วันนี้ในอดีต

19 ก.พ.2550 คนไทยเศร้า โรคร้ายคร่า "เหี่ยวฟ้า" ตลกนิสัยดี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หลังจากที่ถ่ายภาพยนตร์ เรื่อง "เพลงสุดท้าย" เสร็จ จึงนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล แพทย์ลงความเห็นว่าเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ

         

 

****************************

 

          เชื่อว่าหลายคนยังจำเขาได้ดี ดาวตลกหน้าเหี่ยวที่เราต่างชื่นชอบ เราเรียกเขาว่า “เหี่ยวฟ้า” หากแต่มีชื่อจริงว่า "พรมมา สระทองแก้ว"

 

          และวันนี้เมื่อ 12 ปีก่อน 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 เขาต้องมาจากไปด้วยวัย 73 ปี จากอาการของโรคมะเร็งปอด หลังล้มป่วยเส้นเลือดในสมองตีบและเป็นอัมพฤกษ์อีกด้วย ช่างน่าสลดยิ่ง!

 

 

 

19 ก.พ.2550  คนไทยเศร้า โรคร้ายคร่า  "เหี่ยวฟ้า" ตลกนิสัยดี

 

 

          เพื่อเป็นการรำลึกถึงดาวตลกอาวุโสคนนี้อีกครั้ง จึงขอนำประวัติมาเล่าสู่กันฟังอีกครา

 

          ข้อมูลจาก ยูทูบEsanShowTV เล่าว่า เหี่ยวฟ้าเกิดเมื่อวันเสาร์ เดือน 10 ปีชวด (พ.ศ. 2478) บิดาชื่อ "โฮ่" มารดา ชื่อ "เกิด สระทองแก้ว" ในครอบครัวชาวนาธรรมดาๆ 

 

          เหี่ยวฟ้าเรียนจบป.4 พออายุได้ 15 ปี ก็เริ่มตระเวนสมัครป็นนักร้องตามวงดนตรีคณะต่างๆ แต่ก็ไม่มีใครรับเข้าทำงาน ระหา่งนั้นก็ทำงานไปเรื่อย ทั้ง ถีบสามล้อ ขายไอติม

 

          ผ่านไปสัก 3-4 ปี ชีวิตก็เปลี่ยนแปลง โดยโชคดี ได้พบกับ ครูก. แก้วประเสริฐ ครูก.ได้รับเข้ามาอยู่ในวงดนตรีด้วย

 

          จากนั้นเมื่อ ระพิน ภูไท เปิดวงดนตรี เหี่ยวฟ้าจึงไปสมัครเข้าวง แต่หัวหน้าวงก็ใจดีให้ทำแค่ขนเครื่อง ทำอยู่เกือบ 3 ปีเต็ม ก็ย้ายไปอยู่วงดนตรี จีระพันธ์ วีระพงษ์ เจ้าของเพลงไก่นาตาฟาง ครั้งนี้ เหี่ยวฟ้าได้เล่นตลกโชว์ครั้งแรก ใช้ชื่อว่า "เกษแก้ว กำแพงแสน" 

 

 

 

19 ก.พ.2550  คนไทยเศร้า โรคร้ายคร่า  "เหี่ยวฟ้า" ตลกนิสัยดี

ระพิน ภูไท

 

 

19 ก.พ.2550  คนไทยเศร้า โรคร้ายคร่า  "เหี่ยวฟ้า" ตลกนิสัยดี    

จีระพันธ์ วีระพงษ์

 

 

 

         จากนั้น เด๋อ ดอกสะเดาเห็นแวว จึงได้มาเป็นสมาชิกของคณะเด๋อ ดู๋ ดี๋ และเด๋อนี่เองที่เป็นคนตั้งชื่อให้เขาใหม่ว่า "อีเหี่ยว" หรือ "เหี่ยวฟ้า" เปลี่ยนการเดินสายเล่นตลกกับวงดนตรีมาสู่ ยุคของเล่นตลกตามห้องอาหาร

 

         ภายหลังเมื่อมีชื่อเสียงเป้นวงกว้างจึงแยกมาตั้ง “คณะเหี่ยวฟ้า” เป็นของตัวเอง 

 

         นอกจากนี้แล้วเหี่ยวฟ้ายังเคยตั้งค่ายมวยไทยร่วมกับเพื่อนนักแสดงตลก ดอน จมูกบาน ในชื่อ “ซูเปอร์ดอน” ประมาณ พ.ศ. 2527 อีกด้วย

 

         40 ปีที่โลดแล่นอยู่ในวงการตลก  คนไทยรู้จักและชื่นชอบเขาตรงบุคลิกใบหน้าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือเหี่ยวย่นแต่น่ารัก

 

 

 

19 ก.พ.2550  คนไทยเศร้า โรคร้ายคร่า  "เหี่ยวฟ้า" ตลกนิสัยดี

 

 

          และด้วยเหตุนี้เขาจึงมีผลงานในวงการบันเทิงมากมาย ทั้งภาพยนตร์ ละคร ฯลฯ แถมยังเคยดังจนมีโอกาสไปช่วย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หาเสียงเลือกตั้งครั้งหนึ่งอีกด้วย

 

          ภาพยนตร์ที่เขาร่วมแสดงนั้น นับจากปี 2528 จนถึง ปี 2549 มีมากมายเกือบ 20 เรื่องเช่น กิ้งก่ากายสิทธิ์ (2528), มือปืน โลก/พระ/จัน (2544) ผู้หญิง 5 บาป (2545) บุปผาราตรี ภาค 1 (2546) รับบทเป็น บาทหลวง และ พันธุ์ร็อกหน้าย่น, ผี..ไม่อยากให้คนเห็น (2547)

 

          และอีกหลายเรื่องจนถึง ภาพยนตร์เรื่อง "เพลงสุดท้าย" ในปี 2549 ซึ่งก็เป็นหนังเรื่องสุดท้ายของเหี่ยวฟ้าอีกด้วย โดยเขาถึงกับทรุดคากองถ่ายภาพยนตร์เรื่องนี้ จนต้องล้มหมอนนอนเสื่อ แล้วมาเสียชีวิตในปีต่อมาเลยทีเดียว

 

          ส่วนละครนั้น มีดังนี้ แม่นาคพระโขนง ช่อง 5 (2537), นางบาป ช่อง 7 (2541) และ เปรตวัดสุทัศน์ ช่อง 7 (2546) สำหรับบทบาทในละครที่โด่งงดังมากคือ ผลงานรจากละครเรื่อง “ผู้กองยอดรัก” ที่นำแสดงโดย โอ-วรุฒ วรธรรม และแนน-ชลิตา เฟื่องอารมย์ เมื่อปี 2538

 

          ช่วงนั้น ข่าวระบุอ้างถึง “โน้ต เชิญยิ้ม” ขณะเป็นที่ปรึกษาของสมาคมตลกฯ ได้เปิดความรู้สึกว่าเสียดายกับการจากไปของเหี่ยวฟ้าอย่างมาก เพราะเป็นตลกที่ไม่ถือตัวและนิสัยดี...

 

          “ที่จริงกับพี่เหี่ยวนี่ผมอยู่กับเขามาตั้งแต่ตอนแรกๆ ที่เข้าวงการเลยนะ แกเคยเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ผมเสียดายนิสัยแก พี่เหี่ยวแกนิสัยดีน่ะ ไม่เหมือนตลกสมัยนี้ทำตัวไฮโซน่ะ ซึ่งพี่เหี่ยวไม่เป็นนะ”

 

          “น้องๆ โทร.ไปอยากให้เล่นหนังให้ แกก็มาหมดนะ ไม่เคยเลี่ยง แล้วแกเป็นคนร่าเริงน่ะ ไม่นิ่งๆ เท่าไหร่นะ เพียงแต่ช่วงหลังแก่มากแล้ว จะ 70 น่ะมันเลยดูแกเงียบๆไป แต่ปกติแกก็จะโดนล้อโดนอำของน้องๆ ในกลุ่มนะ เป็นที่รักมากๆ" (ข่าวจาก https://mgronline.com/entertainment/detail/9500000020886)

 

 

 

19 ก.พ.2550  คนไทยเศร้า โรคร้ายคร่า  "เหี่ยวฟ้า" ตลกนิสัยดี

 

 

 

          ในด้านชีวิตส่วนตัว เหี่ยวฟ้าอยู่กินกับภรรยาวัย 38 ปี (ขณะนั้น) ชื่อ “ศิริวรรณ ประเสริฐศรี” มีบุตรด้วยกัน 2 คน (ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง) ซึ่งเวลานั้นเธอได้กล่าวถึงอาการป่วยของสามีว่า สามีสูบบุหรี่มานานแล้ว ถึงขนาดก่อนเสียชีวิตก็ยังสูบวันละซอง นี่จึงเป็นคำตอบวา่ทำไมเขาถึงล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งปอด

 

          ทั้งนี้เธอเล่าว่า ก่อนหน้านี้เมื่อกลางปี 47 สามีได้ล้มป่วยเป็นอัมพฤกษ์ หลังจากที่ถ่ายภาพยนตร์ เรื่อง “เพลงสุดท้าย” เสร็จ จึงนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล แพทย์ลงความเห็นว่าเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ

 

          หลังจากนั้นก็ออกจากโรงพยาบาลมารักษาตัวที่บ้าน ร่างกายก็กลับมาแข็งแรงอีกครั้งไม่มีอาการอะไรที่น่าเป็นห่วง หลังจากนั้นมาไม่นานก็ล้มป่วยลงอีกครั้ง ตนเลยพาเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล แพทย์ลงความเห็นว่าเป็นโรคมะเร็งในปอด จากนั้นสามีก็มีอาการซึมเศร้าไม่ค่อยพูดจากกับใครเหมือนแต่ก่อน

 

          จนกระทั่งมีอาการเจ็บหัวใจ จึงได้พามาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์เป็นเวลา 4 วันจนจบชีวิตลงอย่างสงบในที่สุดในวันที่ 19 ก.พ.2550 ที่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ ย่านพุทธมณฑลสาย 3

 

          และเช่นเคย สำหรับคนที่คิดถึงเหี่ยวฟ้า ก็รับชมผลงานของเขาได้ จากลิงค์นี้

 

 

ขอบคุณผู้ใช้ยูทูบ dosdy CKR

 

******************************

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ