หลังพ้นจากตำแหน่ง กันยาได้เข้าทำงานเป็นเจ้าหน้าที่หอสมุดแห่งชาติ และที่นี่เองที่เธอได้พบกับรักแท้ กับชายผู้เป็นหนึ่งเดียวในชีวิต !
ช่วงนี้กระแสการประกวด นางงามจักรวาล 2018 Miss Universe 2018 กำลังมาแรง โดยเฉพาะปีนี้เป็นการจัดประกวดนางงามจักรวาลครั้งที่ 67
มีกำหนดจัดในวันที่ 17 ธันวาคม 2562 ณ อิมแพ็ค อารีน่า นนทบุรี ประเทศไทย โดยเดมี-ลีห์ เนล-ปีเตอร์ จาก แอฟริกาใต้ จะสวมมงกุฎให้แก่นางงามจักรวาลคนต่อไป
ก็เลยทำให้นึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ของ 84 ปีก่อน ที่ประเทศสยามในชื่อเดิม ได้มีการจัดการประกวดนางสาวสยามขึ้นมาเป็นครั้งแรก ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็นนางสาวไทยในภายหลัง
และผู้ที่มงลงในวันนั้นคือ "กันยา เทียนสว่าง" สาวงามวัย 21 ปี ซึ่งมีอาชีพเป็นครูโรงเรียนประชาบาลทารกานุเคราะห์
ทั้งนี้ ที่มาของการจัดประกวดครั้งนั้น ในปี พ.ศ. 2477 มีว่า กระทรวงมหาดไทย ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประกวด “นางสาวสยาม“ ขึ้นเป็นครั้งแรก ณ บริเวณ อุทยานสราญรมย์ เพื่อเฟ้นหาหญิงสาวที่สวยที่สุดในประเทศนี้ และเป็นส่วนหนึ่งของการฉลองรัฐธรรมนูญ (ฉบับ พ.ศ. 2475)
และเพราะเป็นการประกวดครั้งแรก ปรากฏว่ามีสาวงามมาขึ้นเวทีประชันโฉมในพระนครกันมากมายเกือบทุกจังหวัด
สมัยนั้น ยังไม่มีชุดว่ายน้ำ การประกวดเน้นความงามแบบเรียบร้อย ดังนั้น ผู้เข้าประกวดแต่งกายด้วยชุดไทยห่มสไบเฉียง นุ่งซิ่นยาวกรอมเท้า
ภาพนางงามในอดีต (เครดิต http://www.t-pageant.com/)
ต่อมาในช่วงหลัง ถึงได้มีการปรับไปตามความเหมาะสม และปรับให้ทันสมัยน่าสนใจยิ่งขึ้น เช่นปี พ.ศ. 2482 มีการปลี่ยนเป็นชุดเสื้อกระโปรงติดกัน ตัดเย็บด้วยผ้าไหมของไทย เสื้อเปิดหลัง กางเกง กระโปรงยาวถึงเข่า หรือมีการสวมใส่ชุดกีฬา กางเกงขาสั้น เสื้อแขนกุดเปิดหลังในปีถัดมา
และปีแรกนั้นเอง ได้มีสุภาพสตรีมาประกวดถึง 50 คน สมัยก่อน การประกวดกินเวลาหลายวันเหมือนกัน โดยมีการเดินอวดความงามตั้งแต่คืนวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2477
จนกระทั่งมาถึงวันติดสินในคืนวันที่ 12 ธันวาคม นางสาวกันยา เทียนสว่าง วัย 21 ปี ครูโรงเรียนประชาบาลทารกานุเคราะห์ในชุดราตรียาวสีตะกั่วตัดสามารถชนะใจกรรมการ ได้ครองตำแหน่ง “นางสาวสยาม” เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์
อย่างที่รู้กันว่า การจัดประกวดนางสาวสยามครั้งแรกนี้ เปรียบเทียบเหมือนเป็นงานอีเว้นท์เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในงานฉลองรัฐธรรมนูญที่ทางรัฐบาลจัดขึ้น โดยในปี พ.ศ. 2477 นับเป็นการเฉลิมฉลองรัฐธรรมนูญปีที่สอง
แต่พอเพิ่มการประกวดความงามขึ้นมาในปีนี้ ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากประชาชนมากที่สุด ด้วยเป็นเรื่องใหม่ของประเทศที่ไ่ม่เคยมีมาก่อน
ช่วงนั้นข่าวคราวทางหน้าหนังสือพิมพ์ลงข่าวคราวการประกวดในครั้งนี้อย่างต่อเนื่อง เกาะติด โดยคณะกรรมการจัดงาน ประกอบด้วยบุคคลที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น
และในส่วนของคณะกรรมการตัดสิน ก็เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับ ได้แก่ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา และ เจ้าพระยารามราฆพ เป็นต้น
ทั้งนี้ ที่จริง กันยา เทียนสว่าง ได้ตำแหน่งนางสาวพระนคร มาก่อนในคืนวันที่ 9 ธันวาคม จากนั้น จึงเป็นตัวแทนจังหวัดพระนครเข้าประกวดนางสาวสยามในคืนวันที่ 10 ธันวาคม และตัดสินในคืนวันที่ 12 ธันวาคม
เครดิตภาพ http://www.t-pageant.com/
รางวัลที่ได้มีมงกุฎ ทำด้วยผ้ากำมะหยี่ปักดิ้นเงิน ประดับโครงเงินและเพชร (ภายหลังสูญหายไป เนื่องจากถูกขโมย ตั้งแต่สมัยก่อนที่เธอจะแต่งงาน) ขันเงินสลักชื่อ “นางสาวสยาม ๗๗” ล็อกเก็ตห้อยคอทองคำ(ในภาพ) เข็มกลัดทองคำลงยา อักษรว่า “รัฐธรรมนูญ ๗๗” และเงินสด 1,000 บาท แต่เงินนั้น ทางรัฐบาลขอรับบริจาคเพื่อบำรุงการทหาร
ก็นับว่าเป็นเกียรติประวัติ อันน่าภูมิใจอย่างหาที่สุดมิได้ แต่นั่นเป็นเพียงฉากหนึ่งของชีวิตของสาวน้อยผู้นี้ เพราะเมื่อค้นไปในประวัติ กลับพบว่าชีวิตของ "กันยา เทียนสว่าง" ช่างดราม่าหลากรสชาติยิ่งนัก
กันยา เทียนสว่าง มีชื่อสกุลเดิมว่า เจียเป็งเซ็ง มีชื่อเล่นว่า “ลูซิล” เป็นธิดาของ สละ เทียนสว่าง และ สนอม เทียนสว่าง ซึ่งแม่มีเชื้อสายมอญ โดยบิดาของกันยาทำงานเป็นนายท่าเรืออยู่ที่ท่าเขียวไข่กา บางกระบือ พระนคร
อย่างที่รู้ว่าสาวมอญนั้นงามนัก กันยาก็เช่นกัน เธอเป็นสาวที่มีใบหน้าคมค่อนไปทางฝรั่ง จมูกโด่ง ผิวสองสีค่อนไปทางขาว สูงสมส่วน สวยงามตามแบบสาวมอญที่หลายคนฝันถึง
เครดิตภาพ หนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ ดร.สุจิต หิรัญพฤกษ์ และฌาปนกิจศพ นางกันยา ( เทียนสว่าง ) หิรัญพฤกษ์
เผยแพร่โดย www.moomnangsue.com
กันยาเกิดเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2457 ที่บ้านปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เป็นลูกคนโตในพี่น้องทั้งหมด 5 คน และด้วยเหตุที่หน้าตาคมคาย จมูกโด่งเหมือนฝรั่ง พ่อแม่จึงตั้งชื่อให้ว่า “ลูซิล”
ลูซิลได้รับการศึกษาจากโรงเรียนวัดสังเวช โรงเรียนราชินี และโรงเรียนสตรีวิทยา จนเมื่ออายุ 10 ปีบิดามารดาก็มาจากไป กำพร้าตั้งแต่อายุยังน้อย เธอจึงได้ไปอยู่ในความอุปการะของน้าชาย หรือ พลโทไสว ดวงมณี โดยย้ายมาอยู่ที่บ้านนามบัญญัติของคุณยาย หรือ คุณย่ายิ่ง สังขตุลย์ ภรรยาของพระพิจิตรจำนง (แจง สังขตุลย์)
เครดิตภาพ http://www.t-pageant.com/
แน่นอนกันยาจึงได้รับการศึกษาเล่าเรียนเป็นอย่างดี ทั้งยั้งเป็นเด็กที่มีความมานะอดทนตั้งใจศึกษาเล่าเรียน และประพฤติตนอยู่ในโอวาทและเป็นหลานที่ดี
หากที่สุด กันยาตัดสินใจเข้าประกวดนางสาวสยามเมื่อมีอายุ 21 ปี โดยขณะนั้นทำงานเป็นครูอยู่ในโรงเรียนประชาบาลทารกานุเคราะห์ ได้ 4 ปีแล้ว
ว่ากันว่า กันยาเข้าประกวดโดยไม่ได้บอกครอบครัวและญาติผู้ใหญ่ ดังนั้นแม้กันยาจะได้รับตำแหน่งนางสาวสยามมา แต่ทางญาติผู้ใหญ่ก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะสำหรับคนเชื้อสายมอญ ถือเรื่องศักดิ์ศรี และถือว่าการกระทำเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องน่าอับอายสำหรับพวกเขา
อย่างไรก็ดี หลังพ้นจากตำแหน่ง กันยาได้เข้าทำงานเป็นเจ้าหน้าที่หอสมุดแห่งชาติ และที่นี่เองที่เธอได้พบกับรักแท้ กับชายผู้เป็นหนึ่งเดียวในชีวิต “ดร.สุจิต หิรัญพฤกษ์” โดยขณะนั้นทำงานอยู่กระทรวงต่างประเทศ
เครดิตภาพ หนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ ดร.สุจิต หิรัญพฤกษ์ และฌาปนกิจศพ นางกันยา ( เทียนสว่าง ) หิรัญพฤกษ์
เผยแพร่โดย www.moomnangsue.com
ทั้งคู่รักกันจนกระทั่งเข้าพิธีแต่งงานกันในวันที่เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2486 โดยมี ดิเรก ชัยนาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ผู้บังคับบัญชาของฝ่ายชายเป็นเจ้าภาพ ณ บ้านพักของท่าน
ตามข้อมูลระบุว่า ชีวิตการครองคู่ของนางสาวสยามคนแรก เต็มไปด้วยความรักความเข้าใจอันดีระหว่างกันและกัน ที่สุดทั้งสองก็มีโซ่ทองคล้องใจถึง 5 คน คือ สุกันยา (นิมมานเหมินท์), ทินกร, สุจิตรา, สุวิชา และ สุชาติ
เครดิตภาพ หนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ ดร.สุจิต หิรัญพฤกษ์ และฌาปนกิจศพ นางกันยา ( เทียนสว่าง ) หิรัญพฤกษ์
เผยแพร่โดย www.moomnangsue.com
จนกระทั่ง เวลาต่อมาสามีของเธอได้เป็นสมาชิกผู้แทนราษฎรจังหวัดปทุมธานี เป็นผู้ร่วมคณะผู้แทนไทยในการนำประเทศเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติ และร่วมประชุมสมัชชาใหญ่เป็นครั้งแรก เป็นโฆษกฝ่ายไทยประจำสำนักงานใหญ่ องค์การสหประชาชาติ และครอบครัวเธอดำเนินธุรกิจ บริษัท นาคาไข่มุก ทำกิจการเพาะเลี้ยงไข่มุกที่เกาะนาคา จังหวัดภูเก็ต
เส้นทางทั้งหมดนี้ ล้วนเต็มไปด้วยความสุข สมหวัง ทั้งยังมากมีด้วยทรัพย์สินเงินทอง หากชีวิตคนเราดังปริศนา!
ที่สุด กันยา (เทียนสว่าง) หิรัญพฤกษ์ ได้ป่วยด้วยโรคมะเร็งในมดลูก เธอเดินทางไปรักษาตัวที่เยอรมันเพื่อทดลองยาที่เพิ่งค้นพบใหม่ ด้วยความหวังกำลังใจจะหายจากโรคร้าย
แต่อนิจจา โรคร้ายที่ว่าร้ายกาจแล้ว ยังมีปัญหาถาโถมเข้ามาในเส้นทางการเมืองของสามี ที่ต้องประสบมรสุมพายุใหญ่า ช่วงเดือนเมษายน พ.ศ. 2502 กรณีมีข่าวว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังทุจริตเรื่องการพิมพ์ธนบัตร
เครดิต http://khunmaebook.tarad.com/product.detail_646347_th_7205357
และด้วยเหตุที่สามีของเธอเป็นเลขานุการรัฐมนตรีฯ ทำให้กันยารู้ชะตาชีวิตตนเองว่าไม่มีโอกาสได้รักษาต่อไปแล้ว เธอจึงกลับมาเป็นขวัญกำลังใจเคียงข้างคู่ชีวิต
และแม้ว่าในภายหลังผลการสอบสวนจะไม่พบการกระทำผิด เพราะเนื่องจากเป็นเรื่องของการเมืองในขณะนั้น แต่กว่าศาลฎีกาจะพิพากษาก็ลุเข้าวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2508 ซึ่งแปลว่า กันยามิได้มีโอกาสเห็นสามีผู้เป็นที่รักของเธอพ้นมลทิน
นั่นก็เพราะ ก่อนหน้านั้น 5 ปี กันยา หิรัญพฤกษ์ ไก้ลาโกลไปแล้วตั้งวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2503 ด้วยวัยเพียง 46 ปีเท่านั้น
ร่างของเธอถูกเก็บไว้ ณ สุสานวัดมกุฏกษัตริยาราม ไว้นานถึง 21 ปี เพื่อรอการฌาปนกิจพร้อมกับการพระราชทานเพลิงศพ ดร.สุจิต คู่ชีวิตผู้เป็นที่รักเมื่อ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2524
นับเป็นอีกรักแท้ที่น่าจดจำ!!
***************//***************
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก
วิกิพีเดีย
http://www.t-pageant.com/
www.moomnangsue.com
http://khunmaebook.tarad.com/product.detail_646347_th_7205357
ข่าวที่เกี่ยวข้อง