ปั่นไกล...เพื่อหัวใจของน้อง

                              กัปตันเชษฐพล ภุมมะโสภณ- ศิริพัฒ พัฒกุล (2 คนกลาง) นำขบวนทีมนักปั่น  

     ระยะทางกว่า 50 กิโลเมตร ไม่เป็นอุปสรรคต่อร่างกายและหัวใจของเหล่านักปั่นนับพันที่นำสองล้อคู่กายมาร่วมเดินทางในเส้นทางการกุศล  “NOK AIR RIDE FOR LIFE ปั่นด้วยใจ ให้ด้วยระยะทาง” ตลอดถนนหาดหน้าด่าน อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช  โดยทุกกิโลเมตรที่เดินทางผ่านนั้นมีมูลค่าเพื่อช่วยเหลือมูลนิธิเด็กโรคหัวใจ ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราช นครินทร  ซึ่งแม่งานใหญ่สายการบินนกแอร์ได้รวบรวมเงินบริจาคทั้งหมดที่ได้มอบให้โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งงานนี้เราได้ใช้เวลาวันหยุดเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมซึมซับบรรยากาศอบอวลน้ำใจ และวัฒนธรรมพื้นถิ่นของชาวขนอมด้วย   

    บรรยากาศพร้อมหน้าด้วยนักปั่นทั้งมืออาชีพและสมัครเล่นมากมาย  พร้อมใจกับออกสตาร์ทเส้นทางบุญตั้งแต่ช่วงเช้าเสพบรรยากาศชุมชนสงบสุข ตลาดเช้าของเมืองขนอม ข้ามสะพานคลองบางแพงชมวิวแม่น้ำและเรือประมงอันเป็นวิถีชิวของคนเมืองริมทะเลสวย  ก่อนปั่นเลยไปในเขตธรรมชาติของป่าเข้าสูดโอโซนยามเช้าให้เต็มปอดเลี้ยวเข้าอ่าวแขวงเภาอันเป็นเส้นทางเลียบชายทะเล จุดนี้นั่งพักมองวิวตรงหน้า ก็ฟื้นร่างกายให้มีแรงอีกเต็มร้อยพร้อมลุยกับเส้นทางขึ้นลง สลับทางเรียบและขึ้นเนินเขาเล็กน้อย  10 กิโลหลังเป็นช่วงท้าทายเพราะแสงแดดเริ่มแผดเผา หลายคนเสียเหงื่อมาจนเกือบถอดใจแต่ได้เพื่อนร่วมทางคอยช่วยกันให้กำลังใจ และปั่นเคียงข้างกันไปจนถึงจุดหมายเพราะไม่มีการแข่งขันเอาอันดับในเส้นทางการกุศลนี้  การช่วยเหลือใหกำลังใจกันให้ถึงจุดหมายที่หวังจึงเป็นภารกิจหลักมากกว่าเหรียญทองใดๆ    

      สุริยาภา บุนนาค ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายส่ื่อสารองค์กร บริษัท สายการบินนกแอร์จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  เป็นเวลากว่า 11 ปีแล้วที่สายการบินได้มีส่วนร่วมในการหารายได้สมทบทุนช่วยเหลือมูลนิธิเด็กโรคหัวใจฯ ผ่านโครงการ Nok Gives Life ในปีนี ้เราจึงต่อยอดโครงการโดยจัดกิจกรรมที่ประชาชนทุกคนจะได้มีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมช่วยเหลือเด็กๆ ได้มากขึ้น จึงเกิดเป็นกิจกรรม NOK AIR RIDE FOR LIFE ปั่น ด้วยใจ ให้ด้วยระยะทาง ซึ่งการปั่นจักรยานเป็นกิจกรรมที่กำลังได้รับความนิยมและยังเป็นกิจกรรมที่ดีต่อ สุขภาพ และที่สาคัญคือประชาชนสามารถแสดงพลังการกุศลครั้งยิ่งใหญ่และส่งต่อ ความช่วยเหลือไปยังเด็กๆ ได้มากขึ้น  โดยนับเงินบริจาคจากค่าสมัครลงทะเบียนนักปั่น 300 บาท ต่อท่าน   และวิธีการบริจาค โดยผ่านกับนักปั่นท่านใดก็ได้ ที่ทำการลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว และอาสาเป็นตัวแทนในการเชิญชวนและรวบรวมเงินบริจาคจากคนในชุมชนกลับมายังผู้จัดกิจกรรม ซึ่งต้องของขอบคุณนักปั่นผู้มีจิตอาสา และผู้ร่วมบริจาคทุกช่องทาง  ที่ช่วยกันทำให้ยอดเงินบริจาคในกิจกรรมปีนี้มีจำนวนสูงถึง 460,872 บาท สำหรับเงินดังกล่าวจะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ในการช่วยเหลือผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจ ที่ด้อยโอกาสต่อไป

      ฝั่งตัวแทนน้องๆ ผู้ป่วย  ฉันทนา ดาวราย รองประธานมูลนิธิเด็กโรคหัวใจฯ ที่มาร่วมให้กำลังใจนักปั่น เผยว่าทุกปีจะมีเด็กเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ประมาณ 7,000- 8,000 คน ในจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งอาจหายเองได้ ด้วยการรักษาทางยา และอีกครึ่งหนึ่งต้องได้รับการรักษาโดยการผ่าตัด ซึ่งต้องใช้งบประมาณในการรักษาจำนวนมาก รู้สึกมีความสุขที่ได้ภาพการรวมตัวช่วยเหลือเกื้อกูลกันในสังคมไทย ขอบคุณเหล่านักปั่นที่ช่วยกันให้โอกาสในการเปลี่ยนแปลงสภาพชีวิต ให้ความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น กับเด็กๆ ให้สามารถเข้าสังคมและสนุกสนานได้กับเด็กปกติในช่วงวัยเดียวกัน ที่สำคัญที่สุดคือการที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ 

       ส่วนเจ้าบ้านอย่าง ศิริพัฒ พัฒกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ก็ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในขบวนนักปั่นด้วย เผยว่าเสน่ห์ของเมืองขนอมคือความสงบ มีวิถีชีวิตภูมิปัญญาดั้งเดิมพร้อมธรรมชาติสวยงามให้ชื่นชมตลอด 2 ข้างทาง  และมีเส้นทางถนนเลียบหาดทรายสวยงามที่ในอนาคตจะมีการปรับถนนทำเป็นเส้นทางปั่นจักรยานริมทะเลโดยเฉพาะ  ปกติในพื้นที่ จ. นครศรีธรรมราช จะมีชมรมนักปั่นท้องถิ่นอยู่หลายชมรม ทั้งเพื่อสุขภาพ และปั่นทางไกล  วันนี้ทุกคนมารวมตัวกันปั่นเพื่อการกุศล พร้อมกับเพื่อนๆ นักปั่นจากจังหวัดใกล้เคียงและกรุงเทพมหานครแลกเปลี่ยนมิตรภาพกัน เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความรักความสามัคคี การช่วยเหลือเกื้อกูลให้เกิดขึ้นในบ้านเรา  

        ปิดท้ายที่ความรู้สึกของ "หมอล็อต" ภัทรพล มณีอ่อน สัตวแพทย์สัตว์ป่า ที่มาร่วมกิจกรรมปั่นจักรยานจบครบ 50 กิโลเมตร ยิ้มภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือน้องๆ โรคหัวใจในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่มองว่านักปั่นทุกคนเป็นเหมือนเส้นเลือดคอยส่งความแข็งแรงกลับเข้าสู่หัวใจน้องๆ ที่รอผ่าตัดทุกคน งานนี้ตัวเองได้บอกต่อกิจกรรมผ่านโซเชียลมีเดียและมีคนร่วมบริจาคเข้ามากว่า 8 หมื่นบาท เป็นเรื่องประทับใจที่และเป็นแรงผลักดันให้ตัวเองไม่ท้อถอยปั่นจบครบระยะทาง เพื่อนำเงินทั้งหมดให้กับมูลนิธิ นอกจากนี้ยังได้กลับมาชมบรรยากาศเก่าๆ เพราะตอนเด็กก็เคยอาศัยอยู่ จ.นครศรีธรรมราช รู้สึกผ่านมาหลายสิบปีทุกอย่างยังไม่เปลี่ยนแปลงมาก บ้านเรือนวิถีชีวิต 2 ข้างทาง วัวชนก็ยังมีให้เห็นกันอยู่ ทำให้ไม่เหนื่อยมากอย่างที่คิด เพราะมีความสุขที่ได้เห็นเรื่องราวระหว่างทาง ได้กำลังใจ มิตรภาพดีๆ จากเพื่อนนักปั่นที่ไม่ได้มาแข่งขัน แต่มาช่วยสนับสนุสช่วยเหลือกันให้ปั่นครบระยะทางในที่สุด  

         หลังจบกิจกรรมปั่นจักรยานการกุศล สายการบินนกแอร์ยังได้มอบความสุขส่งท้ายกิจกรรม ด้วยงาน คอนเสิร์ตขนอมเฟสติวัล 2016 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จและมอบความสนุกสนานแทนคำขอบคุณให้นักปั่นผู้มีจิตอาสาทุกท่าน