วันนี้ในอดีต

13 ธ.ค.2546 หมดสภาพผู้ยิ่งใหญ่ "ซัดดัม" ถูกจับคารู

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แต่ความเป็นซัดดัม ได้ทำให้ในที่สุด เขาก็ถูกจับกุมและถอดออกจากตำแหน่ง โดยกองกำลังนานาชาติซึ่งนำโดยสหรัฐอเมริกา ในช่วงสงครามอิรัก

          อย่างที่รู้กันว่า ผู้ยิ่งใหญ่แห่งแดนอิรัก ซัดดัม ฮุสเซน หรือ ศ็อดดาม ฮุเซน อับดุลมะญีด อัลตีกรีตี กลายเป็นอดีตไปแล้วเพราะเขาได้ถูกตัดสินแขวนคอลาโลกไปแล้วช่วงปี 2549 

        แต่เรื่องราวชีวิตของเขา นับเป็นอีกฉากหนึ่งของชีวิตคนๆ หนึ่ง จะเกิดและเติบโตและเป็นในสิ่งที่เป็นได้

 

13 ธ.ค.2546  หมดสภาพผู้ยิ่งใหญ่  "ซัดดัม" ถูกจับคารู

          ซัดดัมเป็นอดีตประธานาธิบดีของอิรัก ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 แต่ความเป็นซัดดัม ได้ทำให้ในที่สุด เขาก็ถูกจับกุมและถอดออกจากตำแหน่ง โดยกองกำลังนานาชาติซึ่งนำโดยสหรัฐอเมริกา ในช่วงสงครามอิรัก ซึ่งเหตุการณ์การจับกุมตัวเขานั้นเกิดขึ้นเมื่อวันนี้ของ 15 ปีก่อน หรือวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2546 ในขณะที่ซ่อนตัวอยู่ในหลุมขนาดเล็ก ในฟาร์มแห่งหนึ่งชานเมืองติกรีต หลังจากรู้ตัวแล้วว่า กองกำลังสหรัฐย่างกรายมาถึงตัวเขาแล้ว!

          ประวัติของซัดดัมนั้น เขาเกิดที่เมืองเอาญะห์ ห่างจากเมืองตีกรีต 13 กิโลเมตร ในครอบครัวของคนเลี้ยงแกะ แม่ชื่อ ศุบฮะห์ ตุลฟะห์ ตั้งชื่อให้ว่า “ศ็อดดาม” ซึ่งแปลว่า “ชนแหลก” ในภาษาอาหรับ ฮุเซน อับดุลมาญิด พ่อของซัดดัม หายตัวไปก่อนที่ซัดดัมเกิด 6 เดือน

 

13 ธ.ค.2546  หมดสภาพผู้ยิ่งใหญ่  "ซัดดัม" ถูกจับคารู

 

          หลังจากนั้นไม่นาน พี่ชายวัย 13 ขวบของซัดดัมก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง แม่ของซัดดัมเศร้าโศกเสียใจเป็นอันมาก และปฏิเสธที่จะเลี้ยงดูซัดดัมเมื่อแรกเกิด

          ซัดดัมจึงถูกส่งไปอยู่กับ ค่อยรุลลอห์ ตุลฟะห์ พี่ชายของแม่จนกระทั่งอายุ 3 ปี แม่ของซัดดัมแต่งงานใหม่ และมีลูกอีกสามคน พ่อเลี้ยงของซัดดัมปฏิบัติต่อซัดดัมแย่มากหลังจากที่ซัดดัมกลับไปอยู่ด้วย

          เมื่อซัดดัมอายุราว 10 ปี เขาก็ย้ายกลับไปอยู่กับลุงอีกครั้ง ค่อยรุลลอห์ ตุลฟะห์ เป็นชาวมุสลิมนิกายสุหนี่ที่เคร่งศาสนา และเคยผ่านสงครามระหว่างอิรักและสหราชอาณาจักรในปีพ.ศ. 2484

          บุคคลผู้นี้ภายหลังกลายเป็นที่ปรึกษาที่ใกล้ชิดกับซัดดัมมาก ซัดดัมเข้าเรียนระดับมัธยมศึกษาในแบกแดดตามคำแนะนำของลุง ซัดดัมเข้าศึกษานิติศาสตร์อยู่สามปี ในปีพ.ศ. 2500 ก่อนจะออกจากวิทยาลัยไปเข้าร่วมพรรคบะอัธซึ่งลุงของเขาสนับสนุน

          1 ปี หลังจากซัดดัมเข้าร่วมพรรคบะอัธ กลุ่มทหารซึ่งนำโดย นายพลอับดุลกะรีม กอซีม ได้ยึดอำนาจจากกษัตริย์ฟัยศ็อลที่ 2 พรรคบะอัธต่อต้านรัฐบาลใหม่

          ในปี พ.ศ. 2502 ซัดดัมเข้าร่วมในการสังหารนายกรัฐมนตรี กอซีม แต่ไม่สำเร็จ ซัดดัมได้รับบาดเจ็บและหนีไปซ่อนตัวอยู่ในซีเรียและอียิปต์ โดยซัดดัมถูกลงโทษประหารชีวิต

 

13 ธ.ค.2546  หมดสภาพผู้ยิ่งใหญ่  "ซัดดัม" ถูกจับคารู

 

          อย่างไรก็ดี พ.ศ. 2506 กอซิมถูกยึดอำนาจจากการก่อรัฐประหาร ซึ่งพรรคบะอัธร่วมสนับสนุน อับดุล ซาลัม อาริฟ ขึ้นเป็นประธานาธิบดี และพรรคบะอัธได้ร่วมคณะรัฐมนตรี

          ในช่วงนี้ซัดดัมแต่งงานกับ ซาญิดะห์ ตุลฟะห์ ลูกของลุง ต่อมาอารีฟขัดแย้งกับพรรคบะอัธ และขับออกจากรัฐบาล ซัดดัมถูกจับในปีพ.ศ. 2507

          พรรคบะอัธขึ้นมามีอำนาจในปี พ.ศ. 2511 หลังจากที่ก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากอาริฟ อะฮ์มัด อัลบะกัร ขึ้นเป็นประธานาธิบดี และซัดดัมได้รับตำแหน่งรองประธานาธิบดี

          ในปี พ.ศ. 2519 ซัดดัมได้รับตำแหน่งนายพลในกองทัพอิรัก ซัดดัมเริ่มมีอิทธิพลในรัฐบาลสูงขึ้นเรื่อยๆ ซัดดัมเป็นผู้วางแผนนโยบาลการต่างประเทศ และเป็นตัวแทนในพิธีทางการทูตต่างๆ

          หลังจากที่กุมอำนาจอยู่เบื้องหลังมา 11 ปี ซัดดัมขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2522 หลังจากนั้นไม่นาน สมาชิกพรรคบะอัธ 22 คนถูกสั่งประหารชีวิตในข้อหากบฏ

          ซัดดัมพัฒนาประเทศให้ทันสมัย โดยมีการให้เสรีภาพสตรีที่เพิ่มขึ้น และให้งานตำแหน่งสูงๆ ในรัฐบาลและอุตสาหกรรม ซัดดัมยังสร้างระบบกฎหมายแบบตะวันตก ทำให้อิรักเป็นประเทศเดียวในอ่าวเปอร์เซียที่ไม่ได้ปกครองด้วยกฎหมายอิสลาม (ชาเรีย)

          ซัดดัมสร้างลัทธิชาตินิยมอิรัก บ่อยครั้งที่เขาเอ่ยถึงยุคสมัยอับบาซียุน ซึ่งแบกแดดเป็นศูนย์กลางทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของโลกอาหรับ เขายังเน้นบทบาทของอิรักในยุคก่อนศาสนาอิสลามในฐานะเมโสโปเตเมีย ซึ่งเป็นอารยธรรมเก่าแก่สมัยโบราณ โดยกล่าวโดยอ้อมไปถึงผู้นำสมัยโบราณอย่างพระเจ้านาบูชาเดรซซาที่ 2 และพระเจ้าฮัมบูราบี

          ซัดดัมทุ่มเททรัพยากรให้กับการค้นคว้าทางโบราณคดี เขายังได้พยายามรวมลัทธิแพนอาหรับกับชาตินิยมอิรัก ด้วยการสนับสนุนภาพของโลกอาหรับที่รวมเป็นหนึ่งเดียวภายใต้การนำของอิรัก ความนิยมตัวผู้นำซัดดัมกระจายทั่วสังคมอิรัก ภาพของซัดดัมปรากฏทั่วไปทั้งบนอาคาร โรงเรียน สนามบิน ร้านค้าต่างๆ เช่นเดียวกับบนเงินตราของอิรัก

          ซัดดัมได้จัดตั้งกองกำลังรักษาความมั่นคง เพื่ออุดหนุนอำนาจของเขาในการควบคุมรัฐบาลอิรักไว้ ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1970 ราคาน้ำมันปิโตรเลียมที่พุ่งสูงขึ้นได้ช่วยให้เศรษฐกิจอิรักเติบโตขึ้นเป็นอย่างมากและในอัตราที่สม่ำเสมอ

 

13 ธ.ค.2546  หมดสภาพผู้ยิ่งใหญ่  "ซัดดัม" ถูกจับคารู

 

          ในฐานะประธานาธิบดี ซัดดัมได้พัฒนาลัทธินิยมตัวผู้นำอย่างบ้าคลั่ง ปกครองรัฐบาลเผด็จการ และกุมอำนาจไว้ได้ในช่วงสงครามอิรัก-อิหร่าน (ระหว่างปี พ.ศ. 2523 - 2531) ในช่วงสงครามอ่าวเปอร์เซีย (พ.ศ. 2534) ซึ่งทำให้อิรักทรุดโทรม ทำลายทั้งมาตรฐานการครองชีพและสิทธิมนุษยชน รัฐบาลของซัดดัมได้จัดการกับการเคลื่อนไหวที่มีแนวโน้มเป็นภัยคุกคาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากพวกชนกลุ่มน้อย หรือกลุ่มทางศาสนาที่ต้องการเรียกร้องอิสรภาพ หรือการปกครองตนเอง

          ในระหว่างที่ยังคงเป็นวีรบุรุษที่ประชาชนชื่นชม โดดเด่นในหมู่ผู้นำอาหรับอื่นๆ ในฐานะผู้ที่ลุกขึ้นต่อต้านสหรัฐ และให้การสนับสนุนปาเลสไตน์ ภายหลังสงครามอ่าวเปอร์เซีย สหรัฐอเมริกาและชาติอื่นๆ ในประชาคมโลก ยังคงเฝ้าระวังจับตามองซัดดัมด้วยความหวาดระแวงว่ามีอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงไว้ในครอบครอง           ที่สุด ซัดดัมได้ถูกถอดถอนโดยสหรัฐและฝ่ายพันธมิตรในการบุกอิรักเมื่อปี พ.ศ. 2546 ถูกจับกุมโดยกองกำลังสหรัฐเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2546 ในขณะที่ซ่อนตัวอยู่ในหลุมขนาดเล็ก ในฟาร์มแห่งหนึ่งชานเมืองติกรีต เขาขึ้นต่อสู้คดีในศาลพิเศษอิรักที่จัดตั้งขึ้นโดยรัฐบาลชั่วคราวของอิรัก

 

13 ธ.ค.2546  หมดสภาพผู้ยิ่งใหญ่  "ซัดดัม" ถูกจับคารู

 

          กระทั่งวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2547 ซัดดัมและสมาชิกระดับสูงของพรรคบะอัธอีก 11 คน ซึ่งในขณะนั้นอยู่ในความควบคุมของกองทัพสหรัฐฯ ได้ถูกส่งมอบทางอำนาจทางกฎหมายให้กับรัฐบาลชั่วคราวของอิรัก เพื่อนำตัวเข้ารับการไต่สวนในข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

          ซัดดัมถูกตั้งข้อหาโดยศาลพิเศษ ในการก่ออาชญากรรมต่อชาวเมืองดูเญล ในปีพ.ศ. 2525 ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากความพยายามสังหารซัดดัมที่เมืองนั้นไม่สำเร็จ ข้อกล่าวหาประกอบไปด้วยการฆาตกรรมคน 148 คน การทรมานผู้หญิงและเด็ก และการจับกุม 399 คนอย่างไม่ถูกกฎหมาย

 

13 ธ.ค.2546  หมดสภาพผู้ยิ่งใหญ่  "ซัดดัม" ถูกจับคารู

          และในวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 ซัดดัม ฮุสเซนถูกศาลตัดสินว่ามีความผิด และถูกตัดสินประหารชีวิตโดยการแขวนคอ

          ซัดดัมถูกประหารชีวิตโดยการแขวนคอในวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2549 ท่ามกลางสายตาของชาวโลก

          เป็นอันปิดฉากผู้ยิ่งใหญ่แห่งแดนอิรักแต่เพียงเท่านั้น

///////////

ขอบคุณข้อมูลทั้งหมดโดย วิกิพีเดีย

https://en.wikipedia.org/wiki/Saddam_Hussein

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ