วันนี้ในอดีต

12 พ.ย. 2539 ได้ไง? ชนกันกลางอากาศ ดับหมดยกสองลำ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

      ก่อนที่แสงสว่างนั้นจะแยกออกเป็นลูกไฟสองลูกและแผ่ขยายออกเป็นวงกว้างเมื่อเครื่องบินทั้งสองลำตกถึงพื้น

          เหตุการณ์ที่จะเล่าต่อไปนี้ แม้จะเป็นพิบัติภัยที่เกิดขึ้นนอกประเทศของเรา แต่ก็นับเป็นเรื่องใกล้ตัวไม่น้อย เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอุบัติภัยทางอากาศ 

          โดยวันนี้ของเมื่อ 22 ปีก่อน หรือเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 ได้เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินชนกันกลางอากาศที่ประเทศอินเดีย

          โดยลำหนึ่ง เป็นเครื่องบินโดยสารที่เดินทางจาก “คาซัคสถาน” และกำลังจะลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติ “อินทิรา คานธี” กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย

          เกิดชนกันกับเครื่องบินโดยสารอีกลำหนึ่งคือสายการบินของซาอุฯ ที่ขึ้นบินจากท่าอากาศยานเดียว ปลายทางคือ “ซาอุดีอาระเบีย”

          โดยตำแหน่งที่เกิดอุบัติเหตุอยู่ใกล้กับเมืองจรรขีทาทรี รัฐหรยาณา ประเทศอินเดีย เหตุการณ์นี้จึงเป็นที่รู้จักกันในภาษาอังกฤษว่า “เหตุเครื่องบินชนกันกลางอากาศที่จรรขีทาทรี”

          ผลคือ ผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่องบินทั้งสองลำรวมทั้งสิ้น 349 คนเสียชีวิตทั้งหมด!!

          นั่นจึงทำให้เหตุการณ์นี้ ถือเป็นอุบัติเหตุเครื่องบินชนกันกลางอากาศที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลก เป็นอุบัติเหตุทางการบินที่ร้ายแรงที่สุดในประเทศอินเดีย และเป็นอุบัติเหตุทางการบินที่ร้ายแรงที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ในโลก รองจากเหตุการณ์เครื่องบินชนกันที่ท่าอากาศยานเตเนริเฟในหมู่เกาะคะแนรี ประเทศสเปนในปี พ.ศ. 2520 และอุบัติเหตุเจแปนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 123 ตกที่ประเทศญี่ปุ่นในปี พ.ศ. 2528

          สำหรับเหตุการณ์นี้ เครื่องลำหนึ่งเป็นเครื่องบินโบอิง 747 ของสายการบินซาอุดีอาระเบียนแอร์ไลน์ หรือเที่ยวบินที่ 763 

12 พ.ย. 2539  ได้ไง? ชนกันกลางอากาศ  ดับหมดยกสองลำ

เที่ยวบินที่ 763 เครื่องบินโบอิง 747-168บี ของสายการบินซาอุดีอาระเบียนแอร์ไลน์หมายเลขทะเบียน HZ-AIA ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับลำที่เกิดเหตุ

          ส่วนอีกลำหนึ่ง คือ เครื่องบินอิลยูชิน อิล-76 ของสายการบินคาซัคสถานแอร์ไลน์ หรือ เที่ยวบินที่ 1907

          รายละเอียดของเครื่องบินทั้งสองเที่ยวบินนี้ คือ เที่ยวบินที่ 763 เป็นเที่ยวบินเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย โดยมีกำหนดลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติอัซเซาะฮ์รอน เมืองอัซเซาะฮ์รอน ทางตะวันออกของประเทศซาอุดีอาระเบีย ก่อนจะเดินทางต่อไปยังท่าอากาศยานนานาชาติสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลอะซีซ เมืองญิดดะฮ์ ทางตะวันตกของซาอุดีอาระเบีย

          โดยใช้เครื่องบินโบอิง 747-168 บี หมายเลขทะเบียน HZ-AIH ขณะที่เกิดเหตุเครื่องบินลำนี้มีอายุ 14 ปี 10 เดือน มีผู้โดยสารบนเครื่องบินลำนี้ 289 คน และลูกเรือ 23 คน

          ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวอินเดีย ซึ่งเดินทางไปทำงานหรือไปแสวงบุญที่ซาอุดีอาระเบีย และมีชาวต่างชาตินอกเหนือจากอินเดียและซาอุดีอาระเบียอยู่ด้วย 17 คน

          ส่วน เที่ยวบินที่ 1907 เป็นเที่ยวบินเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติชิมเคนต์ เมืองชิมเคนต์ ทางตอนใต้ของประเทศคาซัคสถาน มายังท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี กรุงนิวเดลี

12 พ.ย. 2539  ได้ไง? ชนกันกลางอากาศ  ดับหมดยกสองลำ

เที่ยวบินที่ 1907เครื่องบินอิลยูชิน อิล-76ทีดี ของสายการบินคาซัคสถานแอร์ไลน์ลำที่เกิดเหตุ

          โดยใช้เครื่องบินอิลยูชิน อิล-76ทีดี หมายเลขทะเบียน UN-76435 โดยขณะเกิดเหตุเครื่องบินลำนี้มีอายุ 4 ปี ในรายงานข่าวแต่แรกนั้นระบุว่ามีคนบนเครื่องบินทั้งหมด 39 คน

          อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของสายการบินคาซัคสถานแอร์ไลน์ได้แจ้งว่ามีคนบนเครื่องบินเพียง 37 คน โดยเป็นลูกเรือ 10 คน และผู้โดยสาร 27 คน

          ซึ่งเที่ยวบินนี้เป็นเที่ยวบินเหมาลำ โดยมีบริษัทเสื้อผ้าแห่งหนึ่งในประเทศคีร์กีซสถานเป็นผู้เช่า ผู้โดยสาร 13 คนบนเครื่องบินลำนี้ถือสัญชาติคีร์กีซ

          ในส่วนของมหันตภัย มัจจุราชมาเยือนนั้น มีว่า ระหว่างที่ คาซัคสถานแอร์ไลน์เที่ยวบินที่ 1907 ใกล้ถึงท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศของเดลีตามปกติ ซึ่งเจ้าหน้าที่สั่งให้เที่ยวบินที่ 1907 ลดระดับลงมาที่ 15,000 ฟุต

          หากแต่ในขณะนั้น ซาอุดีอาระเบียนแอร์ไลน์เที่ยวบินที่ 763 ก็ได้ทำการขึ้นบินจากท่าอากาศยาน และมุ่งหน้าไปในเส้นทางบินเดียวกัน ซึ่งสวนทางกับเที่ยวบินที่ 1907

          เสี้ยวนาทีนั้น เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้เที่ยวบินที่ 763 ไต่ระดับขึ้นไปที่เพดานบิน 14,000 ฟุต เที่ยวบินที่ 1907 เมื่อลดระดับถึง 15,000 ฟุตแล้วก็รายงานต่อเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจร

         จ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนเที่ยวบินที่ 1907 ว่าเที่ยวบินที่ 763 กำลังมุ่งหน้าสวนทางกัน อย่างไรก็ตาม อันที่จริงแล้วเที่ยวบินที่ 1907 ไม่ได้รักษาระดับความสูงอยู่ที่ 15,000 ฟุต หากแต่กำลังลดระดับลงมาโดยในขณะนั้นอยู่ที่ระดับความสูง 14,500 ฟุตและกำลังลดระดับต่อไปอีก

          ช่างโชคร้าย ปรากฏว่าเที่ยวบินที่ 1907 ก็ลดระดับลงไปอีกประมาณ 310 ฟุต ที่สุดทั้งคู่จึงได้ชนเข้าอย่างจัง โดยที่เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศ ยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่าเครื่องบินทั้งสองลำชนกันแตกระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ไปแล้ว

12 พ.ย. 2539  ได้ไง? ชนกันกลางอากาศ  ดับหมดยกสองลำ

          แต่ยังพยายามสื่อสารกับเครื่องบินทั้งสองลำ แต่ไม่มีสัญญาณตอบกลับมา และจุดสัญญาณบนจอซึ่งเป็นของเครื่องบินทั้งสองลำนั้นหายไปแล้ว

          จนกระทั่งมารับแจ้งจาก นักบินของกองทัพอากาศสหรัฐ ซึ่งขับเครื่องบินลำเลียงซี-141 และกำลังจะลงจอดที่นิวเดลีได้แจ้งว่า มองเห็นแสงสว่างสีส้มภายในก้อนเมฆ

          ก่อนที่แสงสว่างนั้นจะแยกออกเป็นลูกไฟสองลูกและแผ่ขยายออกเป็นวงกว้างเมื่อเครื่องบินทั้งสองลำตกถึงพื้น

          ชาวบ้านที่อยู่ในเมืองจรรขีทาทรีซึ่งอยู่ห่างออกไปทางตะวันตกเฉียงเหนือจากนิวเดลีประมาณ 80 กิโลเมตรมองเห็นแสงไฟสว่างวาบบนท้องฟ้าซึ่งตัดกับความมืดในช่วงใกล้ค่ำ และได้ยินเสียงที่ดังยิ่งกว่าฟ้าถล่ม

12 พ.ย. 2539  ได้ไง? ชนกันกลางอากาศ  ดับหมดยกสองลำ

          เที่ยวบินที่ 763 ตกลงไปในไร่ว่างเปล่าและก่อให้เกิดหลุมขนาดยาว 55 เมตร (60 หลา) ลึก 4.5 เมตร (15 ฟุต) ส่วนเที่ยวบินที่ 1907 ตกลงห่างจากเที่ยวบินที่ 763 ประมาณ 10 กิโลเมตร

          ในช่วงหลังจากพบเครื่องบินที่ตกไม่นาน มีชาวบ้านพบผู้โดยสาร 3 คนจากเที่ยวบินที่ 763 ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส อย่างไรก็ตาม ผู้รอดชีวิตดังกล่าวทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

          ยังเคราะห์ดีอยู่บางที่ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บนอกเหนือจากผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่องบินทั้งสองลำ ซึ่งหมายถึงผู้คนที่อยู่ด้านล่าง

          หากแต่ยังว่ากันว่า ผู้เห็นเหตุการณ์เชื่อว่านักบินพยายามหักเลี้ยวเครื่องบินไม่ให้ตกลงไปในเขตชุมชนและป้องกันไม่ให้มีผู้เสียชีวิตนอกเหนือจากบนเครื่องบิน ซึ่งนับว่าหากเป็นจริงก็ต้องยกย่องนักบินผู้จากเป็นอันมาก

          สำหรับ สาเหตุ ในส่วนของกล่องบันทึกข้อมูลการบินจากเที่ยวบินที่ 763 ถูกส่งไปยังสำนักงานสืบสวนอุบัติเหตุทางอากาศี่ฟาร์นบะระ สหราชอาณาจักร

          และกล่องบันทึกข้อมูลจากเที่ยวบินที่ 1907 ถูกส่งไปที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซียเพื่อถอดรหัสและอ่านข้อมูลจากบันทึก

          จากการสืบสวนพบว่าสาเหตุหลักของอุบัติเหตุครั้งนี้ เกิดจากความผิดพลาดของนักบินของเที่ยวบินที่ 1907 สายการบินคาซัคสถานแอร์ไลน์ ที่ลดระดับความสูงจาก 15,000 ฟุตทั้งๆ ที่เจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศสั่งให้ัรักษาระดับไว้ที่ 15,000 ฟุต

          อย่างไรก็ตาม คาซัคสถานแอร์ไลน์ อ้างว่านักบินจำเป็นต้องลดระดับความสูงลงมา เนื่องจากสภาพอากาศปั่นป่วนที่ระดับความสูงดังกล่าว

          แต่ทั้งซาอุดีอาระเบียนแอร์ไลน์และคณะเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศของอินเดีย คัดค้านโดยอ้างข้อมูลรายงานสภาพอากาศว่าไม่มีสภาพอากาศปั่นป่วนแต่อย่างใด

12 พ.ย. 2539  ได้ไง? ชนกันกลางอากาศ  ดับหมดยกสองลำ

12 พ.ย. 2539  ได้ไง? ชนกันกลางอากาศ  ดับหมดยกสองลำ

          นอกจากนี้ซาอุดีอาระเบียนแอร์ไลน์ยังกล่าวโทษเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรที่ไม่ได้แจ้งนักบินของเที่ยวบินที่ 763 ว่ามีเที่ยวบินที่ 1907 อยู่ในทิศทางสวนกับเที่ยวบินที่ 763

          ทั้งเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศและซาอุดีอาระเบียนแอร์ไลน์ ได้ตั้งข้อสังเกตอีกว่าสาเหตุอีกประการหนึ่งอาจจะมาจากธรรมเนียมปฏิบัติของนักบินจากประเทศอดีตสมาชิกสหภาพโซเวียตที่แตกต่างจากนักบินอื่น ๆ

          โดยนักบินส่วนใหญ่ไม่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้คล่อง ทำให้ไม่สามารถสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมาตรวัดของเครื่องบินที่ผลิตในสหภาพโซเวียตใช้ระบบเมตริก (กิโลเมตร) แทนที่จะเป็นระบบอิมพีเรียล (ฟุต) อย่างที่เครื่องบินส่วนใหญ่ในโลกใช้กัน ทำให้นักบินต้องเสียเวลาแปลงหน่วย แม้ว่าทางฝ่ายคาซัคสถานจะคัดค้านก็ตาม

          การจัดการเส้นทางบินภายในประเทศอินเดียก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง โดยน่านฟ้าโดยรอบท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธีในขณะนั้น ส่วนใหญ่จะให้เครื่องบินของกองทัพอากาศอินเดียใช้ขึ้นและลง

12 พ.ย. 2539  ได้ไง? ชนกันกลางอากาศ  ดับหมดยกสองลำ

ภาพจาก national geograpgic

          ในขณะที่เที่ยวบินพาณิชย์ถูกจำกัดให้อยู่ในบริเวณส่วนน้อย และระบบเรดาร์ของท่าอากาศยานยังคงเป็นระบบดั้งเดิมที่ระบุเพียงตำแหน่งของเครื่องบินเท่านั้น และไม่ระบุข้อมูลที่สำคัญอื่น ๆ เช่นระดับความสูง หรือชื่อเรียกของเครื่องบิน

          ทำให้เจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรต้องอาศัยข้อมูลจากนักบินที่รายงานตำแหน่งและระดับความสูง และเครื่องบินทั้งสองลำก็ไม่มีระบบ ACAS (Airborne Collision Avoidance System) ที่แจ้งเตือนว่ามีเครื่องบินอีกลำหนึ่งอยู่ในระยะใกล้พอที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้

         ว่ากันว่า ขณะที่เครื่องบินของสายการบิน Saudi Arabia Airlines กำลังตกสู่พื้น มีรายงานจากกล่องดำที่กู้มาได้จากเครื่องบินว่า กัปตันเริ่มสวดมนต์ตามทำเนียมอิสลามเมื่อกำลังเผชิญความตาย

          ทั้งหมดทั้งมวลจึงนำมาสู่หายนะที่โลกไม่ลืมแต่ก็ไม่อยากจำครั้งนี้

///////////

ขอบคุณข้อมูลจาก

วิกิพีเดีย

https://id.wikipedia.org/wiki/Insiden_Saudi_Arabian_Airlines_Penerbangan_763_dengan_Air_Kazakhstan_Penerbangan_1907

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ