เปิดร้านขวางหน้าคลินิก

               ผมนายบลู ได้รับความเดือดร้อน โดยเข้าบ้านไม่ได้ ปล่อยร้านให้เช่าไม่ได้ มีนักเลงคุมหน้าบ้าน จนถูกธนาคารยึด ผมเป็นทันตแพทย์ทั่วไปเรียนไม่เก่งเป็นเด็กหลังห้อง ซ้ำชั้น 1 ปี โชคดีมีเพื่อนเก่งเป็นอาจารย์ทันตแพทย์ 2 คน ได้ไปเรียนต่อทั้งในและต่างประเทศจนจบแล้วลาออกมาเปิดกิจการใน จ.ภูเก็ต ต่อมาอาจารย์ทันตแพทย์ทั้งสองคนได้ชวนผมเปิดกิจการขนาดใหญ่ ทำเลดีใกล้ชาดหาดกะรน จ.ภูเก็ต

               เมื่อได้ร่วมตกลงร่วมหุ้นต้นปี 2551 ผมซึ่งเป็นหมอทั่วไป มีรายได้น้อย แต่อาจารย์ทันตแพทย์เพิ่งกู้ซื้อบ้านหรูไปก่อนหน้าการร่วมหุ้น เพียง 2 เดือน ทำให้วงเงินกู้เต็ม 10 ล้านบาท จึงทำเอกสารรับรองเงินเดือนจากคลินิกของอาจารย์ให้กู้เงินซื้ออาคารพาณิชย์ในชื่อของผมหลังหนึ่งและในชื่อของอาจารย์อีกหลังหนึ่ง พร้อมให้ใช้เอกสารเดียวกันนี้ให้ผมกู้เงินลงทุนเพิ่มเพื่อลงทุนในห้างหุ้นส่วน
               ผมจึงขอเจรจาแต่ถูกอาจารย์ทันตแพทย์ทั้งสองใช้เส้นสายเพื่อบังคับให้ผมขายกิจการในทันที เมื่อผมร้องขอให้นำอาคารออกเช่าเพื่อหารายได้มาลดการขาดทุน อาจารย์ทันตแพทย์ทั้งสองกลับไม่ยอม กลับให้น้องชายของอาจารย์ทันตแพทย์มาเปิดกิจการร้านสักตัวบดบังหน้าร้านทันตกรรมของผมตรงบริเวณที่ติดกับชายหาดกะรน

               ผมติดต่อไปยังเทศบาลตำบลกะรนเพื่อให้ร้านค้าของทันตแพทย์ทั้งสองรายนี้ออกไปจากหน้าร้านของผม แต่เทศบาลก็ยังไม่ดำเนินการใดๆ ให้ ผมจึงอยากรบกวนลุงแจ่มช่วยผมด้วย ผมเดือดร้อนจริงๆ เพราะร้านสักตัวแห่งนี้บดบังหน้าร้านทันตกรรมของผม ซึ่งทำให้ผมขาดรายได้ เพราะผมยังต้องผ่อนอาคารพาณิชย์แห่งนี้อยู่ ถ้าผู้คนไม่เห็นป้ายร้านก็ไม่มีใครเข้ามาทำฟัน ผมก็ขาดรายได้ แล้วผมจะทำอย่างไร อยากให้ช่วยดำเนินการร้านต่างๆ ที่มาบดบังหน้าร้านของผมด้วย

นายบลู

ตอบ
               นายธีรโชติ ไชยสิน ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลตำบลกะรน จ.ภูเก็ต ชี้แจงว่า เรื่องนี้เทศบาลยังไม่เคยได้รับเรื่องร้องเรียนแต่อย่างใดเลย แต่ตอนนี้ทราบข่าวแล้วจะเข้าไปตรวจสอบดูให้ก่อนว่าร้านแห่งนี้ได้บดบังจริงหรือไม่ ถ้าพบเห็นว่าบดบังจริงและขวางทางการจราจรครั้งแรกก็จะดำเนินการตักเตือนก่อนโดยให้จัดระเบียบให้เรียบร้อย
               และถ้าเจ้าหน้าที่เทศกิจตักเตือนแล้วแต่ยังไม่ทำตามก็จะดำเนินการเปรียบเทียบปรับเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 2,000 บาท โดยครั้งแรกจะเข้าไปเจรจาไปจัดระเบียบทางเท้า เพราะบางที่ก็ล้ำออกมาจริงๆ แต่เพราะเจ้าหน้าที่ไม่เห็นอาจดูไม่ทันเพราะมีร้านค้าหลายที่

               เพราะตรงบริเวณทางเท้านั้นจะมีร้านหมอนวดแผนโบราณแบบนำเก้าอี้มาตั้ง 3-4 โต๊ะ โดยบริการนวดชาวต่างชาติ ซึ่งจริงๆ ก็มีความผิดเหมือนกัน และร้านสักตัวที่ผู้ร้องเรียนบอกนั้นเป็นธุรกิจส่วนตัวหรือเปล่า ได้ตั้งป้ายบนทางเท้าหรือไม่ เกะกะบนฟุตบาทหรือเปล่า ถ้าพบเห็นว่ารุกล้ำเจ้าหน้าที่เทศกิจก็จะสั่งให้รื้อย้ายออก แต่ถ้าร้านต่างๆ ไม่รื้อย้ายด้วยตัวเอง เจ้าหน้าที่เทศกิจจะรื้อย้ายออกให้เอง และให้ไปเสียค่าปรับที่เทศบาล