บอกความภูมิใจ นี่แหละ...ประเทศไทยของเรา

         วันนี้เราบอกรักและภูมิใจประเทศไทยกับคนรุ่นหลังผ่านทางช่องทางใดบ้าง  ถ้ายังไม่รู้จะบอกเล่าที่ไหนขอเชิญชวนมาร่วมบันทึกเรื่องราวดีๆ ต่อเมืองไทยของเราเอาไว้ในโครงการ “ภาคภูมิแผ่นดินไทย” เติมความภูมิใจให้เต็มชาติ ที่บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหาร สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด ร่วมกับ มูลนิธิเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติและองค์กรภาครัฐเอกชนอีกมายมาย ได้เชิญชวนคนไทยทั้งประเทศ ช่วยกันเก็บรวบรวมและบันทึกเรื่องราวอันล้ำค่าและดีงามที่น่าภาคภูมิใจของคนไทยไว้ในคลังสมบัติดิจิตอลมอบให้แก่คนรุ่นหลังตราบนานเท่านาน

          ภายในงานเปิดตัวโครงการ บริเวณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เริ่มต้นด้วยการเปิดตัววีทีอาร์เชิญชวนร่วมกิจกรรม ต่อด้วยแสดงประจำชาติอย่าง โขนพระราชทาน ตอน ราชรถพระราม จากนั้น หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี และ ประธานโครงการภาคภูมิแผ่นดินไทย กล่าวถึงจุดประสงค์การจัดงานว่า โครงการภาคภูมิแผ่นดินไทย มีวัตถุประสงค์ที่จะเชิญชวนให้คนไทยทุกคนช่วยกันสืบค้นเรื่องราวที่ดีงาม สิ่งที่เป็นสุดยอด ตลอดจนสิ่งที่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยจากทุกชุมชนทั่วประเทศและคนไทยที่อยู่ในต่างประเทศ เก็บรวบรวมให้ได้จำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ เพื่อจารึกไว้เป็นสมบัติอันล้ำค่าของชาติ ส่งต่อเรื่องราวอันเป็นความภาคภูมิใจของแผ่นดินไทยสู่ลูกหลาน และให้คงอยู่ตลอดไป จะเป็นเสมือนคลังข้อมูลที่เก็บรวบรวมเรื่องราวที่ดีงามของประเทศไทย ทั้งข้อมูลที่มีอยู่แล้วจากหน่วยงานต่างๆ และจากประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ช่วยส่งเสริมค่านิยมร่วมในความภูมิใจของความเป็นไทยให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งปลูกฝังความรัก หวงแหนในสิ่งล้ำค่าที่มีอยู่ทั่วผืนแผ่นดินไทย

 

 

           ในด้านความรู้สึกภูมิใจของ ร.ท.ดร.สุวิทย์ ยอดมณี รองประธานกรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ กล่าวว่า ประเทศไทยเรามีประวัติศาสตร์มายาวนาน มีความสำคัญกับทุกๆ คนเรารักษาเอกราชเอาไว้ได้ มีสถาบันชาติ ศาสนา พระมาหากษัตริย์ มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูาหัว ที่ทรงประเสิรฐเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่พสกนิกร ได้รับควาทนับถือจากผู้นำหลากหลายประเทศ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชน

         “ที่สำคัญคนไทยเป็นคนที่มีน้ำใจมากไม่ว่าจะเกิดภัยพิบัติที่ไหน ประเทศใด เราส่งความช่วยเหลือไปถึงกันตลอด คนไทยเราไม่รวยทรัพย์สิน แต่เรารวยน้ำใจมาก มีความเมตตามาก นอกจากนี้ยังมีศิลปะที่สวยงาม มีทรัพยากรเป็น 1 ใน 10 ของประเทศที่สามารถส่งออกอาหารได้ทั่วโลก และยังมีอาหารรสชาติเป็นเอกลักษณ์ อร่อยที่สุดในโลกด้วย เราจำเป็นต้องต่อยอดความภูมิใจเหล่านี้ ส่งต่อถึงคนรุ่นหลัง สร้างความรักชาติในด้านที่ถูกที่ควร ภูมิใจในชุมชน ในสังคมของตัวเอง และเป็นแรงบันดาลใจพัฒนาชุมชน บ้านเมือง ให้ดียิ่งขึ้นไปในอนาคต”ร.ท.ดร.สุวิทย์

 

          ด้าน กลินท์ สารสิน ผู้แทนคณะทำงานสานพลังประชารัฐด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวและไมซ์ กล่าวเสริมว่า โครงการนี้นับเป็นหนึ่งการประสานพลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนครั้งยิ่งใหญ่ ด้วยการบอกเล่าเรื่องราวที่มีคุณค่า (Storytelling) เกี่ยวกับสิ่งดีงามของประเทศโดยประชาชนคนไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว ผลิตผลทางการเกษตร อาหารไทย คนไทย หรือวัฒนธรรมประเพณี หรือความเป็นไทยที่งดงามที่ชาวต่างชาติรักและชื่นชมจัดทำในรูปแบบคลังข้อมูลขนาดใหญ่ โดยเรื่องราวเหล่านี้ จะเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญ ที่จะช่วยส่งเสริมภารกิจของการท่องเที่ยวในประเทศไทยได้โดยตรง การสร้างมูลค่าจากองค์ความรู้ในชุมชนให้เป็นที่รู้จัก เพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับสินค้าในชุมชนและบริการ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมและจับจ่าย และนำมาสู่การเพิ่มและกระจายรายให้กับชุมชนท้องถิ่นที่มากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการยกระดับการท่องเที่ยวไทยให้เกิดรายได้อย่างมีคุณภาพและยั่งยืน

           ปิดท้ายที่ ชฎาทิพ จูตระกูล รองประธานโครงการ “ภาคภูมิแผ่นดินไทย” และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้ริเริ่มโครงการฯ แนะนำช่องทางร่วมกิจกรรมโดยคนไทยทุกคนสามารถส่งรูปภาพหรือวิดีโอพร้อมคำบรรยาย บอกเล่าเรื่องราวอันดีงามและล้ำค่าบนแผ่นดินไทยที่เป็นความภาคภูมิใจของชาติซึ่งมีอยู่ทั่วแผ่นดินไทย มาได้ตามช่องทางดังนี้

1.)ส่งจดหมาย หรือไปรษณียบัตร คำบรรยายความยาวไม่เกิน 200 คำ พร้อมภาพถ่ายขนาด ไม่ต่ำกว่า 5 x 7 นิ้ว จ่าหน้าซองถึง “โครงการภาคภูมิแผ่นดินไทย” ตู้ ปณ.1 ปณส.คลองจั่น บางกะปิ กรุงเทพฯ 10240

2.) ทางเว็บไซต์โครงการที่ www.theprideofthailand.com

3.) ไลน์ แอคเคาน์ของโครงการ “ภาคภูมิแผ่นดินไทย”

4.) ผ่านทีมงานที่ลงพื้นที่ในจังหวัดต่างๆ ได้แก่ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และลูกเสือชาวบ้าน

5.) จุดรับเรื่องที่ให้การสนับสนุนโครงการฯ อาทิ ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขาทั่วประเทศ และโรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพลกซ์ ทุกสาขาทั่วประเทศ

           เรื่องราวที่ส่งเข้ามาจะเป็นการถ่ายทอดแง่มุม “ความเป็นไทยที่ประชาชนภูมิใจ” ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีงาม มีคุณค่า เป็นเรื่องจริงที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของคุณธรรม ความมีจริยธรรมและศีลธรรมอันดีงาม สร้างค่านิยมร่วมในความรัก ความสามัคคีของคนในชาติ โดยจะปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์ของโครงการ ซึ่งจัดแสดงในรูปแผนที่ประเทศไทยเพื่อสื่อให้เห็นถึงที่มาของเรื่องราวที่ส่งมาจากคนไทยทั่วทั้งประเทศ โดยแบ่งออกเป็น 9 หมวด ได้แก่ หมวดสถาบันพระมหากษัตริย์ , หมวดบุคคลสำคัญที่สร้างชื่อเสียง สร้างคุณประโยชน์ เพื่อประเทศชาติ , หมวดอาหารไทย , หมวดสถานที่และสถาปัตยกรรม สถานที่ที่มีความสำคัญด้านต่างๆ, หมวดศิลปะ ที่เป็นภูมิปัญญาของไทย ภูมิปัญญาพื้นบ้าน, หมวดงานฝีมือและหัตถกรรม, หมวดประเพณี วัฒนธรรม และวิถีชีวิต, หมวดภูมิปัญญา การศึกษา นวัตกรรม และ หมวดกีฬาและเบ็ดเตล็ด  

          สามารถส่งเรื่องราวประทับใจเข้ามาได้ทุกช่องทางดังกล่าว ตั้งแต่วันนี้ - 30 ก.ย. 2559 สำหรับรวบรวมข้อมูลในระยะแรก พร้อมขยายผลในการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจในด้านต่างๆ ต่อไป