ข่าว

ทายาทปาร์คนายเลิศแจงไม่ได้ขายทั้งหมด-จ่อเปิดร้านอาหารหรู

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ทายาทรุ่น 4 โรงแรมปาร์คนายเลิศแจงไม่ได้ขายทั้งหมด เผยพื้นที่ส่วนใหญ่ยังเป็นของครอบครัว เตรียมเปิดร้านอาหารหรูธันวาคมนี้ พนักงานสุดอาลัย

 

        ความคืบหน้ากรณี น.ส.ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงแรมปาร์คนายเลิศ จำกัด ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 4 เรียกประชุมพนักงานก่อนแถลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์โรงแรมสวิสโฮเต็ล ปาร์คนายเลิศว่า ธุรกิจของโรงแรมที่แข่งขันสูง ทำให้โรงแรมประสบปัญหาขาดทุนแม้ว่าที่ผ่านมาคณะผู้บริหารจะทำงานหนักเพื่อประคับประคองสถานการณ์ ความอยู่รอดของโรงแรมมาตลอด แต่สุดท้ายทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลง จึงขอหยุดดำเนินกิจการในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 เป็นต้นไป โดยบริษัทจะจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายกำหนดทุกประการ และจะจ่ายโบนัสอีก 1 เดือนให้แก่พนักงาน ขณะเดียวกันมีรายงานว่า บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นกลุ่มทุนจากโรงพยาบาลกรุงเทพจะยอมทุ่มเม็ดเงินถึงหมื่นล้านเพื่อซื้อกิจการโรงแรมปาร์คนายเลิศไปทำศูนย์สุขภาพ BDMS Wellness Clinic

          เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 กันยายน น.ส.ณพาภรณ์ ทายาทรุ่น 4 โพสต์ในไอจีว่า "เล็กขอ อธิบายเพิ่มเติม เพราะเห็นหลายคนเข้าใจผิดจากข่าวที่ออกไป ความจริงคือที่ดินที่ขายเป็นเพียงส่วนนึงของพื้นที่ทั้งมหด (ส่วนที่เป็นโรงแรมและตึก promenade) พื้นที่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นของครอบครัว โดยบ้านปาร์คนายเลิศ ห้องอาหารมาเมซอง และแผนกจัดเลี้ยงยังคงให้บริการเป็นปกติเหมือนเดิม และร้านอาหาร lady L ซึ่งเป็น garden bistro กำลังจะเปิดในต้นเดือนธันวาคมนี้ สำหรับส่วนบริหาร เช่น ที่จอดรถสำหรับลูกค้าที่มาจัดเลี้ยงในบ้านปาร์คนายเลิศยังคงจอดรถได้ที่โรงแรมตามปกติ

ทายาทปาร์คนายเลิศแจงไม่ได้ขายทั้งหมด-จ่อเปิดร้านอาหารหรู

        จากการสอบถามความรู้สึกของพนักงานหญิงรายหนึ่ง ตำแหน่งเลขานุการแผนกบริการอาหารและเครื่องดื่มที่ทำงานมา 3 ปี เล่าให้ฟังว่า ทราบข่าวโรงแรมจะปิดตัวจากสื่อต่างๆ รู้สึกตกใจและใจหาย ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้ โดยก่อนหน้าที่จะมีข่าวผู้บริหารได้ประกาศให้พนักงานเข้าประชุมด่วน ตอนแรกคิดว่าจะเป็นเรื่องตารางหยุดงานที่ประชุมเป็นปกติอยู่แล้ว เมื่อกลายเป็นเรื่องแจ้งให้ทราบว่าจะปิดกิจการ พนักงานทุกคนต่างใจหาย และจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา ซึ่งผู้บริหารยืนยันว่าทุกคนจะไม่ตกงาน ใครอยากทำงานต่อมีบริษัทในเครือพร้อมโยกย้ายทันทีหากมีตำแหน่งงานนั้นๆ ว่าง หรือหากไม่ประสงค์ทำงานต่อก็ยื่นข้อเสนอชดเชยรายได้ให้ตามกฎหมายพร้อมเงินพิเศษอีก 1 เดือน

       “ตอนนี้ยังเรียนปริญญาโทอยู่ด้วยก็กระทบบ้าง เพราะรู้สึกไม่มั่นคงเรื่องรายได้ แต่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะทำงานต่อหรือออกไปเรียนอย่างเดียว คงต้องรอใกล้ๆ สิ้นปีที่โรงแรมจะปิดตัวอย่างเป็นทางการถึงจะตัดสินใจอีกครั้งค่ะ” พนักงานสาวกล่าว

       ด้าน น.ส.กรองทอง เกิดนาค อดีตพนักงานโรงแรมปาร์คนายเลิศที่เคยทำงานเมื่อช่วงปลายปี พ.ศ.2556-2558 เผยว่า แม้ตอนนี้จะไม่ได้เป็นพนักงานที่โรงแรมแล้ว แต่เมื่อได้ยินข่าวว่าโรงแรมจะปิดกิจการรู้สึกเสียใจ เพราะเป็นโรงแรมเก่าแก่ที่อยู่คู่คนไทยมานาน และเป็นโรงแรมที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทยสูงมาก หากพูดถึงปาร์คนายเลิศทุกคนจะนึกถึงความเรียบหรู ซึ่งไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัยสิ่งเหล่านี้ยังคงอยู่ สิ่งที่ประทับใจที่สุดที่ทำงานที่นี่คือ ในทุกวันประสูติของพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ปาร์คนายเลิศจะส่งดอกไม้และขนมหวาน ซึ่งเป็น 2 ส่วนที่ขึ้นชื่อของโรงแรมเข้าไปถวาย และตลอดระยะเวลา 1 ปีเศษที่ทำงานมีโอกาสได้เป็นตัวแทนของโรงแรมนำเข้าไปถวายทุกพระองค์

       “ตอนที่ตัวเองยังทำงานอยู่ที่ปาร์คนายเลิศได้ยินข่าวบ้างเหมือนกันว่า ทางโรงแรมจะขายกิจการ แต่ตอนนั้นยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีนายทุนคนไหนเข้ามาซื้อกิจการ แต่พอทราบเมื่อคืนที่ผ่านมาว่าโรงแรมจะปิดกิจการสิ้นปีนี้รู้สึกเสียใจเหมือนกัน เพราะที่นั่นเป็นโรงแรมที่ร่มรื่นมากอากาศบริสุทธิ์ เหมือนเป็นป่าท่ามกลางตึกสูงทำงานแล้วมีความสุข ถ้าเดินจากถนนด้านนอกเข้าไปจะรู้สึกถึงความแตกต่างทันที ทั้งยังมีต้นไม้ใหญ่อายุ 20-30 ปี อีกหลายต้นด้วย ถ้าคนที่ซื้อที่ดินไปปรับทำอย่างอื่นแล้วตัดต้นไม้พวกนี้ทิ้งคงจะน่าเสียดายมาก แต่ไม่ใช่เฉพาะภายนอกห้องพักเท่านั้น” น.ส.กรองทอง กล่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ