ก็ใช้เวลาไม่มากในการรอเข้าไปลงนามถวายความอาลัย

    “หลังทราบข่าว ก็รีบพาลูกๆ มาที่สนามหลวง มากราบพระองค์ท่านด้านหน้าพระบรมหาราชวัง รับเสด็จพระบรมวงศานุวงศ์ และใช้เวลาตอนเช้าวันนี้มารอเข้าไปสักการะพระบรมฉายาลักษณ์ ลงนามถวายอาลัยเป็นครั้งแรก รู้สึกตื่นตัน คิดถึงพระองค์ท่าน อย่างบอกไม่ถูก ได้เข้ามาแล้วรู้สึกพระองค์อยู่ใกล้ๆ คิดในใจว่าทรงต้องมองดูประชาชนอยู่บนสรวงสวรรค์ชั้นสูงสุด” นางชลธารกล่าวทั้งน้ำตา

    ด้าน นางนฤมล โพธิ์สุวรรณ เผยว่าเดินทางมาตั้งแต่ 7 โมงเช้า เพื่อเข้ามาถวายความอาลัย ด้วยความรู้สึกคิดถึง หลังมองดูพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ที่วางไว้ตรงหิ้งพระในบ้านทุกวัน

   “ตอนเด็ก ประมาณ7 ขวบ จำได้ว่าแม่เคยพาไปรับเสด็จพระองค์ท่านที่สนามหลวง ตอนนั้นเรารู้สึกรักพระเจ้าอยู่หัว ได้เห็นความรักของประชาชนที่มีต่อพระองค์ท่านเป็นครั้งแรก พอโตขึ้น ตอนที่ในหลวงทรงเข้ารับการรักษาพระวรกายแรกๆ น้องสาวต้องไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลศิริราช เหมือนกัน เราต้องไปเฝ้าน้องทุกวัน มีวันหนึ่งจะเดินไปที่ห้องผู้ป่วยเจ้าหน้าที่เดินมาบอกว่าให้นั่งลงในหลวงกำลังเสด็จมา ก็รีบนั่งเลยไม่ทันตั้งตัว พระองค์ท่านก็เสด็จมาจริงๆ พร้อมสมเด็จพระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ เป็นบุญและกำลังใจให้เรามาก จำได้ว่าเงยหน้าขึ้นไปมองพระพักตร์แป๊ปเดียว สายพระเนตรทรงมีพระเมตตา สมเด็จพระราชินีนาถทรงยิ้มให้ประชาชน เป็นความปลื้มปิติ ที่จำได้ไม่เคยลืม” นฤมล เล่าความทรงจำล้ำค่าในชีวิต

ประชาชนยังหลั่งไหลเข้าถวายความอาลัย 

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายบรรยากาศรอบท้องสนามหลวมีแดดร้อนอบอ้าว แต่ยังมีประชาชนทั่วทุกสารทิศยังรอต่อแถวเข้ามาถวายความอาลัยจำนวนมาก พร้อมกันนี้สำนักพระราชวังได้จัดรถกอล์ฟรับส่งผู้พิการและคนชรา รวมถึงมีจิตอาสานักเรียนรักษาดินแดน ลูกเสือเนตรนารีสมุทร มาช่วยเข็นรถเข็นให้คนชราและผู้พิการได้เข้าไปลงนามถวายความอาลัยอย่างสะดวกสบาย โดยวันนี้ทางสำนักพระราชวังได้ขยายเวลาการลงนามถวายความอาลัย ไปจนถึงเวลา 17.00 น.

     นายเชอริงค์ เปนโจ (Tshering Penjor) นักธุรกิจชาวภูฎาน ใส่ชุดประจำชาติเดินทางมาลงนามถวายอาลัย พ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ของคนไทย เปิดเผยว่า รู้จักพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องจากสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก เสด็จฯ เยือนประเทศไทยเมื่อ 10 ที่ผ่านมา ในงานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ครั้งนั้นทำให้คนภูฎานทั้งประเทศรู้จักพระองค์ และรับรู้ถึงพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่พระองค์ทรงทำเพื่อประชาชนของพระองค์ด้วยความรัก พระองค์ปฎิบัติยิ่งกว่าพระเจ้า

  “ด้วยความที่เป็นนักธุรกิจต้องเดินทางมาประเทศไทยบ่อยครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้มาเพราะธุรกิจ แต่มาเพราะอยากเข้ามาร่วมถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และลงนามสมุดหลวงเพื่อถวายความอาลัย ตอนมาถึงได้มาเห็นคนไทยมายืนต่อแถวด้วยความมีระเบียบท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนโดยไม่มีใครบ่น เพื่อให้ได้เข้ามาสักการะ ทำให้ตนรู้ว่าพระองค์เป็นที่รักและเทิดทูนของคนไทยเป็นอย่างมากจริงๆ ” นักธุรกิจภูฎาน กล่าวด้วยความปลื้มใจ

     น.ส.ศิริลักษณ์ เทียมเสรีวงศ์ อายุ 61 ปี ชาวอ.เมือง จ.สมุทรปราการ มาต่อแถวตั้งแต่เวลา 10.00 น. รอกว่า 5 ชั่วโมง ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าว เล่าภายหลังเข้าถวายสักการะว่า พระองค์เป็นเหมือนพ่อของเรา ถ้าไม่มากราบในวันนี้ ก็คิดว่าตนเองจะไม่มีความสุขไปตลอดชีวิต จึงอดทนและทำได้สำเร็จ ทั้งนี้ประทับใจที่ทรงดูแลประชาชน พัฒนาประเทศ ตลอดที่ทรงครองราชย์ 

   “โอกาสนี้จะน้อมนำคำสอน และเรื่องราวของพระองค์ถ่ายทอดให้คนรุ่นต่อไปที่อาจไม่ทัน ในฐานะอาจารย์วิทยาลัยอาชีวศึกษาแห่งหนึ่ง จะสอนลูกศิษย์ให้เป็นคนดี ใช้ชีวิตพอเพียง ประหยัด โดยเฉพาะการรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ที่จะเป็นเกราะทำให้ชีวิตเขาเจริญรุ่งเรือง”น.ส.ศิริลักษณ์ กล่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ