ไม่ได้ต้องการบอกให้ใครจำแล้วทำตาม แต่ที่ต้องการคือย้ำเตือนทุกคนบนโลกใบนี้ว่า คนข้ามเพศก็มีหัวใจ!!
การฆ่าตัวตายของ (ลีลาห์ อัลคอร์น) วัย 17 ปี เมื่อวันนี้ของ 4 ปีก่อน ไม่ได้ต้องการบอกให้ใครจำแล้วทำตาม
แต่ให้จำแล้วสานต่อความมุ่งหวังของเธอ ที่ต้องการให้ความตายของตนเองย้ำเตือนทุกคนบนโลกใบนี้ว่า คนข้ามเพศก็มีหัวใจ!!
เพราะการกระทำอัตวินิบาตกรรมอันสะเทือนขวัญคนทั่วโลกด้วยการเดินให้รถบรรทุกพ่วงชนในช่วงเช้าของวันที่ 28 ธันวาคม 2557 ที่ รัฐโอไฮโอ สิ่งที่อัลคอร์นระบุในเว็บล็อก Tumblr ว่าสาเหตุที่ทำให้เธอฆ่าตัวตายมาจากการที่เธอรู้สึกว่าถูกบังคับและถูกกดดัน รวมถึงรู้สึกว่าคนรอบข้างไม่มีใครเข้าใจ
หลายคนยังคงมองว่านี่คือการเรียกร้องความสนใจของวัยรุ่นที่ผิดหวังกับชีวิตตนเองแค่นั้น หากแท้จริงแล้ว เธอต้องการสะกิดต่อชาวโลกถึงมาตรฐานทางสังคมที่มีผลกระทบต่อคนข้ามเพศ
https://www.dailymail.co.uk
และแสดงความหวังว่าการตายของเธอจะสร้างบทสนทนาเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติถูกละเมิดและขาดการสนับสนุนจากคนข้ามเพศ
แต่หากมุมหนึ่ง จะพูดว่าเธอผิดหวังในชีวิตก็คงไม่เถียง ย้อนไปดูประวัติและเรื่องราวของลีลาห์ จะพบว่าเธอช่างมีชีวิตที่น่าเห็นใจเป็นอันมาก หากไม่ใช่ในมุมที่เธอเกิดมาเป็นคนข้ามเพศ แต่เป็นมุมที่เธอผิดหวังต่อมวลมนุษยชาติ (บางคน) โดยเฉพาะอาจเป็นคนในครอบครัวเดียวกับเธอเองก็ได้
ลีลาห์ อัลคอร์น เกิดวันที่ 15 พฤศจิกายน 2540 ช่วงแรกเกิดชื่อจริงคือ "โจชัว ไรอัน อัลคอร์น"
ด.ช.โจชัวเติบโตในโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ในครอบครัวเคร่งศาสนาครอบครัวหนึ่ง ดังนั้น จึงไม่แปลกหากเธอจะถูกปฏิเสธจาก "คาร์ล่า" และ "ดั๊ก อัลคอร์น" พ่อและแม่ตนเอง พวกเขาชัดเจนในการปฏิเสธที่จะยอมรับอัตลักษณ์ทางเพศหญิงของเธอ
ช่วงที่โจชัวมีอายุได้ 16 ปี เขาขออนุญาตพ่อแม่ในการเข้าผ่าตัดแปลงเพศ แต่พวกเขาไม่เพียงปฏิเสธ แต่ยังพาลูกสาวในร่างชายของพวกเขาเองไปเข้าบำบัดรักษาทางศาสนาเพื่อให้เปลี่ยนใจและหันมายอมรับเพศกำเนิดของเธอเองให้ได้
ต่อมา หลังจากที่เธอเปิดเผยถึงตัวตนของตนเองให้เพื่อนร่วมชั้นรู้ พ่อแม่ก็ยังมาจับเธอย้ายออกจากโรงเรียน แถมยังตัดขาดไม่ให้โจชัวเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์อีกด้วย
สำหรับวัยรุ่น การไร้ตัวตนและขาดเพื่อนคือสิ่งเลวร้ายที่สุด ดังนั้น ในบันทึกการฆ่าตัวตายของอัลคอร์น จึงได้กล่าวถึงความอ้างว้าง และความแปลกแยกที่ตนเองต้องประสบ และมันคือเหตุผลสำคัญที่เธอได้ตัดสินใจที่จะจบชีวิตของตนเองด้วยการเดินพุ่งไปที่ทางหลวงอินเตอร์สเตต 71 ว่ากันว่าอัลคอร์นเดินจากบ้าน Kings Mill ของพ่อแม่สามถึงสี่ไมล์ก่อนที่จะถูกชนจนเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตในวันที่ 28 ธันวาคม 2014 อัลคอร์นกำหนดให้โน้ตฆ่าตัวตายของเธอถูกโพสต์โดยอัตโนมัติในบัญชี Tumblr ของเธอเวลา 17:30 น. หรือช่วงเย็นหลังจากเสียชีวิต
โดยเธอได้เขียนเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายของตนเอง และได้ลงชื่อว่า “Leelah Alcorn” ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นชื่อที่เธอเตรียมไว้หากได้รับการแปลงเพศ
อัลคอร์นระบุไว้ในบล็อกของตัวเองว่า เธอรู้สึกว่าตัวเองมี ‘เด็กผู้หญิง’ ถูกขังอยู่ในร่างเด็กผู้ชายของตัวเธอเองตั้งแต่อายุ 4 ปี และเมื่อเธอรู้จักคำว่า “คนข้ามเพศ” หรือ “transgender” ในตอนอายุ 14 ปี เธอก็มีความสุขมากที่ได้พ้นจากความสับสน แต่ครอบครัวของเธอกลับต่อต้านการแสดงออกแบบข้ามเพศโดยอ้างเรื่องศาสนา นอกจากนี้ ครอบครัวยังส่งเธอเข้ารับ “การบำบัดของชาวคริสต์” ซึ่งพยายามเปลี่ยนเธอให้กลับเป็นผู้มีจิตใจแบบเพศชายและทำให้เธอรู้สึกสิ้นหวัง
เธออธิบายตัวเองว่าถูกเลี้ยงดูในสภาพแวดล้อมแบบคริสเตียนที่อนุรักษ์นิยม เธอและครอบครัวของเธอเข้าร่วมคริสตจักรภาคตะวันออกเฉียงเหนือของพระคริสต์ในซินซินนาติ และที่จริงแล้วเธอเชื่อว่าพระเจ้าให้เธอเกิดมาเป็นผู้ชายแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น และสิ่งนี้ทำให้เธอเกลียดตัวเองและบอกว่าเธอพัฒนารูปแบบของภาวะซึมเศร้า
ในวันเกิดอายุ 16 ปี เธอขอพ่อแม่ผ่าตัดแปลงเพศ แต่เธอก็ผิดหวังเมื่อพวกเขาปฏิเสธ วันนั้นเธอร้องไห้จนหลับไป
หรือตอนที่พ่อแม่รู้สีกอับอายที่พบว่าเธอเปิดเผยตนเองต่อเพื่อนในร.ร.มัธยม เธอกล่าวว่า พวกเขารู้สึกเหมือนฉันกำลังฉีกหน้าของพวกเขา และฉันรู้สึกละอายแทนที่พวกเขาต้องการให้ฉันเป็นเด็กคริสเตียนตัวน้อยที่สมบูรณ์แบบและนั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการ”
https://abcnews.go.com/US/friends-react-ohio-transgender-teens-death/story?id=27925552
ในบันทึกตอนท้ายเธอกล่าวว่าว่า "หนทางเดียวที่ฉันจะตายตาหลับได้คือการที่วันหนึ่งคนข้ามเพศจะไม่ถูกกระทำอย่างที่ฉันโดนกระทำ พวกเขาจะถูกปฏิบัติอย่างเป็นมนุษย์ที่มีความรู้สึกและสิทธิมนุษยชน ควรมีการสอนเรื่องเพศสภาพในโรงเรียนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ได้โปรด แก้ไขสังคมด้วย"
ที่สุดเรื่องนี้ไปกระทบจิตใจใครหลายๆ คน จนนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน LGBT ได้ออกมาเรียกร้องให้ทุกคนจะตระหนักและให้ความสนใจต่อปัญหาที่เยาวชนข้ามเพศต้องเผชิญ
จนกระทั่ง วลี “แก้ไขสังคมด้วย” กลายเป็นวลีที่ผู้คนนำมาใช้เคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องการสร้างความเข้าใจในประเด็นคนข้ามเพศใหม่
มีการรณรงค์ล่ารายชื่อผ่านเว็บไซต์ change.org เพื่อเรียกร้องให้มีกฎหมายสั่งห้ามการบำบัดเพื่อเปลี่ยนแปลงคนข้ามเพศ โดยระบุว่าการบำบัดเพื่อเปลี่ยนแปลงคนข้ามเพศมีความพยายาม “ล้างสมอง” หรือเปลี่ยนแปลงอัตลักษณ์ทางเพศสภาพของเยาวชน ซึ่งถือเป็นอันตรายและขัดหลักจรรยาบรรณ
โดยมีคำยืนยันจากกลุ่มสมาคมด้านจิตวิทยาหลายกลุ่มระบุว่า การพยายามเปลี่ยนแปลงอัตลักษณ์ของวัยรุ่นข้ามเพศส่งผลเสียต่อตัววัยรุ่นเอง
จนกระทั่งมีการจัดตั้ง “กฎหมายลีลาห์” ซึ่งเป็นคำสั่งห้ามการแปลง หรือบำบัดคนข้ามเพศเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับการตอบรับจาก ประธานาธิบดี บารัก โอบามา ในขณะนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง