ยังมีเหตุโศกนาฏกรรมทางการบินที่ คนไทยหลายคนยังจดจำภาพจากกล้องหน้ารถคันหนึ่ง ซึ่งได้บันทึกช่วงเวลานาทีชีวิตเมื่อเครื่องบินลลำหนึ่งได้ร่อนเอียงตัวผ่านหน้าไปแล้วตกลงไปในแม่น้ำ จนไฟลุกไหม้ไปต่อหน้าต่อตา
ภาพจากคลิปวิดีโอจาก ยูทูบ ผู้ใช้ Jonathan Passantino
เที่ยวบินนี้คือ ทรานส์เอเชียแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 235 (GE235/TNA235) เป็นเที่ยวบินในประเทศไต้หวัน โดยเมื่อวันนี้ของ 4 ปีก่อน หรือ ตรงกับวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 เครื้่องบินมรณะลำนี้ได้ตกลงกลางแม่น้ำคีลุง หลังจากออกบินจาก ท่าอากาศยานซงซัน, ได้เพียง 5.4 กิโลเมตร (3.4 ไมล์) ไปทางตะวันตก
ทั้งนี้เที่ยวของทรานส์เอเชียแอร์เวย์ ทำการบินด้วยเครื่องบินแบบ เอทีอาร์ 72-600 ที่พึ่งทำการบินได้เพียง 10 เดือน เส้นทาง ไทเป-จินเหมิน พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 58 คน มีผู้รอดชีวิตเพียง 15 คนเท่านั้น
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รายงานข่าวเล่าว่าในวันนั้น เที่ยวบินที่ 235 ออกจากท่าอากาศยานซงซัน เวลา 10.52 น. ตามเวลาในประเทศไต้หวัน เพื่อไปยังท่าอากาศยานจินเหมิน
โดยบรรทุกผู้โดยสาร 53 คน และลูกเรือ 5 คน ทุกอย่างเกิดขึ้นเพียงในเวลา 2 นาทีหลังจากออกบิน เมื่อนักบินรายงานว่าเครื่องยนต์ฝั่งปีกขวาของเครื่องบินเกิดไฟลุกไหม้ เที่ยวบินที่ 235 ไต่ระดับสูงสุดที่ 1,050 ฟุต (320 เมตร) จึงลดระดับลง ก่อนตกลง โดยเครื่อนบินร่อนเอียงหลบหมู่อาคารสูง แฉลบชนสะพานทางหลวง และ รถแท็กซี่ แล้วจึงดิ่งลงสู่แม่น้ำคีลุงในท้ายที่สุด
ว่ากันว่า การติดต่อครั้งสุดท้ายจากนักบินกับ ศูนย์ควบคุมการบิน ว่า: “Mayday, mayday, engine flameout.” ช่วงเวลาประมาณ 10.54 น. ก่อนตกลงสู่แม่น้ำคีลุงในท้ายที่สุด
เที่ยวบินที่ 235 เป็นอุบัติเหตุทางการบินครั้งที่ 2 ในรอบ 7 เดือน ของ ทรานส์เอเชียแอร์เวย์ บนเครื่องบินแบบ เอทีอาร์. เที่ยวบิน 222 ตกในวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 มีผู้เสียชีวิต 48 คน จากทั้งหมด 58
ภาพจากคลิปวิดีโอจาก ยูทูบ ผู้ใช้ Jonathan Passantino
ทั้งนี้ข่าวที่ออกไปทั่วโลก เราได้เห็นภาพจากกล้องวีดีโอติดรถยนต์ของประชาชนผู้เห็นเหตุการณ์ ขณะขับรถบนสะพานทางหลวงใกล้แม่น้ำ แสดงภาพเครื่องบินร่อนเอียงหลบหมู่อาคารสูง หนุนตัวทำมุม 90 องศา โดยใช้ปีกด้านซ้ายลง ขณะผ่านสะพานทางหลวง
ขณะนั้นเอง ปีกด้านซ้ายได้เชี่ยวชนกับรถแท็กซี่ที่กำลังขับอยู่บนสะพาน นอกจากนี้ยังเกี่ยวบริเวณขอบเหล็กกั้นทาง และพื้นคอนครีตของสะพานด้วย จากนั้นเครื่องหมุนและตกลงบนพื้นแม่น้ำในสภาพกลับหัวลง และแตกออกเป็น 2 ส่วน โดยผู้ที่อยู่ในแท็กซี่ 2 คน ได้รับบาดเจ็บ
สำหรับในส่วนของการกู้ภัย และ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในแม่น้ำคีลุง นั้น ได้รับการยอมรับว่าเจ้าหน้าที่มากันเร็วมาก แทบจะทันทีทันใดหลังจากเครื่องบินตก โดยหน่วยดับเพลิงไทเป ทหาร และอาศาสมัคร มาถึงจุดเกิดเหตุในไม่กี่นาทีต่อมา หลังได้รับการแจ้งจากผู้เห็นเหตุการณ์หลายหลาย
การกู้ภัยเครื่องบินในแม่น้ำคีลุง
จากนั้นพวกเขาก็ทยอยช่วยเหลือผู้รอดชีวิตออกจากบริเวณนั้นจนหมด ท่ามกลางการกู้ภัยค่อนข้างทำได้ลำบากเนื่องจากทัศนิวัยที่ค่อนข้างต่ำใต้ผิวน้ำ จากนั้นจึงเริ่มตัดสายเข็มขัดจากผู้เสียชีวิตเพื่อนำศพออกมา ศพส่วนใหญ่อยู่บริเวณด้านหน้าของเครื่อง
นอกจากนี้ กล่องดำของเครื่องบินก็ได้รับการกู้ทันทีในเวลา 16.00 น. ในวันเดียวกัน จากนั้นเวลา 20.00 น. เครนเข้ามายกชิ้นส่วนใหญ่ที่เป็นถังน้ำมันของเครื่องบินออกไป
อย่างไรก็ดี วันแรกของการกู้ภัย เจ้าหน้าที่ยังไม่พบร่างนักบิน จนวนรุ่งขึ้น 5 กุมภาพันธ์ 2558 จึงพบร่างของเขา
สำหรับเครื่องบินที่ประสบอุบัติเหตุลำนี้ คือเครื่องบินแบบ ATR 72-600 เครื่องยนต์ใบพัดคู่, ทะเบียน B-22816, หมายเลขผลิต 1141.
เริ่มปฏิบัติการบินครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2557 และรับมอบสู่สายการบิน ทรานส์เอเชียแอร์เวย์ เมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2557 เครื่องยนต์ แพทท์ แอนด์ วิทนี่ แคนาดา PW127M ถูกเปลี่ยนด้วยสาเหตุทางเทคนิค เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2557
ในส่วนของ ผู้โดยสารเป็นผู้ใหญ่ทั้งหมด 49 คน และ เด็กอีก 4 คน แบ่งตามสัญชาติ 31 คน เป็นคนจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวจาก เซี่ยเหมิน ที่เหลืออีก 22 คนเป็นชาวไต้หวัน
ทั้งนี้ นักบิน 2 คน คือ นาย เลี่ยวเจี้ยนจง อายุ 42 ปี ประสบการณ์บิน 14,914 ชม.; และ นักบินผู้ช่วย นาย หลิว สื่อซวง อายุ 45 ปี และถือสองสัญชาติ นิวซีแลนด์–ไต้หวัน มีประสบการณ์บิน 4000 ชม.
ส่วนพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน 2 คน ไม่ทราบชื่อ และผู้สังเกตการบินอีก 1 คน ชื่อ นาย ฮง ปิงซง
ต่อมา ราวเดือนกรกฎาคม ปีเดียวกัน ได้มีการเผยสาเหตุผลการสอบสวนโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ว่าเป็นเพราะนักบิน ‘ผิดพลาด’ ที่ไปดับเครื่องยนต์อีกเครื่อง หลังเครื่องยนต์เครื่องหนึ่งขัดข้อง
B-22816 ขณะปฏิบัติการบินเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2558
โดยจากการเปิดเผยของแหล่งข่าวในการสอบสวนสาเหตุโศกนาฏกรรมนี้ระบุว่า เกิดความผิดพลาดของนักบิน ซึ่งทำให้เกิดเรื่องไม่น่าเชื่อมากขึ้นไปอีก และเป็นเรื่องโชคร้ายที่ความผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นขณะมีนักบินอยู่ในห้องนักบินถึง 3 คน ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการสอบสวนจึงบีบให้แคบลงไปที่นักบินและการฝึกสอนนักบินของสายการบินทรานส์เอเชีย
แหล่งข่าวยังระบุว่า สำนักงานบริหารการบินพลเรือนไต้หวัน (ซีเอเอ) ได้มีคำสั่งให้นักบิน 55 คนของสายการบินทรานส์เอเชีย ทำการทดสอบปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์หลังเครื่องยนต์ขัดข้อง
ทั้งนี้ ตามรายงานเบื้องต้นของการวิเคราะห์ข้อมูลบันทึกการบินของเที่ยวบิน 235 พบว่า เครื่องยนต์หนึ่งใน 2 เครื่องของเครื่องบินได้ดับลงใน 37 วินาที หลังจากนักบินได้นำเครื่องบินทะยานขึ้นจากท่าอากาศยานในกรุงไทเป และทางเจ้าหน้าที่สภาความปลอดภัยด้านการบินของไต้หวัน กล่าวว่า นักบินได้แจ้ง ‘ฉุกเฉิน เมย์เดย์ มายังหอควบคุมการบิน หลังสังเกตว่าเครื่องยนต์ขัดข้อง แต่ทางสำนักงานบริหารการบินพลเรือนไต้หวัน (ซีเอเอ) ยืนยันว่า หอควบคุมการบินไม่ได้ยินสัญญาณ ‘เมย์เดย์’ แต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้ นายโทมัส หวัง ผู้อำนวยการซีเอเอ เผยว่า มีรายงานข้อมูลจาก ‘กล่องดำ’ ระบุเครื่องยนต์ทั้งสองเครื่องของเครื่องบินได้หยุดทำงาน และเครื่องบินได้บินโดยไม่มีกำลังจากเครื่องยนต์เป็นเวลากว่า 1 นาที ก่อนจะตกวูบและพุ่งชนสะพาน แล้วตกลงในแม่น้ำ
แต่ยังมีเรื่องเศร้าตามมาอีก เพราะหลังจากนั้นในเดือน พฤศจิกายน ปี2559 สายการบิน ทรานส์เอเชีย แอร์เวย์ส ของไต้หวัน ได้ประกาศปิดกิจการลง หลังเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงทางการบิน 2 ครั้งซึ่งทำให้บริษัทประสบภาวะขาดทุนมหาศาล และยังถูกสอบสวนความผิดเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ข้อมูลวงใน
สำหรับโศกนาฏกรรมอีกครั้งนั้นเกิดขึ้นก่อนหน้านัั้นแค่ 7 เดือน เมื่อเครื่องบินของสายกาบินนี้ลำหนึ่ง เกิดประสบอุบัติเหตุตกใส่ต้นไม้และบ้านเรือนประชาชนใกล้ๆ เมืองหม่ากง บนเกาะเผิงหู เป็นเหตุให้ผู้โดยสารเสียชีวิต 48 ราย!!
ขอแสดงความเสียใจแด่ผู้สูญเสียมา ณ ที่นี้
/////// ขอบคุณข้อมูลจากวิิกิพีเดีย
ติดตามชมคลิปได้ที่
