19 ธ.ค.2560 คนไทยสลดข่าวหมอปอ สิ้นใจจากน้ำมือคนรัก!?

          วันนี้เมื่อปีก่อน หรือตรงกับวันที่ 19 ธ.ค.2560 พาดหัวข่าวหน้า 1 ทุกฉบับที่ทำให้คนไทยต้องรู้สึกเศร้าสลดไปตามๆ กัน คือข่าวคราวของว่าที่เจ้าสาวคนหนึ่งที่ต้องมาจบชีวิตลงก่อนวันวิวาห์เพียงไม่กี่วัน

          เธอคือ “หมอปอ” น.ส.นนทิญา ครัวจัตุรัส อายุ 25 ปี พนักงานทันตกรรมสาธารณสุข รพ.สต.สลุย จ.ชุมพร ที่เจ้าหน้าที่ได้พบศพเธอในสภาพศพนุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีดำ เสื้อยืดคอกลมสีเทา ถูกจ่อยิงกลางหน้าอกด้วยปืนลูกซองเป็นรูพรุนนอนเสียชีวิตจมกองเลือด

          คนไทยต่างพากันติดตามข่าวคราวนี้อย่างเกาะติด จนกระทั่งมารับทราบพร้อมๆ กันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับคนร้ายได้ทันควันวันเดียวกันนั้นเอง

          แล้วก็ไม่ใช่น้ำมือใครที่ไหน แต่เป็นว่าที่เจ้าบ่าว หรือ แฟนหนุ่มของเธอเอง คือ นายรณชัย หรือ เก่ง อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่การไฟฟ้า โดยยอมจำนนพร้อมหลักฐาน

          งานนี้เจ้าตัวรับสารภาพว่า ได้หมดรักหมอปอไปแล้ว และไม่อยากที่จะเข้าพิธีแต่งงานกับผู้ตาย เนื่องจากตนนั้นมีความรักอยู่กับผู้หญิงสาวอีกคน ทำให้เกิดอารมณ์ชั่ววูบจึงตัดสินใจก่อเหตุ (http://www.komchadluek.net/news/crime/306445)

 

          เหตุการณ์นี้ ยิ่งทำให้คนไทยรู้สึกเศร้ายิ่งขึ้น เพราะเจ้าสาวต้องมาจากไปก่อนพิธีวิวาห์จะมีขึ้นในอีก 5 วันเท่านั้น โดยในการสอบสวนเบื้องต้น หากจำกันได้ ว่าที่เจ้าบ่าว นายรณชัย ปานชาติ หรือ เก่ง นั้นแรกเริ่มเขาได้ปฏิเสธ

          โดยยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแน่นอน แม้ว่าจะเคยมีปัญหาเรื่องที่ผู้ตายจับได้คาหนังคาเขาว่าตนแอบมีกิ๊ก วัย 23 ปี ซ่อนไว้ จนถึงขั้นผู้ตาย บุกไปต่อว่าฝ่ายชายและกิ๊กสาวอย่างรุนแรงก็ตาม

          จนกระทั่ง เมื่อตำรวจได้คุมตัวนายเก่ง ไปค้นยังบ้านพักใน อ.หลังสวน จ.ชุมพร และค้นหาอย่างละเอียดแล้ว จนพบหลักฐานสำคัญ คือชุดเสื้อผ้าที่มีลักษณะเหมือนกับคนร้ายที่กล้องวงจรปิดจับภาพได้ในช่วงก่อเหตุ รวมถึงหมวกไอ้โม่งก็ตรงกันด้วย

          เมื่อเห็นสิ่งของทั้งหมดนี้ นายเก่งจึงยอมจำนนด้วยหลักฐาน ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนบุกยิงว่าที่เจ้าสาวตายคามือจริง ด้วยเหตุไม่พอใจ ที่ “หมอปอ” ตามรังควาน บังคับให้เลิก แต่ด้วยฐานะกิ๊กสาวที่ดีกว่า และอายุน้อยกว่า ประกอบกับความรักยังหวานชื่นกว่า ก็เลยตัดสินใจชวนแฟนใหม่บุกยิงว่าที่เจ้าสาว เพราะไม่อยากแต่งงาน และหลังก่อเหตุกิ๊กสาวเป็นคนขับรถเก๋งมารอรับ ก่อนจะหลบหนีไป (อ่าน  "เก่ง"ต้องการล้มงานแต่ มูลเหตุฆ่า"หมอปอ" http://www.komchadluek.net/news/crime/306541)

 

 

          ต่อมา วันที่ 22 ธันวาคม 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.ชุมพร ได้ควบคุมตัว น.ส.นฤมล ช่วยสมบัติ อายุ 23 ปี พนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) สาขาหลังสวน ซึ่งข่าวระบุว่าเป็นกิ๊กสาวของนายเก่ง ไปสอบปากคำในคดีนี้

          โดยเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า การจับกุม น.ส.นฤมล เป็นไปตามหมายจับของศาลจังหวัดชุมพร ในข้อหา 1.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน 2.มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และ 3.พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ

          โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำ น.ส.นฤมล ในฐานะพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เพื่อสรุปเรียบเรียงเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นแต่ยังไม่ได้กันไว้เป็นพยานตามที่สื่อบางสำนักเสนอข่าว หลังจากนั้นจึงแสวงหาหลักฐานอื่นๆ และใช้กระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม

          จนสามารถสรุปได้ว่าคนร้ายที่คลุมหมวกไหมพรมไอ้โม่งสวมถุงมือเข้าไปก่อเหตุงัดบ้านแล้วใช้อาวุธปืนยิง หมอปอ จนเสียชีวิต คือ นายรณชัย หรือเก่ง ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานก่อนขออนุมัติหมายจับ น.ส.นฤมล เมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 ธันวาคม ที่ผ่านมา เมื่อศาลเห็นชอบจึงเข้าจับกุมในวันนี้ตามพยานหลักฐานที่มีอยู่ทั้งหมด

          ทั้งนี้ รายงานจากชุดสืบสวนแจ้งว่า น.ส.นฤมล ให้การยอมรับว่า ก่อนหน้านี้นายเก่งมาบอกว่าอยากได้ปืนเพื่อไว้ป้องกันตัว จึงพานายเก่งไปซื้ออาวุธปืน โดยเป็นคนออกเงินให้ในราคากระบอกละ 7,000 บาท ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร กระทั่งในวันเกิดเหตุนายเก่งมาบอกว่าให้ช่วยขับรถไปส่งที่ห้องพักหมอปอเนื่องจากต้องการเคลียร์ปัญหารักสามเส้าและเรื่องวันแต่งงานที่ใกล้มาถึง โดยได้ส่งนายเก่งลงด้านหน้าห้องพักแล้วขับรถไปจอดรอบริเวณใกล้เคียง

          จากนั้นอีกประมาณชั่วโมงกว่า นายเก่งได้เดินมาขึ้นรถ พร้อมให้พาไปที่คลองท่าตะเภา เพื่อนำอาวุธปืนไปทิ้ง กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตามจับกุมดังกล่าว

          ทั้งหมดแปลว่า น.ส.นฤมล ยืนยันว่าไม่ได้ร่วมวางแผนกับนายเก่งในการลงมือสังหารหมอปอ แต่หลังนายเก่งก่อเหตุได้ขับรถไปรับจึงทราบว่านายเก่งยิงหมอปอเสียชีวิตแล้ว

          ขณะที่ในที่สุด เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและนักประดาน้ำที่ค้นหาอาวุธปืนที่นายเก่งใช้ก่อเหตุยิงหมอปอเสียชีวิต และผู้ต้องหาให้การว่านำไปโยนทิ้งน้ำหลังก่อเหตุ ได้ระดมกำลังกันลงงมค้นหาอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวได้แล้ว เป็นอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ ไม่มีทะเบียน พร้อมปลอกกระสุน 1 นัด และหมวกไหมพรม (หน้ากากไอ้โม่ง) ที่นายเก่งใช้สวมในคืนที่ก่อเหตุด้วย โดยอาวุธปืนและหมวกไหมพรมถูกทิ้งไว้ที่คลองคดศอก หมู่ 8 ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ห่างจากที่เกิดเหตุ รพ.สต.สลุย 18 กิโลเมตร โดยพล.ต.ต.สนธิชัย ได้ไปร่วมตรวจสอบด้วยเพราะถือเป็นหลักฐานสำคัญในคดี (http://www.komchadluek.net/news/crime/306817)

 

 

          อย่างไรก็ดี ที่สุดแล้ววันที่ 28 กันยายน 2561 ศาลชั้นต้นจังหวัดชุมพร ได้มีการตัดสินคดีนี้ ต่อหน้า นายเชาว์ , นางสมศรี และนายบำรุง ครัวจัตุรัส พ่อแม่และพี่ชายของหมอปอ

          บทสรุปในศาลชั้นต้นคือ มีคำพิพากษา ตัดสินให้จำเลยที่ 1 และ 2 คือ นายรณชัย และนางสาวนฤมล กระทำความผิด โดยฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน โดยให้โทษประหาร

          แต่เนื่องจากทั้งสอง ยอมรับข้อกล่าวหาและให้การ ที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ศาลจึงลดหย่อนโทษให้ เป็นจำคุกตลอดชีวิต และชดใช้สินไหมทดแทน แด่ครอบครัวของหมอปอ โดยเป็นค่าใช้จ่ายในงานศพ เป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท และสินไหมทดแทนในส่วนของหมอปอ จำนวนเงิน 2,500,000 บาท

          เราคนไทยคงต้องติดตามกันต่อไปว่า ทางด้านจำเลยจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลหรือไม่แต่อย่างใด โดยข่าวยังระบุว่า ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตก็จะยืนยันคัดค้านการยื่นอุทธรณ์ของทางฝั่งจำเลยอย่างถึงที่สุด (http://www.komchadluek.net/news/local/345794)

 

 

          อนึ่ง ในที่สุด ทางครอบครัวหมอปอ อันมี นายเชาว์ นางสมศรี นายบำรุง ครัวจัตุรัส พ่อ แม่ และ พี่ชาย ของหมอปอ รวมทั้งญาติๆ ได้ร่วมกันเคลื่อนศพของหมอปอไปยังเมรุวัดถ้ำฤๅษี หมู่ 8 ต.เขาทะลุ อ.สวี เพื่อประกอบพิธีฌาปนกิจศพในเวลา 13.00 น. ของวันที่ 28 ธ.ค.2562 จากที่เดิมที กำหนดไว้ว่าจะจัดพิธีดังกล่าวในวันที่ 25 ธ.ค. 2560 ซึ่งเป็นวันวิวาห์ของหมอปอ กับ นายเก่ง

          ทั้งนี้ ในวันนั้น มารดาของหมอปอกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า คิดถึงหมอปอเหมือนหัวใจตนจะขาดอยู่ตลอดเวลา อยากให้ลูกไปอยู่ในที่สุข อย่าได้อาฆาตแค้นผู้ที่ก่อกรรมในครั้งนี้ ขอให้อโหสิกรรมแก่กันเพื่อจะได้หมดกรรม เกิดมาในชาติต่อไปจะได้ไม่ต้องจองเวรต่อกันอีก