Lifestyle

เมื่อท้อง..ต้องแพ้ด้วยหรือ?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ดูแลสุขภาพ : เมื่อท้อง..ต้องแพ้ด้วยหรือ?

               แพ้ท้องหรือไม่? แพ้มากไหม? อาเจียนหนักหรือเปล่า รับประทานอาหารได้บ้างไหม? อยากรับประทานอะไรเป็นพิเศษหรือไม่?
               คำถามที่สตรีเริ่มตั้งครรภ์มักได้ยินบ่อยๆ จากบุคคลรอบข้าง และมักทำให้ว่าที่คุณแม่ แอบเก็บมาถามตัวเองด้วยว่า...ฉันต้องแพ้ และอาเจียนด้วยหรือ?

๐ เหตุใด จึงมีอาการแพ้ท้อง
               อาการแพ้ท้องของสตรีที่เริ่มตั้งครรภ์ ยังไม่สามารถสรุปที่มาได้อย่างชัดเจน ซึ่งอาการแพ้ท้องเป็นลักษณะอาการจากความรู้สึก คาดว่าอาจเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกาย ฮอร์โมนในการตั้งครรภ์ และสภาวะด้านจิตใจของคุณแม่ที่มีความวิตกกังวล ความเครียด ความรู้สึกต่างๆ เหล่านี้สามารถส่งผลให้เกิดอาการแพ้ท้อง บางรายที่มีความวิตกกังวลมากมักมีอาการแพ้ท้องมากขึ้น
               ในทางกลับกัน ถ้าตั้งครรภ์แล้วไม่แพ้ ย่อมเป็นสิ่งที่ดีและไม่ได้มีความผิดปกติ อีกทั้งยังอาจมีผลมาจากจิตใจที่มั่นคง ไม่วิตกกังวลหรือมีความเครียดของคุณแม่เองด้วย จึงไม่เกิดการแพ้

๐ ลักษณะการแพ้ท้องที่พบบ่อย
               - มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ
               - เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ง่วงนอนตลอดเวลา
               - ไม่อยากอาหาร รู้สึกขมในปาก
               - รู้สึกไวต่อกลิ่น เหม็นบางสิ่ง หรือรู้สึกหอมกับบางสิ่งได้ไว

๐ อาการแพ้ท้องเช่นไร จึงเรียกว่าแพ้มาก หรือควรต้องพบแพทย์
               การดูแลอาการแพ้ท้อง สามารถทำได้หลายแบบขึ้นอยู่กับระดับการแพ้

๐ กรณีที่แพ้ไม่มาก
               สามารถดูแลได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทาน โดยรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย ไม่รับประทานอาหารที่มีไขมันสูง เลี่ยงของทอด ของมัน ของที่มีกลิ่นแรงๆ เน้นอาหารที่มีคุณค่าโภชนาการครบ 5 หมู่ แบ่งการรับประทานอาหารเป็นมื้อย่อย และรับประทานในปริมาณครั้งละน้อยๆ จำนวนมื้อที่บ่อยขึ้น เพื่อให้ร่างกายได้รับอาหารอย่างพอเพียง สามารถจิบน้ำขิงอุ่นๆ หรือน้ำผลไม้คั้นสดร่วมด้วย

๐ คุณแม่ที่แพ้ท้อง จะทราบได้อย่างไรว่าแพ้มาก…
               - กรณีที่แพ้มาก
               ก่อนอื่นต้องบอกว่าระดับการแพ้ท้องไม่มีเกณฑ์วัดที่ชัดเจน เป็นการพิจารณาจากอาการและสภาพร่างกายของคุณแม่เป็นหลัก ซึ่งแต่ละท่านจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน ซึ่งสูตินรีแพทย์จะเป็นผู้ประเมินอาการ โดยส่วนใหญ่กรณีที่มีอาการแพ้ท้องมากจนกระทั่งไม่สามารถรับประทานอาหารได้ อาเจียนตลอดเวลา เพียงเท่านี้ ก็เป็นสัญญาณที่จะบอกได้ว่าคุณพ่อควรพาคุณแม่ไปพบสูตินรีแพทย์ที่ฝากครรภ์ได้แล้ว
               ในเบื้องต้นคุณแม่ที่ค่อนข้างแพ้ท้องอาจได้รับยาแก้แพ้ช่วยบรรเทาอาการอาเจียน ยาช่วยย่อย ยาขับลม แต่สำหรับกรณีที่มีอาการแพ้ท้องรุนแรงอาเจียนมาก รับประทานอาหารไม่ได้ ร่างกายจะขาดอาหาร อ่อนเพลีย พักผ่อนได้น้อย ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่ คุณแม่จึงอาจต้องนอนพักเพื่อให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาลเป็นการป้องกันภาวะร่างกายขาดน้ำ และเพื่อตรวจพิจารณาการแพ้ท้องที่เป็นมากเพิ่มเติมอย่างละเอียด

๐ “รู้สึกมีความสุขกับการตั้งครรภ์ แต่ต้องทรมานจากการแพ้ท้องอีกนานเท่าไหร่”
               - 3 เดือน หรือตลอดการตั้งครรภ์
               การตั้งครรภ์ เป็นสิ่งที่แสนวิเศษ แต่การแพ้ท้องก็เป็นเรื่องทรมานที่แทรกเข้ามาในเวลาเดียวกันสำหรับคุณแม่บางท่าน การแพ้ท้องโดยส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในช่วง 3 เดือนแรก หรือไตรมาสที่ 1 ของการตั้งครรภ์ และการแพ้จะลดลงหรือหมดไปสำหรับบางท่าน แต่ในบางรายอาจมีอาการแพ้ไปจนถึงวันคลอด

๐ จิตใจสบาย เชื่อมต่อการแพ้
               ในเรื่องของการแพ้ท้องสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์อาจกล่าวได้ว่าเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้เป็นปกติ ดังนั้นสิ่งที่ควรให้ความสนใจจึงไม่ใช่พุ่งเป้าไปว่า ท้องแล้วจะแพ้หรือไม่ แต่ควรทำจิตใจให้สบาย ไม่คิดกังวล หรือเครียดกับเรื่องของลูกน้อยในครรภ์ และเรื่องชีวิตประจำวันในด้านต่างๆ เพราะคาดว่าจิตใจมีส่วนสำคัญประการหนึ่งที่เชื่อมโยงกับการแพ้ท้อง
               ดังนั้น การเริ่มต้นตั้งครรภ์ที่ดี คุณแม่ควรให้ความสนใจการฝากครรภ์ทันทีเมื่อทราบว่าตั้งครรภ์ ให้ความสำคัญกับโภชนาการอาหารที่จะรับประทานในแต่ละวัน ดื่มน้ำเปล่าบ่อยๆ อย่างเพียงพอ ไม่ปล่อยให้ท้องว่าง เพราะจะรู้สึกคลื่นไส้ อาเจียนได้ง่าย นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอเพื่อสุขภาพที่ดีของคุณแม่และคุณลูกในครรภ์
               หากคุณแม่ท่านใดต้องเผชิญกับอาการแพ้ท้อง ขอให้มองในมุมบวกว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ คุณแม่หลายๆ ท่านก็ต้องเผชิญอาการเหล่านี้ ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หรือไปพบแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการแพ้ที่มากผิดปกติ เพียงเท่านี้ การตั้งครรภ์ของคุณก็จะเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของสองสายใยที่ผูกพันรวมกันเป็นหนึ่งเดียวในทุกๆ วัน

นพ.สุระ โฉมแฉล้ม สูตินรีแพทย์

ศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน

โทร.0-2271-7000

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ