12 ปีก่อน เธอได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งที่ 2 ของสาวญี่ปุ่น บนเวทีขาอ่อนจักรวาล เพราะโดยวงกว้างแล้ว ใบหน้าแบบฉบับของสาวญี่ปุ่นบนเวทีนี้ไม่เป็นที่ยอมรับมากนัก
****************
คนไทยที่ชื่นชอบเรื่องความสวยความงาม คงกำลังตั้งตารอลุ้นว่า สาวงามชาวไทยคนใดจะคว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2562 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ ถ้าไม่มีไรผิดพลาดก็ประมาณวันที่ 29 มิถุนายน 2562 นี้
แต่ที่ไปไกลกว่านั้นคือ การลุ้นต่อไปอีกว่า สาวไทยจะได้มีโอกาสคว้ามงกุฏนางงามจักรวาล หรือ Miss Universe 2019 ที่จะตามมาหลังจากนั้นไม่นาน
เราล้วนต่างรอที่จะเห็นสาวไทยเฉิดฉายบนเวทีขาอ่อนจักรวาล โบกสะบัดธงไทยแห่งชัยชนะอีกเป็นครั้งที่ 3 หลังจากที่ประเทศไทยมีสาวงามที่สามารถคว้าตำแหน่ง Miss Universe ได้ 2 ครั้งด้วยกัน คือในปี 2508 (ค.ศ. 1965) ที่ “ปุ๊ก อาภัสรา หงสกุล” เป็นนางงามจักรวาลคนแรกของไทย จากนั้นผ่านมาถึง 23 ปี เราก็มี “พี่ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก” ครองมงกุฏนางงามจักรวาลคนที่ 2 ซึ่งได้รับตำแหน่งในปี 2531 (ค.ศ.1988)
แต่ก็อย่างว่าชาติไหนๆ ต่างก็อยากให้สาวงามของตนเองได้ตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ทั้งสิ้น แม้เพียงครั้งแรกครั้งเดียวก็ยังดี หากยังมีชาติในทวีปเอเชียอีก 2 ชาติ ที่ได้ครองมงกุฏนางงามจักรวาลถึง 2 ครั้ง 2 ครา นอกเหนือจากสาวไทย
นั่นคือ อินเดีย 2 ครั้งในปี 2537 (ค.ศ. 1994) และ 2543 (ค.ศ.2000) และญี่ปุ่น 2 ครั้งในปี 2502 (ค.ศ. 1959) และ 2550 (ค.ศ.2007)
โดยเฉพาะกับสาวงามจากแดนปลาดิบ ที่ในวันนี้เมื่อ 12 ปีก่อน เธอได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งที่ 2 ให้กับเวทีขาอ่อนจักรวาล เพราะโดยวงกว้างแล้ว ใบหน้าแบบฉบับของสาวญี่ปุ่นบนเวทีนางงามจักรวาลไม่เป็นที่ยอมรับมากนัก
เธอคือ "ริโยะ โมริ" นางงามจักรวาลชาวญี่ปุ่น ประจำปี พ.ศ. 2550 เป็นนางงามจักรวาลคนที่ 2 ของประเทศญี่ปุ่น ต่อจาก อากิโกะ โคจิมะ ที่เคยได้ตำแหน่งเมื่อปี พ.ศ. 2502 โดยยังถือเป็นนางงามคนแรกของเอเชียที่ได้สวมมงกุฏอันทรงคุณค่านี้ และน่าสังเกตว่าในปีนั้นมงกุฏถูกประดับด้วยไขมุกเช่นเดียวกัน
อากิโกะ โคจิมะ นางงามจักรวาลคนแรกของญี่ปุ่น (ขอบคุณภาพจาก www.t-pageant.com)
ตามประวัติ เธอเกิดเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2529 ปัจจุบันอายุ 33 ปี เป็นชาวเมืองชิซูโอกะ และด้วยเหตุที่บ้านทำธุรกิจเปิดโรงเรียนสอนเต้นรำ ตัวเธอเองจึงเรียนเต้นบัลเลต์มาตั้งแต่ 4 ขวบ ขณะที่ต่อมายังประกอบอาชีพเป็นครูสอนเต้นอีกด้วย
ว่ากันว่า การเข้าแข่งขันในครั้งนี้ ริโยะ โมริ ไม่เพียงเดินตามความฝันของตัวเองเท่านั้น แต่ยังเป็นการตามความฝันของคุณย่า ที่พร่ำบอกเสมอว่าอยากเห็นหลานสาวคนนี้เป็นนางงามญี่ปุ่นก่อนอายุ 20 ปี
ในปี 2550 ริโยะ โมริ ได้เป็นตัวแทนประเทศญี่ปุ่นเข้าประกวดนางงามจักรวาล ครั้งที่ 56 ที่จัดขึ้น ณ หอประชุมในเม็กซิโกซิตี ประเทศเม็กซิโก ปีนั้นมีสาวงามนานาชาติเข้าร่วม 77 ประเทศ
ความโดดเด่นของเธอ แน่นอนไม่ใช่ความสวยหวาน แต่ผู้คนต่างจับตามองไปที่ความมีสไตล์ที่โดดเด่นและมีความมั่นใจในตัวเองเองอย่างมาก พูดง่ายๆ ว่าไม่ใช่ทั้งสายหวาน ไม่ใช่ทั้งสายเซ็กซี่ สื่อหลายสำนักเรียกเธอว่า นางงามสายเท่ห์ เก๋ ไม่เหมือนใคร เพราะขนาดชุดราตรีในรอบสุดท้ายก่อนมงลง เธอยังสวมชุดจากแบรนด์ Gucci ที่ไม่ได้มีอะไรประดับวิบวับพราวตาเหมือนสาวงามคนอื่นๆ
ถามว่า แค่นี้พอหรือยังกับมงกุฏระดับจักรวาลมาร์เวลสายขาอ่อน แน่นอนยังไม่พอ แต่เมื่อรวมกับความฉลาด ในการตอบคำถามแล้ว จะพบว่าเหมาะเจาะและเหมาะสมที่สุด เมื่อเธอเจอคำถามในรอบสุดท้าย ที่ถามว่า
"อะไรเป็นบทเรียนจากในอดีตที่ส่งผลมาถึงปัจจุบัน"
สามงามจากแดนซากุระตอบว่า “การเติบโตมาในครอบครัวของโรงเรียนสอนเต้น ทำให้เข้าใจว่าความอดทนและมองโลกในแง่ดี จะสร้างความสุขให้กับตัวเอง และเธอจะนำบทเรียนไปสอนต่อให้กับเด็กในโรงเรียนต่อไป”
แต่อีกมุมหนึ่งเชื่อหรือไม่ว่า แม้แต่คนในชาติเดียวกันกับเธอ ต่างก็ไม่พึงใจกับความสวยแบบ ริโยะ โมริ เช่นกัน หากจำได้ช่วงนั้นมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตัวเธอมากมาย โดยมีการวิเคราะห์ที่เป็นเช่นนั้น เพราะชาวญี่ปุ่นมีทัศนคติเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของผู้หญิงชาตินเองไปในทางลบ แต่ชอบผู้หญิงที่สวยงามแบบฝรั่งมากกว่า
ขอบคุณภาพจาก www.t-pageant.com
ถ้าจะว่ากันตามจริง ยุคหนึ่ง คนไทยก็ชื่นชอบนางงามชาวไทยที่มีใบหน้าออกไปทางลูกครึ่ง หากว่าปีไหนสาวไทย ใบหน้าไทยมงลง ก็จะได้รับคำบ่นว่า ไม่สวยเท่าไหร่!
แต่ในทางตรงกันข้าม มีข้อมูลระบุว่าในผลการสำรวจโพลจากหลายสำนักทั้งจากเวบไซต์โกลบอลบิวตี้ มีว่า ในสาวทั้ง 77 คน จาก 77 ประเทศ มิสเจแปนของเรากลับติด 1 ใน 5 ทุกครั้ง และแทบจะทุกสำนัก!
ที่สำคัญ ไม่เพียงมิสเจแปน ในปีนั้นกลับมีสาวงามฝั่งเอเชีย พากันโกยรางวัลใหญ่ๆ ไปหลายรายการ เช่น มิสไชน่า “หนิง หนิง จาง” วัย 20 ปี คว้ารางวัลนางงามมิตรภาพ, มิสฟิลิปปินส์ “แอนนา เทเรซ่า ไลคารอส” วัย 22 ปี ได้ตำแหน่งขวัญใจช่างภาพ และ มิสเกาหลีใต้ "ฮันนี่ ลี" ได้รองอันดับ 4, มิสอินเดีย "ปูจา กัปตา" วัย 23 ปี ติด 1 ใน 10 คนสุดท้าย รวมถึง “กวาง-ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม" วัย 18 ปี สาวงามจากบ้านเราก็เข้าสู่รอบ 15 คนสุดท้ายเช่นเดียวกัน
ริโยะ กับ สาวกวาง ฟ้ารุ่ง คนงามจากบ้านเรา (ขอบคุณภาพจาก www.t-pageant.com)
นั่นจึงอาจตีความได้ว่า ในสายตาชาวโลกแบบองค์รวมแล้ว ริโยะ โมริ ถือว่าเป็นสาวงามระดับแถวหน้าคนหนึ่งเลยทีเดียว
อย่างไรก็ดี อีกมุมหนึ่งหลายคนวิเคราะห์ว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้น โดยเฉพาะปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง มีคำอธิบายว่า ช่วงเวลานั้นญี่ปุ่นกับเม็กซิโกมีความสัมพันธ์ในด้านเศรษฐกิจที่ดี โดยญี่ปุ่นเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญอันดับ 3 ของเม็กซิโก, และญี่ปุ่นยังเป็นแหล่งสินค้านำเข้าเป็นอันดับ 2 อีกด้วย
หากแต่มุมนี้ก็มีคนแย้งว่า ไม่ว่ากี่ปี นางงามกับการเมือง และเศรษฐกิจ ไม่เคยหนีจากกันได้ ไม่เช่นนั้น มหาอำนาจโลกอย่างอเมริกา คงไม่มง “ลงเอาๆ” จนได้ไปมากกว่าชาติอื่นในโลกนี้
เพียงแต่ปีนั้นการเมืองเม็กซิโก กับอเมริกาไม่ดีเท่าไหร่ จากนโยบายที่ไม่เป็นมิตรของ USA ที่มีต่อผู้ลอบเข้าเมืองไปทำงานอย่างผิดกฏหมายซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเม็กซิกัน ความซวยเลยบังเกิดกับ Rachel Smith มิส USA ที่เจอชาวพริกโห่ไล่ตลอดที่ปรากฏตัว และทุกรอบบนเวที!!
แต่อีกมุมหนึ่ง ต้องยอมรับว่า เมื่อ ริโยะ โมริ วัย 21 รับมงกุฎเพชรมูลค่า 250,000 ดอลลาร์ หรือราว 8,500,000 บาท จาก ซูเลก้า ไรเวร่า มิสยูนิเวิร์สปี 2006 (สาวงามจากเปอโตริโก้) แล้วเดินออกจากเวทีใน เนชั่นแนล ออดิทอเรียม ณ กรุงเม็กซิโก ซิตี้ ประเทศเม็กซิโก ไปอย่างงดงาม เพื่อเดินหน้าทำหน้าที่นางงามจักรวาลของปีนั้น แม้จะชอต "มงร่วง" ซึ่งโชคดีที่สาวกินปลาจะคว้าไว้ทันก็ตาม (ฮา)
ขอบคุณภาพจาก www.t-pageant.com
ปรากฏว่า เธอกลับกลายเป็นนางงามที่ทำรายได้ให้กับกองการประดวกมิสยูนิเวิรส์มหาศาล ว่ากันว่า เธอเป็น 1 ใน 3 ของ Miss Universe ที่ทำรายได้ให้กับ The Miss Universe Organization (MUO) มากที่สุด คือออกงานเยอะ ทำงานจริง โดยเฉพาะงานเพื่อสังคมดลก ที่เธอลุยมันทุกที่ในหลายประเทศทั่วโลก ทั้ง และได้พบปะกับผู้คนมากมาย
www.gettyimages.co.nz
/////////////////
ขอบคุณภาพและข้อมุลจาก
https://www.dek-d.com/board/view/878161/
www.t-pageant.com
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=snod&month=06-2007&date=20&group=6&gblog=2
*********************************
ข่าวที่เกี่ยวข้อง