เตือนภัยแก๊งหลอกซื่้อของก่อนจ่ายเช็คเด้ง : โดย ดลระวี สุดพุ่ม
มิจฉาชีพมีหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะในยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง หลายคนจากเดิมประกอบอาชีพสุจริตกลายเป็นเริ่มหันมาหาทางฉ้อฉล หลอกลวงในหลายๆ รูปแบบ แม้ว่าที่ผ่านมาทางตำรวจได้เข้าไปจับกุมได้หลายราย แต่คนร้ายเหล่านี้ก็มักจะคิดค้นวิธีการโกงรูปแบบใหม่ๆ อยู่เสมอจนมีคนที่ตกเป็นเหยื่อแผนการของมิจฉาชีพพวกนี้ กันอยู่เป็นประจำ โดยมีกรรมวิธีกลโกงในการปลอมตัวเป็นพ่อค้ามาหลอกซื้อของจากร้านขายส่งเพื่อให้ได้ต้นทุนที่ต่ำ และผลกำไรที่ดีเกินคาด แต่มิจฉาชีพมีวิธีที่แยบยลกว่านั้นในการหลอกซื้อของโดยจ่ายเช็คเงินสด แต่เมื่อเหยื่อนำเช็คไปขึ้นเงินกลับไม่มีเงินในบัญชีที่เป็นเจ้าของเช็คนั้น หรือเรียกง่ายๆ ว่า “เช็คเด้ง” ทำให้เหยื่อขาดทุนสร้างความเสียหายกว่าหลักแสนบาท
ที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับกลโกงสารพัดรูปแบบ และตำรวจเองก็ปราบปรามอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีบางรายหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่ออย่างเช่นรายล่าสุด ตำรวจกองกำกับการ 5 กองปราบปราม ได้เข้าจับกุมนายสุวัฒน์ ชาวบ้านกร่าง ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ข้อหา ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริง โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการจ่ายเงินตามเช็คนั้น โดยให้ใช้เงินที่จำนวนสูงกว่าที่มีอยู่ในบัญชีอันพึงให้ใช้เงินได้ (จ่ายเช็คเด้ง)
พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ุม่วง ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม อธิบายถึงวิธีขั้นตอนในการก่อเหตุของมิจฉาชีพรายนี้ว่า ผู้ต้องหาได้ร่วมกับพวก เปิดหน้าร้านขายสินค้าในพื้นที่ย่านคลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อบังหน้า ก่อนจะหลอกลวงสั่งซื้อสินค้าประเภทต่างๆ อาทิ ข้าวสาร เนื้อไก่สด ขนม เครื่องปรับอากาศ ฯลฯ จากผู้เสียหายที่เป็นพ่อค้า แม่ค้า หลายสิบราย เป็นจำนวนครั้งละหลายแสนบาท โดยระหว่างผู้ต้องหาและเหยื่อจะตกลงกันที่จะชำระค่าสินค้าด้วยการสั่งจ่ายเช็คเงินสดล่วงหน้า แต่เมื่อผู้ต้องหานำเช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินกับธนาคารจึงทราบว่าตนเองโดนหลอก รวมมูลค่าเสียหายนับล้านบาท ซึ่งภายหลังได้รับสินค้าดังกล่าวมาแล้ว ผู้ต้องหาก็จะปิดร้านหลบหนีไป แต่กว่าผู้เสียหายจะรู้ตัวผู้ต้องหาก็ได้หลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่อื่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อมาทางผู้เสียหายได้รวมตัวกันเข้าแจ้งความดำเนินคดีเอาไว้ กระทั่งชุดสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานแน่ชัดแล้วว่าผู้ต้องหาเป็นผู้ก่อเหตุจริง จึงทำการขออำนาจศาลออกหมายจับ และติดตามจับกุมได้ที่ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ขณะที่มิจฉาชีพในคราบพ่อค้าราย รับสารภาพ โดยอ้างว่าเพิ่งก่อเหตุในลักษณะนี้เป็นครั้งแรก และบอกถึงวิธีการกลโกงที่แยบยลว่า ได้ร่วมกับพวกอีก 2 คน ก่อเหตุโดยสั่งซื้อสินค้าประเภทต่างๆ จากผู้เสียหาย แล้วนำไปขายต่อโดยตกลงกับผู้เสียหายว่าจะจ่ายเป็นเช็คเงินสด
โดยจากคำให้การและบอกถึงวิธีโกงที่มีผู้ตกเป็นเหยื่อหลายราย ดังนั้นพ่อค้า แม่ค้า หรือผู้ที่ประกอบธุรกิจระหว่างกันในลักษณะนี้ควรมีความระมัดระวังในการจ่ายเงินอยากให้ตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนว่าคู่ค้ากับตนนั้นมีประวัติการค้าขายและสถานะทางการเงินอย่างไร เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อกลโกงของมิจฉาชีพเหล่านี้ ไม่งั้นคุณจะตกเป็นเหยื่อรายต่อไป อย่างไรก็ตามตำรวจยังฝากถึงผู้เสียหายรายใดที่ถูกผู้ต้องหาหลอกลวง สามารถเข้าตรวจสอบและดำเนินคดีเพิ่มเติมได้ที่กองปราบปราม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง