Lifestyle

ไวรัส RSV ทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ดูแลสุขภาพ : ไวรัส RSV เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ

               ช่วงฤดูฝนนี้เป็นช่วงที่เด็กๆ มักจะป่วยบ่อย เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงและมักจะรับเชื้อโรคได้ง่าย โดยเฉพาะไวรัส RSV ที่มีอาการคล้ายไข้หวัดแต่ส่งผลรุนแรง ถึงขั้นปอดอักเสบติดเชื้อได้
               RSV หรือชื่อเต็มๆ ว่า Respiratory Syncytial Virus เป็นเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะในเด็กเล็ก เชื้อไวรัสนี้สามารถทำให้เกิดภาวะปอดอักเสบได้

ไวรัส RSV ทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ                เนื่องจากมักเกิดพยาธิสภาพในส่วนของหลอดลมเล็ก และถุงลม ทำให้มีการสร้างสิ่งคัดหลั่ง เช่น เสมหะ ออกมาในปริมาณมาก และมีการหดตัวของหลอดลมเนื่องจากการบวมของเยื่อบุหลอดลมและทางเดินหายใจต่างๆ ส่งผลให้เด็กมีอาการหอบ เหนื่อย และหายใจลำบากได้อย่างรวดเร็ว เชื้อนี้ติดต่อกันได้โดยการสัมผัสใกล้ชิดกับสิ่งคัดหลั่งต่างๆ ของผู้ป่วย เช่น น้ำมูก น้ำลาย เสมหะ
               อาการของโรคติดเชื้อไวรัส RSV บางอย่างอาจคล้ายกับอาการไข้หวัดธรรมดา เช่น ไข้ต่ำๆ ไอ จาม น้ำมูกเหนียวปริมาณมาก แต่ก็มีอาการที่คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตและสงสัยว่าลูกอาจได้รับเชื้อไวรัส RSV เช่น
               - หอบเหนื่อย
               - หายใจเร็ว หายใจแรง
               - หายใจครืดคราด
               - ตัวเขียว
               - มีเสียงหวีดในปอด (จากการที่เยื่อบุทางเดินหายใจบวมอักเสบและหลอดลมหดตัว)
               - มีเสมหะมาก
               - ไอโขลกๆ

ไวรัส RSV ทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ

               ในเด็กเล็กที่อ่อนแอมาก เช่น เด็กทารกที่คลอดก่อนกำหนด เด็กที่มีโรคหัวใจ โรคปอด และหอบหืดอยู่แล้ว อาจมีอาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว โดยอาจมีอาการหยุดหายใจเป็นช่วงๆ หรือหายใจล้มเหลว จนต้องนำเข้าหอพยาบาลผู้ป่วยวิกฤติ (ICU) และอาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจด้วย ในปัจจุบันยังไม่มียารักษาโรคนี้โดยเฉพาะ
               โดยทั่วไปการรักษาจะเป็นไปตามอาการที่ป่วย เช่น ให้ยาแก้ไอละลายเสมหะ ยาขยายหลอดลม ยาลดไข้ หรือพ่นยา ซึ่งก็ช่วยให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นได้ ในผู้ป่วยที่มีอาการเหนื่อย หายใจไม่ค่อยดี และเริ่มมีออกซิเจนในเลือดต่ำลง การรักษาจะเป็นในรูปแบบประคับประคอง เช่น ให้สารน้ำทางหลอดเลือด ให้ยาพ่นขยายหลอดลม เคาะปอด ดูดเสมหะ รวมถึงให้ออกซิเจน ส่วนในรายที่มีอาการหนักมาก อาจต้องใส่ท่อช่วยหายใจและใช้เครื่องช่วยหายใจ โดยให้การดูแลในหอพยาบาลผู้ป่วยวิกฤติจนกว่าอาการจะดีขึ้น
               ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่มีอาการหนักอาจมีการติดเชื้อแทรกซ้อนด้วยไวรัสชนิดอื่นๆ เช่น เชื้อไข้หวัดใหญ่ เชื้อมัยโคพลาสมา หรือเชื้อแบคทีเรียอื่นๆ ร่วมด้วย ซึ่งแพทย์จะพิจารณาให้การรักษาที่ครอบคลุมการติดเชื้อเหล่านี้ตามความเหมาะสม

๐ การป้องกันการติดเชื้อ RSV
               - เด็กๆ ควรล้างมือบ่อยๆ หลังจากทำกิจกรรม หรือก่อนและหลังรับประทานอาหาร
               - งดไปในสถานที่แออัด เช่น โรงเรียน สถานเลี้ยงเด็ก ห้างสรรพสินค้า
               - ทำความสะอาดของเล่นอย่างสม่ำเสมอ
               - ผู้ป่วยควรปิดปากหรือใส่หน้ากากอนามัยเวลาไอจามเพื่อป้องกันการติดเชื้อ หรือเมื่อต้องไปอยู่ในสถานที่ที่มีคนแออัด
               นอกเหนือจากนี้ คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกป่วยควรแยกเด็กออกจากเด็กปกติเพื่อป้องกันการไอจามแพร่เชื้อให้แก่ผู้คนที่อยู่รอบข้าง ถ้าลูกเริ่มเข้าโรงเรียน คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกหยุดเรียนอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์จนกว่าจะหายเป็นปกติ

ไวรัส RSV ทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ

พญ.อุรารมย์ พันธุมะผล

กุมารแพทย์ทารกแรกเกิดและปริกำเนิด

รพ.พญาไท 1

--------------

โปรแกรมตรวจสมรรถภาพ
               สถาบันเวชศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกายกรุงเทพ (BASEM) โรงพยาบาลกรุงเทพ ขอเชิญชวนคนรักสุขภาพและนักกีฬาทุกท่าน มาตรวจเช็กความฟิตของร่างกาย เพื่อวิเคราะห์ความทนทาน ความยืดหยุ่น ความแข็งแรงของหัวใจ ปอด และกล้ามเนื้อมัดต่างๆ อย่างละเอียด ด้วย “แพคเกจตรวจสมรรถภาพความฟิตของร่างกาย Fit for Play” อาทิ โปรแกรมตรวจสมรรถภาพความฟิตของร่างกายสำหรับบุคคลทั่วไป ผู้สูงอายุ และผู้ที่ออกกำลังเป็นประจำ (Fit for Play Program) ราคา 4,200บาท, โปรแกรมตรวจร่างกายสำหรับนักกีฬา (Fit for Performance Program) ราคา 9,800 บาท เพื่อเติมเต็มศักยภาพร่างกายให้มีประสิทธิภาพสูงสุดตลอดเกมส์การแข่งขัน ประกอบด้วย การตรวจระบบกล้ามเนื้อกระดูกและข้อ การวิเคราะห์มวลเนื้อเยื่อ และกล้ามเนื้อของร่างกาย ตรวจการทำงานของหัวใจ ตับ ไต ตรวจวัดความสามารถในการทรงตัว และการวัดความสามารถในการใช้ออกซิเจนเพื่อสร้างพลังงาน โดยแพทย์เวชศาสตร์การกีฬา มาร่วมกันเช็กความฟิตได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2559 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ Contact Center โทร. 1719 หรือ www.bangkokhospital.com

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ