หมดลมหายใจเพราะสูดแต่“กลิ่นขี้ไก่”

               หมู่บ้านศิลารมย์ ฮิลไซด์ ศรีราชา หมู่ 5 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ถึง ลุงแจ่ม (คม ชัด ลึก) มีเรื่องอยากรบกวน คือว่า กลิ่นเหม็นขี้ไก่จากฟาร์มข้างๆ ส่งกลิ่นรบกวนโดยตั้งอยู่ที่หมู่ 5 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ข้างบ้านเป็นฟาร์มไก่ กลิ่นเหม็นส่งกลิ่นรบกวนชาวบ้าน ได้รับความเดือดร้อนจากกลิ่นเหม็นของขี้ไก่เป็นอย่างมาก
               เนื่องจากโรงเลี้ยงฟาร์มไก่ ข้างหมู่บ้านศิลารมย์ ฮิลไซด์ หมู่ 5 เขต ต.สุรศักดิ์ (ฟาร์มไก่นี้ไม่ปรากฏชื่อหน้าฟาร์ม) ได้สร้างความเดือดร้อนในการใช้ชีวิตประจำวัน โดยมีกลิ่นรบกวนตลอด 24 ชั่วโมงเลยก็ว่าได้ ร้องทุกข์ไปทางเทศบาลตำบลสุรศักดิ์ โดยกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ได้รับเรื่องไว้หลายครั้งแต่เรื่องก็ยังเงียบ ไม่มีการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น และฟาร์มไก่แห่งนี้ก็ยังคงส่งกลิ่นขี้ไก่ออกมาเรื่อยๆ และมีแมลงวันเริ่มจะมาก่อกวนแล้ว
               ทางครอบครัวได้รับความเดือดร้อนจริงๆ รวมถึงคนในซอย 7 หมู่บ้านศิลารมย์ ฮิลไซด์ ศรีราชา มีความเดือดร้อนจริงๆ โดยเฉพาะบ้านดิฉันอยู่สุดซอย ซึ่งอยู่ติดกับฟาร์มไก่ตรงท้ายฟาร์มพอดี ไม่รู้จะไปร้องเรียนที่ไหนกับใครแล้วจริงๆ (ขี้ไก่เหม็นโชย สุดซอยโดยเฉพาะบ้านดิฉันจะเหม็นกลิ่นขี้ไก่มากๆ) ระยะเวลาหนึ่งที่ทนกับกลิ่น เหม็นขี้ไก่ เหม็นขึ้นจมูก ภูมิแพ้ได้กำเริบ ปวดหัว นอนไม่หลับ หายใจเข้าไปมีแต่กลิ่นขี้ไก่ แสบจมูก ต้องปิดหน้าต่างประตู อยู่แต่ในบ้าน ซึ่งอากาศไม่ถ่ายเท กลิ่นขี้ไก่เหม็นรุนแรง ในซอย 7 แทบทุกหลังต้องปิดบ้าน เปิดประตูหน้าต่างแทบเปิดไม่ได้เลย
               มลพิษทางอากาศ ระบบหายใจ สุขภาพจิต เสียหมด เพราะเกิดจากกลิ่นขี้ไก่จากฟาร์มส่งผลเสียกับการใช้ชีวิต ส่งผลกระทบกับสุขภาพมากจริงๆ ที่ผ่านมารอการแก้ไข พึ่งพาหน่วยงานจากพื้นที่ให้เข้ามาช่วยเหลือ แต่กลับไม่เป็นผล ไม่ได้ดำเนินการใดๆ หรือมีใครลงพื้นที่มาดูแลเลย ว่าชาวบ้านต้องทนอยู่กับกลิ่นเหม็นรบกวนจากกลิ่นขี้ไก่จากโรงเลี้ยงไก่จากฟาร์มแห่งนี้ ราวกับว่าไม่มีเรื่องร้องเรียนใดๆ เกิดขึ้น ความเดือดร้อนนี้หมู่บ้านที่อยู่ติดกับฟาร์มไก่นี้จะได้ไม่ต้องทนกับกลิ่นเหม็นขี้ไก่ตลอดเวลา ทุกข์หนักมากจริงๆ กับฟาร์มไก่ที่ส่งกลิ่นเหม็นทุกวัน
               บ้านที่เป็นบ้านที่อยู่อาศัย จะน่าอยู่ก็ต่อเมื่อฟาร์มไก่หยุดปล่อยกลิ่นขี้ไก่ออกมารบกวนชาวบ้าน สิ่งแวดล้อมที่เป็นอยู่ ดิฉันหวังว่าคงจะได้รับการแก้ไขในเร็ววัน ให้ใครลงพื้นที่มาสอบถามชาวบ้านก็ได้ ไม่ใช่เรื่องกลั่นแกล้ง แต่เป็นแบบนี้จริงๆ ลงมาพิสูจน์กลิ่นกันดู ก็ได้ว่าความเหม็นระดับไหน เกินกว่าที่สมองของมนุษย์เราสั่งการรับรู้กลิ่นและการที่ต้องทนอยู่กับกลิ่นเหม็นขี้ไก่นี้นาน ส่งผลเสียมากกว่าผลดีต่อคุณภาพชีวิตของทุกคนในซอยแน่ๆ รวมไปถึงคนสูงอายุ และเด็ก ในซอย 7 เหมือนซอยร้าง ทุกคนปิดบ้านเพราะทนกลิ่นไม่ไหว
               คนในซอย 7 เดือดร้อนมากจริงๆ จนไม่รู้จะอธิบายแบบไหน ไปร้องเรียนก็เหมือนเสียงนกเสียงกา หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้รับการช่วยเหลือและมีการดำเนินการแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน ขอร้อง ขอวิงวอน ขอความเห็นใจด้วย แว่วๆ ว่า (เจ้าของฟาร์มกินเตี๋ยว เส้นใหญ่มาก) ร้องเรียนไปที่ไหน ก็เงียบกริบจนถึงตอนนี้ น่าเศร้าใจ ที่คนจนต้องทนดมกลิ่นขี้ไก่เหม็นสาบนับพันๆ ตัวที่ฟาร์มปล่อยออกมา ผลกระทบชีวิตชัดเจน อากาศดีๆ ไม่มีให้หายใจจริงๆ เดือดร้อนหนักมาก

สุวิภา

ตอบ
               น.ส.เตือนใจ สิทธิเวช หัวหน้าฝ่ายสุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อม เทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ จ.ชลบุรี ชี้แจงว่า ฟาร์มเลี้ยงไก่แห่งนี้ทางฝ่ายได้เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วว่าเกิดจากฟาร์มของใคร ซึ่งฟาร์มนี้มีชื่อเจ้าของฟาร์มประกอบกิจการด้วย โดยได้ขอใบอนุญาตจากเทศบาลอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง
               เรื่องนี้ทางเทศบาลก็ได้รับเรื่องร้องเรียนมาเหมือนกัน ได้สั่งให้ฟาร์มเลี้ยงไก่แห่งนี้เช็กระบบว่าเกิดจากสาเหตุอะไรที่ทำให้กลิ่นออกมานอกฟาร์มได้ เพราะเท่าที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร แต่ถ้าฟาร์มไก่แห่งนี้ทำให้ชาวบ้านเกิดความเดือดร้อนรำคาญก็จะให้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงในเวลาที่กำหนด
               ซึ่งก็ต้องดูสภาพความเป็นจริงด้วย ทางเทศบาลจะกำหนดเวลาโดยไม่ให้น้อยกว่า 7 วัน ให้ดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ซึ่งเทศบาลก็เคยได้เข้าไปตรวจฟาร์มไก่แห่งนี้แล้วแต่ก็ไม่ได้กลิ่นอะไรเลย แต่ก็ให้ทางฟาร์มทำการเช็กระบบให้เรียบร้อย แล้วทางฝ่ายสุขาภิบาลและอนามัยจะเร่งติดตามดูว่าแก้ไขอะไรบ้าง
               ถ้าทางฟาร์มไก่ยังไม่ดำเนินการแก้ไขปรับปรุง ทางฝ่ายฯ ก็จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น หน่วยงานปศุสัตว์ เข้าไปตรวจสอบด้วยว่ากลิ่นที่ฟาร์มไก่นั้นเกิดจากสาเหตุอะไร ถ้าแก้ไขไม่ได้จริงๆ ก็ต้องให้ฟาร์มไก่ปิดกิจการไป แต่ก็ต้องให้โอกาสฟาร์มไก่ดำเนินการแก้ไขก่อน โดยเจ้าของฟาร์มต้องเข้ามาแก้ไข เพราะถ้าเกิดปัญหาขึ้นหรือมีเรื่องร้องเรียนขึ้นอีก ก็จะมีคำสั่งออกไปโดยมีกฎหมายบังคับใช้ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข จะใช้อำนาจตัวนี้ไปบังคับให้แก้ไข ถ้าไม่แก้ไขก็จะมีผลลงโทษตามกฎหมาย โดยจะดำเนินการส่งฟ้องดำเนินคดี ก็ต้องทำไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ทั้งนี้ เทศบาลก็ต้องป้องกันหน่วยงานรัฐเหมือนกัน เพราะอาจโดนเจ้าของฟาร์มไก่ฟ้องกลับได้เหมือนกัน ซึ่งก็ต้องเป็นไปตามระบบกฎหมาย ถ้ามีเรื่องร้องเรียนเกิดขึ้นต้องเปิดโอกาสให้เจ้าของฟาร์มแก้ไขปรับปรุง ถ้าไม่ได้ก็ต้องมีคำสั่งออกไป