วันนี้ในอดีต

31 ธ.ค.2551 รอยต่อคืนสลด!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เที่ยวปีใหม่ ฉลองกันอย่างมีสติและระมัดระวังตัวด้วยทุกคน

          10 ปีก่อน ในรอยต่อคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของปี 2552 ได้เกิดเหตุโศกนาฎกรรมเกินกว่าที่ใครจะรับได้ นั่นคือ เหตุเพลิงไหม้ซานติก้าผับ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากในกองเพลิงนรก!!

          ย้อนไปในวันเกิดเหตุ คืนวันที่ 31 ธันวาคม 2551 มีผู้คนจำนวนมากเดินทางมาที่ผับเพื่อฉลองปีใหม่ ในค่ำคืนนั้น มีการจุดไฟเย็น ดื่มเหล้า ทานอาหารและแสดงดนตรี จำนวนคนร่วมงานคาดการณ์ว่ามากถึง 1000 คน ซึ่งเกิดกว่าขีดจำกัดของทางผับที่รับได้ประมาณ 500 คน

          นักท่องเที่ยวทั้งหมดเข้ามาจากทางประตูหน้าที่มีความกว้างสองเมตรครึ่ง จำนวนคนในผับแน่นขนัดทั้งสองชั้นและบริเวณบันได กระทั่งย่างเข้าวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2552 นักท่องเที่ยวได้จุดพลุไฟเย็นในขณะที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ และเมื่อมีการแจกพลุกระดาษให้กับนักท่องเที่ยว พวกเขาจุดพลุกระดาษ จนไปติดไฟสปอร์ตไลน์และเกิดเพลิงไหม้

          ณ ขณะนั้นมีรายงานว่า แม้ว่าเพลิงไหม้แล้ว นักท่องเที่ยวยังไม่ทราบว่าเกิดเหตุ มีคนตะโกนว่า “เอฟเฟกต์ เอฟเฟกต์ ” แต่ภายหลังจากนั้นไฟฟ้าในอาคารได้ดับลง กว่าจะทราบว่าเป็นเพลิงไหม้ เพลิงก็ได้ทำการลุกไหม้จากบริเวณชั้นสอง ทำให้โครงสร้างถล่มลงมา เนื่องจากภายในผับมีวัตถุที่เอื้อต่อการเกิดเพลิงไหม้ อาทิ ผนังโฟม สุรา ฯลฯ เพลิงจึงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว

 

31 ธ.ค.2551  รอยต่อคืนสลด!

          นักท่องเที่ยวพยายามหนีออกมาทางประตูด้านหน้า ซึ่งมีขนาดเพียงสองเมตรครึ่ง เนื่องจากไม่ทราบทางออกอื่น แต่ไม่สามารถออกมาได้เนื่องจากคนแน่นขนัดมาก และ ประตูมีขนาดเล็ก คนที่ล้มลงในสถานที่เกิดเหตุไม่สามารถลุกขึ้นมาได้และถูกเหยียบซ้ำสภาพศพหลายศพถูกทับกัน

          สำหรับ ต้นเหตุการเกิดไฟไหม้ครั้งนี้นั้นมาจากมีที่ยิงพลุกระดาษอันหนึ่งโดยก่อนเกิดไฟไหม้ นักร้องวงเบิร์นได้แสดงเสร็จและมีพลุกระดาษขึ้น และกระดาษได้ไปติดสปอร์ตไลท์ด้านบนจึงเกิดประกายไฟและไฟไหม้ในเวลาต่อมา

          อนึ่ง สถานบันเทิง “ซานติก้า” เปิดบริการในรูปแบบผับมาแล้วก่อนเกิดเหตุถึง 5 ปี ตั้งอยู่บริเวณถนนเอกมัยระหว่างซอย 9 และ ซอย 11 ภายใต้การบริหารของ บริษัท White & Brothers (2003) จำกัด โดยนำคำในภาษาสเปน แปลว่า ธรรมชาติที่สวยงาม มาตั้งเป็นชื่อร้าน

          ผับแห่งนี้สามารถจุคนได้ถึง 2,000 คน และก่อนหน้านั้น ช่วงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2550 ผับแห่งนี้เพิ่งปรับโฉมใหม่ ด้วยการผสมผสานความเก่าและใหม่เข้าด้วยกัน จนมีรูปแบบเหมือนโบสถ์โบราณเก่าที่คลาสสิกสวยงาม นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นกำแพงปูนหนาทึบ แทนที่จะใช้กระจกใสเหมือนผับอื่นๆ ทั่วไป

          ที่สำคัญ ภายในซานติก้า ยังมีการเล่นระดับของพื้นที่เพื่อประโยชน์ในการใช้สอย แบ่งเป็น 4 ชั้น ได้แก่ บริเวณชั้นใต้ดิน เป็นส่วนห้องน้ำ บริเวณโถงกลาง หน้าเวทีที่อยู่ในระดับเดียวกับชั้นห้องน้ำ แต่ใช้ทางขึ้นลงคนละฝั่ง บริเวณชั้นลอยยกระดับก่อนขึ้นสู่บริเวณชั้น 2 และบริเวณระหว่างชั้นลอยกับโถงกลางหน้าเวที เรียกว่ามีความความสลับซับซ้อนเป็นอันมาก

          มากไปกว่านั้น ทางเข้าหลักของที่นี่ทั้งแคบและโค้ง ทำให้การเข้าออกค่อนข้างลำบาก นอกจากเน้นใช้ปูนทึบแล้วยังติดเหล็กดัดตามช่องกระจก เพียงเท่านี้ เราคงพอจะนึกภาพออกว่ายามเกิดเหตุ จะส่งผลให้ผู้คนเกิดความโกลาหลขนาดไหน

          อย่างไรก็ดีหลังเกิดเหตุ นอกจากความเศร้าสลดแล้ว ผู้คนยังมีการนำไปโยงถึงเรื่องราวอาถรรพ์และลางบอกเหตุเกี่ยวกับเรื่องนี้กันอย่างกว้างขวาง เช่นว่า ชื่อของปาร์ตี้ส่งท้ายปีครั้งนี้ ที่ตั้งชื่อ “กู๊ดบาย ซานติก้า” (Goodbye Santika) เพราะที่นี่จะเปิดให้บริการเป็นคืนสุดท้ายหลังจากหมดสัญญาเช่าที่ดิน ทางร้านจึงมีการทำซีดีแจกลูกค้าที่มา โดยเป็นการรวมเรื่องราวการก่อตั้งร้าน ซึ่งหน้าปกมีสีดำหม่น ใช้ชื่อเดียวกับงาน

 

31 ธ.ค.2551  รอยต่อคืนสลด!

 

          และยังมีการวิพากษ์วิจารณ์อีกว่า การตกแต่งภายในร้านที่นำโลงศพมาตั้งไว้กลางร้าน บวกกับไม้กางเขนที่ห้อยอยู่บริเวณฝาผนัง เพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปต์โบสถ์เก่านั้น เป็นเสมือนลางบอกเหตุ แถมเวบไซต์ของร้านที่ตกแต่งด้วยรูปเปลวเพลิง ก็เป็นอีกข้อสังเกตุของคนไทย

          และที่ติดใจคนไทยมากที่สุดคือ วงดนตรีที่มาเล่นในวันนั้น มีชื่อว่าวงเบิร์น (Burn) ที่แปลว่า “เผา” แล้วก็มีไฟลุกขึ้นบนฉากหลังที่เขียนคำว่า Burn ซึ่งสุดท้าย ก็มีไฟลุกบนฉากนั้นขึ้นมาจริงๆ หลังจากมีการแจกไฟเย็นให้แก่ผู้มาเที่ยวในคืนนั้น เพื่อใช้จุดร่วมกันในช่วงนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ แต่กลับกลายเป็นการถอยหลังสู่ความตายในที่สุดนั่นเอง

         ทั้งนี้  มีผู้เสียชีวิต 61 คน และบาดเจ็บอย่างน้อย 225 คนในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 45 ราย

          ขอไว้อาลัยแด่ผู้จากไปทุกชีวิต มา ณที่นี้

//////////

ขอขอบคุณข้อมูลจาก วิกิพีเดีย 

https://www.sanook.com/news/100841/

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ