มัลเบอร์รี่ผลไม้เล็กๆ แต่มากประโยชน์

   

 นอกจากเบอร์รี่ต่างๆ ที่เคยเขียนไปแล้วยังมีเบอร์รี่อีกหนึ่งชนิดที่มีรสชาติอร่อย น่าจะเป็นที่ถูกใจของคนไทยหลายๆ คน เพราะรสชาติหวานอมเปรี้ยวโดนใจคนไทย สามารถปลูกได้ในประเทศไทยจึงมีราคาไม่แพงมากนักเมื่อเปรียบเทียบกับเบอร์รี่ชนิดอื่นๆ จึงเอ็นจอยกันได้อย่างสบายใจ ที่ปลูกที่ประเทศไทยมีอยู่ 2 ชนิด ชนิดแรกสำหรับไว้รับประทาน อีกชนิดหนึ่งปลูกเพื่อนำไปเลี้ยงไหม หลายๆ คนคงจะพอนึกออกแล้วว่าผลไม้มากประโยชน์ที่กำลังกล่าวถึงนี้จะเป็นอะไรไม่ได้นอกจาก “มัลเบอร์รี่” (Mulberry) หรือที่เรียกกันคุ้นหูว่า “ลูกหม่อน” นั่นเอง มัลเบอร์รี่ปลูกในประเทศไทยมานานแล้ว โดยเฉพาะในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปัจจุบันนี้เป็นพืชเศรษฐกิจที่กำลังมาแรง เนื่องจากเป็นที่ต้องการของผู้ที่รักสุขภาพ

     มัลเบอร์รี่มีประโยชน์มากมายใช้กันมาแต่สมัยโบราณโดยเป็นผลไม้ที่ใช้บำรุงความงามกันมาช้านานในเรื่องของ การฟื้นฟูเรื่องความแห้งของส่วนต่างๆ ในร่างกายทั้งผิวหน้า ผิวกายที่แห้ง ปากแห้ง คอแห้ง ไปจนถึงตาแห้ง เรียกว่าครอบคลุมทุกส่วนจริงๆ เพราะว่ามัลเบอร์รี่อุดมไปด้วยวิตามินเอจึงเป็นผลไม้ที่ช่วยบำรุงสายตา และผิวพรรณให้สวยสดใสสุขภาพดี รับประทานเป็นประจำเส้นประสาทตาจะดี สายตาจึงแจ่มใส มองอะไรชัดเจนขึ้น อีกทั้งยังมีฤทธิ์เป็นยาเย็นที่ช่วยขับลมร้อน และความร้อนรุ่มออกจากร่างกาย เช่น เมื่อมีไข้ขึ้นสูงรับประทานมัลเบอร์รี่แล้วจะช่วยลดไข้ลงได้บ้าง แถมยังช่วยบำรุงตับ ไตอีกด้วย ในวันทีอากาศร้อนเมื่อรู้สึกกระหายน้ำมัลเบอร์รี่จะช่วยให้ชุ่มคอ และเช่นเดียวกับผลไม้อื่นๆ ที่ช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย อีกทั้งยังช่วยให้ผมดกดำอีกด้วย ที่สำคัญยังบำรุงหัวใจให้แข็งแรง

                                                            เบรด แอนด์ บัตเตอร์ พุดดิ้ง

     มัลเบอร์รี่รับประทานได้สดๆ เลย ใส่กับโยเกิร์ต หรือสลัดก็อร่อยดี ทำฟรุ๊ตสลัดเป็นของหวานก็ยังได้ สามารถซื้อมัลเบอร์รี่แห้งก็พกพาไปรับประทานได้สะดวก มิ้งค์มีสูตรขนมอร่อยๆ ที่จะนำมัลเบอร์รี่มาเป็นส่วนผสมของเครื่องปรุงที่แสนอร่อย “เบรด แอนด์ บัตเตอร์ พุดดิ้ง” (Bread and Butter Pudding) เป็นเมนูที่ใช้ขนมปังที่รับประทานไม่ทัน ไม่นุ่มแล้วให้เกิดเป็นของหวานแสนอร่อย จะได้ไม่เสียของ เริ่มจากนำขนมปังเก่าไปแช่ในนมพอชุ่ม ไม่ควรทิ้งไว้นานเกินไปขนมปังจะแฉะ นำขึ้นมาวางเรียงให้สวยในชามอบที่เตรียมไว้ เรียงให้เต็มชามให้พอสวย โรยน้ำตาลทรายแดง และผงซินนามอนปริมาณตามต้องการ ตามด้วยผลมัลเบอร์รี่สด ตีไข่ 1 ฟอง ในชามขนาดเล็ก ใช้แปรงสำหรับทำอาหารจุ่มไข่ที่ตีไว้แล้วเอามาทาให้ทั่วขนมปังเพื่อป้องกันขนมไหม้ขณะอบ นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 20 นาที เพียงเท่านี้ขนมแสนอร่อยก็พร้อมเสิร์ฟ

                                                                 เยลลี่มัลเบอร์รี่

   อีกเมนูหนึ่งสำหรับผู้ที่อยากรับประทานของหวานแบบไม่หนักท้องมากนัก “เยลลี่มัลเบอร์รี่” เตรียมมัลเบอร์รี่สดเพื่อใช้คั้นให้ได้น้ำประมาณ 2 ถ้วยตวง น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ หรือตามชอบ น้ำมะนาวครึ่งลูก แผ่นเจลลาติน 10 แผ่น แช่แผ่นเจลลาตินในน้ำอุณภูมิห้องเป็นเวลา 1 นาที จากนั้นนำไปละลายในน้ำร้อน 1 ½ ถ้วยตวง แล้วเต็มน้ำตาลทรายแดงลงไปคนให้ละลาย เทน้ำมัลเบอร์รี่ที่คั้นไว้แล้ว และน้ำมะนาวลงไปคนให้เข้ากัน เทใส่ถ้วยใสจะได้เห็นสีเยลลี่มัลเบอร์รี่ ประดับหน้าด้วยผลมัลเบอร์รี่สด ลองทำดูอร่อย และไม่ยากเลยค่ะ

     พูคคุยหรือเสนอแนะความคิดเห็นต่างๆ กับ “มิ้งค์” ได้นะคะ ที่ [email protected] หรือไลน์ natprapa_ch

"มิ้งค์" ณัฐฏิ์ประภา ชุณหะวัณ