Lifestyle

สายตรวจระวังภัย23ก.ค.59

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตร.เมืองลำปาง ตามจับแก๊งขโมยนมผงห้างดังภาคเหนือ : โดย นพพร ทาทาน

               ในห้วง 2 ปีที่ผ่านมา ห้างสรรพสินค้าดังๆ ทางภาคเหนือ ได้ถูกขโมยนมผงสำหรับเลี้ยงเด็กทารกชนิดกระป๋อง ที่มีราคาแพงไปเป็นจำนวนมาก สร้างความเดือดร้อนเสียหายให้แก่ห้างสรรพสินค้าต่างๆ เป็นอย่างมาก แม้ทางห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าต่างๆ จะเข้าแจ้งความไว้แล้วในแต่ละท้องที่ แต่ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา หลักฐานไม่ชัดเจนว่าเป็นใคร กลุ่มไหน เนื่องจากแก๊งนี้ทำเป็นขบวนการมีการวางแผนการทำงานอย่างชัดเจน มีการแบ่งการทำงาน มีคนดูต้นทาง คนที่ขโมยก็ขโมยไป ส่วนที่เหลือคอยสังเกตมุมกล้องวงจรปิด แล้วใช้ตัวหรือสิ่งของอื่นบังมุมกล้อง เพื่อไม่ให้กล้องจับภาพตอนขโมยได้ และทุกครั้งที่ลงมือก็ประสบความสำเร็จทุกครั้ง
               เมื่อทำสำเร็จทุกครั้งก็เกิดความย่ามใจ ลงมือบ่อยขึ้น จากพื้นที่จ.พิษณุโลก ก็ขยายเขตไปยังพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ จ.แพร่ จ.เชียงใหม่ จ.ลำพูน และ จ.ลำปาง จากนั้นก็วนกลับไปขโมยที่เดิมวนกันอย่างนั้น สร้างรายได้ให้แก๊งนี้มากมาย นั่นก็เท่ากับว่าสร้างความเสียให้ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าอย่างมากมายเช่นกัน

สายตรวจระวังภัย23ก.ค.59                จนกระทั่่งเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แก๊งขโมยนมผงได้หวนกลับมาทำงานในพื้นที่ จ.ลำปาง อีกครั้ง เป้าหมายคือห้างลานทองพลาซ่าซูเปอร์มาร์เก็ต ต.สบตุ๋ย อ.เมือง มูลค่าความเสียหาย 3,290 บาท และร้านเบตงมินิมาร์ท ต.หัวเวียง อ.เมือง มูลค่าเสียหาย 5,000 บาท โดยมีรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 5 กจ 2654 กรุงเทพมหานคร ถูกใช้เป็นยานพาหนะในการขนนมผงที่ขโมยได้และใช้หลบหนีถูกตระเตรียมไว้เป็นอย่างดี แต่คราวนี้ปรากฏว่ากล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายขณะขโมยนมผงได้อย่างชัดเจนทั้งหมด จึงนำหลักฐานจากกล้องวงจรปิดส่งให้ พ.ต.อ.นิคม เครือนพรัตน์ ผกก.สภ.เมืองลำปาง ทันที
               ขณะที่ พ.ต.อ.นิคม เมื่อได้รับหลักฐานการกระทำความผิดที่ชัดเจน จึงสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนตามล่าบุคคลทั้งสี่ และสืบหาผู้ที่ครอบครองเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าวทันที จนกระทั่งทราบว่า ผู้ที่ครอบครองรถยนต์คือนายนายฤชุพัฒน์ ผลบุญ อายุ 26 ปี ชาว จ.นนทบุรี จึงได้ขอหมายจับและเดินทางไปจับกุมตัวนายฤชุพัฒน์ทันที
               นายฤชุพัฒน์สารภาพว่า ได้กระทำความผิดจริง โดยร่วมกับนายทวีศักดิ์ หรือหนู มาสุทธิ์ นายวินัย หรือเขียว สมบัติวงษ์ ขโมยนมผงเลี้ยงเด็กยี่ห้อที่มีราคาแพงๆ โดยมีนายศศิผล หรือโก๊ะ ภู่เอม เป็นผู้ว่าจ้าง ได้รับค่าจ้างทั้งทีมวันละ 5,000 บาท เพื่อนำเงินไปผ่อนค่างวดรถยนต์ที่ใช้และเป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในชีวิตประจำวัน ช่วงหลังๆ ได้ลงมือขโมยบ่อยขึ้น เนื่องจากย่ามใจว่าตำรวจไม่มีทางสืบหาตัวได้แน่นอน จนกระทั่งได้เห็นภาพข่าวตัวเองและเพื่อนๆ ขณะขโมยของอย่างชัดเจน จึงแยกย้ายกันหลบหนี

สายตรวจระวังภัย23ก.ค.59                "ถ้าร้านค้าใดๆ ที่เคยถูกขโมยนมผงในห้วงสองปีที่ผ่านมา สามารถแจ้งความในท้องที่ที่เกิดเหตุได้ทันที ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 คน ที่หลบหนีไปได้ ศาลจังหวัดลำปางได้ออกหมายจับแล้ว และได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ที่คาดว่าทั้ง 3 คน จะหลบหนีไปหลบซ่อน” พ.ต.อ.นิคม กล่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ