Lifestyle

โรคมะเร็งปอดเสี่ยงเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ดูแลสุขภาพ : โรคมะเร็งปอดเสี่ยงเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ

               โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของคนทั่วโลก โรคมะเร็งที่พบ 5 อันดับแรกของโลก ได้แก่ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งต่อมลูกหมาก ในบรรดาผู้ป่วยใหม่ 12.7 ล้านคน พบมะเร็งปอด 1.6 ล้านคน ส่วนผู้เสียชีวิต 7.6 ล้านคน เป็นผู้ป่วยมะเร็งปอด 1.37 ล้านคน
               โรคมะเร็งปอดเป็นปัญหาสำคัญในอัตราผู้เสียชีวิต 1 ใน 5 อันดับแรกของประเทศ สถานการณ์ภาพรวมของอัตราการเกิดโรคมะเร็งในประเทศไทยคล้ายกับประชากรทั่วโลก กล่าวคือ จะพบอัตราการเกิดโรคสูงขึ้นทุกปี เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างที่เกี่ยวข้อง หนึ่งในนั้นคืออายุที่เพิ่มขึ้น ความเสี่ยงของโรคก็จะเพิ่มขึ้นด้วย และขณะนี้สังคมไทยก็กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) สาเหตุของโรคมะเร็งปอด โรคมะเร็งเกิดจากหลายๆ สาเหตุ สำหรับโรคมะเร็งปอดสาเหตุหลักสำคัญอันดับหนึ่งคือการสูบบุหรี่ หรือการได้รับควันบุหรี่จากผู้ใกล้ชิด (second hand smoker) อาการของโรคมะเร็งปอด ผู้ป่วยบางท่านที่ตรวจพบมะเร็งปอดในระยะเริ่มแรกมักจะไม่มีอาการ ส่วนใหญ่ตรวจพบโดยบังเอิญเมื่อมาตรวจเช็กสุขภาพ
               บางท่านอาจมีอาการไอเรื้อรัง หายใจลำบาก ไอมีเสมหะปนเลือด ปอดอุดตันอักเสบ น้ำหนักลดเบื่ออาหาร หรือเมื่อโรคมะเร็งลุกลามไปกระดูกอาจมีอาการปวดหลัง หรือปวดบริเวณตำแหน่งของกระดูกที่มะเร็งกระจายไป เมื่อลุกลามไปตับอาจมีอาการตัวเหลืองหรือดีซ่าน ถ้าลุกลามไปสมอง อาจมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน แขนขาอ่อนแรง เป็นต้น การตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปอด Early detection ปัจจุบันมีการตรวจคัดกรองโรคมะเร็ง ทำให้ตรวจพบโรคในระยะแรก ทำให้สามารถให้การรักษาที่เหมาะสมได้ทันท่วงที ผลการรักษาดีกว่าการปล่อยให้โรคเรื้อรังจนมีอาการของโรคมะเร็ง มีการกระจายไปยังอวัยวะสำคัญอื่นแล้ว
               จากการศึกษาในต่างประเทศในกลุ่มที่เสี่ยงต่อโรคมะเร็งปอด คือผู้ที่สูบบุหรี่ การตรวจด้วยเครื่อง CT scan (Low dose CT) สามารถตรวจพบโรคมะเร็งปอดในระยะแรกได้เพิ่มขึ้น สามารถให้การรักษาได้ทันท่วงที ทำให้ได้ผลการรักษาที่ดีขึ้น อัตราการรอดชีวิตเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ตรวจคัดกรองโรคมะเร็งด้วย x ray ปอดธรรมดา การรักษาในปัจจุบันโรคมะเร็งปอดเป็นโรคที่รักษาได้ เมื่อตรวจพบ ควรรีบปรึกษาแพทย์ ส่วนการรักษาโรคมะเร็งปอดนั้น ขึ้นกับระยะของโรค ชนิดเซลมะเร็งที่ตรวจพบ และสุขภาพความแข็งแรงของผู้ป่วย
               โรงพยาบาลวัฒโนสถ มีความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยโดยมีทีมแพทย์ สหสาขา (Tumor board, Tumor conference ) ทั้งทีมศัลยแพทย์โรคมะเร็ง, รังสีวินิจฉัย, รังสีรักษา, แพทย์นรีเวชโรคมะเร็ง, intervention radiologist, pain spacialist, แพทย์โภชนาการ, พยาบาลเฉพาะทาง และอีกมากมาย ร่วมกันวินิจฉัย วางแผนการรักษาผู้ป่วยอย่างครบองค์รวม เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุดแก่ผู้ป่วย เรามีเครื่อง PET/CT scan รุ่นใหม่ ช่วยในการวินิจฉัยโรคมะเร็ง เราใช้เครื่องฉายแสงแบบสี่มิติเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการรักษาสูงสุด ในขณะที่ผลข้างเคียงน้อยที่สุด
               ส่วนการรักษามะเร็งปอดชนิดเซลไม่เล็ก ในระยะเริ่มต้นจะรักษาด้วยการผ่าตัด ในระยะที่สูงขึ้นผ่าตัดไม่ได้ เราจะพิจารณาให้การฉายรังสีรักษาร่วมกับเคมีบำบัด ส่วนในระยะที่ตัวโรคกระจายไปอวัยวะสำคัญอื่นๆ แล้ว เราจะใช้ยาเคมีบำบัด หรือยามุ่งเป้า (targeted therapy) ที่จะได้กล่าวต่อไป Gene mutation ยีนผิดปกติ ในมะเร็งปอด ปัจจุบันเราพบว่าโรคมะเร็งปอดจำนวนหนึ่งโดยเฉพาะชนิดกลุ่มเซล non-squamous เกิดจากยีนผิดปกติในร่างกาย ที่เรียกว่ายีน EGFR หรือยีน ALK สามารถตรวจจากชิ้นเนื้องอกที่ปอด หรือจากตำแหน่งที่มะเร็งกระจายไป เช่น ที่ตับ ถ้าเอาชิ้นเนื้อไม่ได้ หรือได้ไม่พอ ยังสามารถตรวจจากเลือดได้ ถ้าพบยีนผิดปกติ ซึ่งในคนไทย คนเอเชีย ตรวจพบยีน EGFR ผิดปกติ ประมาณ 40-60%
               ณ ขณะนี้มียารักษามุ่งเป้าชนิดเม็ดรับประทาน ออกฤทธิ์ที่ยีนผิดปกตินี้โดยตรง พบการตอบสนองต่อยา (objective response rate) ถึง 50%-80% ผู้ป่วยไม่ต้องฉีดยาเคมี ผมไม่ร่วง ไม่คลื่นไส้ อาเจียนเท่ายาเคมีบำบัด บางท่านที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งปอดระยะสุดท้ายและตรวจพบยีนผิดปกติดังกล่าว ใช้ยามุ่งเป้าชนิดเม็ดมาแล้ว 4-5 ปี ขณะนี้ก็ยังได้ผลอยู่ นับเป็นการรักษาที่เปลี่ยนโฉมการรักษาโรคมะเร็งปอด เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ยาเคมีบำบัดในอดีต
               ส่วนในกลุ่มที่ตรวจไม่พบยีนกลายพันธุ์ เรายังคงใช้ยาเคมีบำบัด โชคดีที่ขณะนี้มียาป้องกันอาการคลื่นไส้อาเจียนใหม่ๆ ทำให้อาการคลื่นไส้อาเจียนอันเกิดจากยาเคมีบำบัดลดลงไปมาก และยังมียากระตุ้นเม็ดเลือดขาวไว้ให้ในรายที่มีภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ ทำให้เราสามารถลด หรือป้องกัน ผลข้างเคียงจากการใช้ยาเคมีบำบัดได้ดีกว่าอดีตที่ผ่านมา
               ปัจจุบันโรงพยาบาลวัฒโนสถได้ร่วมมือกับสถาบันรักษามะเร็งระดับโลก “The University of Texas MD Anderson Cancer Center” ในฐานะที่เป็น Sister Institute เพื่อที่จะร่วมกันพัฒนาการรักษาโรคมะเร็งในประเทศไทยให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป ท้ายนี้ขอฝากสิ่งสำคัญในการป้องกันโรคมะเร็งคือการงดสูบบุหรี่และงดดื่มสุราเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งปอดทั้งสิ้น

นพ.ฉัตรชัย คูวัธนไพศาล

แพทย์อายุรกรรมมะเร็ง

โรงพยาบาลวัฒโนสถ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ