คนดีพระคุ้ม คนชั่วทำอะไรก็ไม่สำเร็จ ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง มีการสั่งให้ฆ่า พ.ต.ท.ทักษิณ จากฝั่งไทย มีการเอาเงินค่าจ้างไปแล้วส่วนหนึ่ง!!
ช่วงหนึ่งของประเทศไทย มีข่าวสารที่ทำเอาคนไทยตั้งตัวไม่ติด ต้องติดตามรายวัน
นั่นคือ ข่าวที่เริ่มจากช่วงวันที่ 4 พ.ย. 2555 โอ๊ค 'พานทองแท้ ชินวัตร' โพสต์ บุตรชาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์เฟซบุุ๊ก Oak Panthongtae Shinawatra อ้างว่า มีบุคคลคิดแผนลอบสังหารบิดาของเขา ในวันที่มีหมายเดินทางมาที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า วันที่ 10 พ.ย.2555 ซึ่งกำหนดการ เป็นการนัดพบกับกลุ่มคนเสื้อแดงหลายพันคนที่จะเดินทางไปพบกับ อดีตนายกฯ ทักษิณ ที่นั่น
ทั้งนี้ บุตรชายคนโตของอดีตนายกฯ ยังระบุอีกว่า หากบุคคลดังกล่าวยังไม่คิดล้มเลิกแผนการนี้ ตนเองจะนำดอกไม้ ธูปเทียนไปกราบขอให้เลิกยุ่งกับคุณพ่อผมสักที!!
สำหรับเนื้อหาในเฟซบุ๊กดังกล่าว มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
"ผมได้รับทราบอย่างไม่เป็นทางการจากเจ้าหน้าที่ไทยที่คอยประสานงานกับทางพม่า ว่าผลการสอบสวนในเบื้องต้นอาวุธต่างๆ โดยเฉพาะจรวด RPG ที่ยึดมาได้ที่ฝั่งท่าขี้เหล็กนั้น ถูกจ้างวานโดยคนไทย เตรียมมาเพื่อใช้งานที่เจดีย์จำลอง ในวันที่ 10 พ.ย. ซึ่งตรงกับคิวที่คุณพ่อผม และมวลมิตรเสื้อแดง จะไปทำบุญร่วมกันพอดีครับ"
"2-3 วันที่ผ่านมา ผมพึ่งโพสต์ถึงแผนปฏิบัติ 3 ขั้น ของผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งจ่ายักษ์ 1 ในผู้ต้องหาคดีคาร์บอมบ์ให้การสารภาพ และผมถือว่าเป็นการกระทำที่ทำให้ประเทศไทยวุ่นวาย ถอยหลังลงคลอง ดังเช่นทุกวันนี้ คือ"
1. จัดม็อบขับไล่รัฐบาล ถ้าไม่สำเร็จก็ทำขั้นต่อไป คือ
2. ลอบสังหารนายกฯ ทักษิณฯ ซึ่งคำให้การระบุว่า มีการกระทำถึง 4 ครั้ง ถ้าไม่สำเร็จก็ทำขั้นต่อไป คือ
3. ให้ทหารทำการปฏิวัติ และให้ พล.อ.สุรยุทธฯ เป็นนายกฯ
"ผ่านมาไม่ถึงสัปดาห์ ที่ผมบอกว่าลอบสังหารถึง 4 ครั้ง คงจะต้องเพิ่มเป็น 5 ครั้ง ซึ่งเมื่อประมวลสถานการณ์ทั้งหมดในช่วงนี้ ทั้งใน กทม.และที่ท่าขี้เหล็ก ขอยืนยันว่าแผนปฏิบัติการครั้งใหม่ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เบื้องหลังสั่งการก็คือ ขาเก่าเจ้าประจำ คนดี คนเดิม"
"แน่นอนว่า เจ้าตัวย่อมปฏิเสธ ไม่ยอมรับว่าอยู่เบื้องหลังหรอกครับ แต่ถ้าผมไม่พูดไม่ทักกันตรงๆ แบบนี้ ก็คงจะมีครั้งที่ 6-7-8 อีกเรื่อยๆ จนกว่าคุณพ่อผมจะตายจากไป ก็ทั้งคนนำม็อบ ทั้งกลุ่มคนร่วมม็อบ มันชี้ชัดขนาดนี้ ชายชาติทหารก็ยังปฏิเสธได้อยู่ และผมขอบอกว่าคนดีคนนี้ ไม่สนหรอกครับว่าจะมีคนอื่นบาดเจ็บล้มตายไปด้วยอีกกี่ร้อยกี่พัน ขอเพียงแค่ให้เป้าหมายถูกทำลายก็เป็นพอ"
"ผมเขียนต้นฉบับอันแรก ทีมงานอิดๆ ออดๆ ไม่อยากเอาขึ้นโพสต์ครับ บอกแรงไปให้ผมแก้ไขให้ใหม่ แก้ใหม่เป็นโพสต์นี้ก็ว่ายังแรงอยู่ กลัวสื่อไม่กล้าลง จนผมต้องบอกว่า ก็ลองพ่อง (พ่อคุณ) โดนลอบฆ่า 5 หนดูมั่งดิ แล้วจะยังต้องพินอบพิเทาเกรงใจคนสั่งอยู่หรือเปล่า (วะ)"
"ถ้างั้นเอาเป็นว่า หากยังไม่เลิกเล่นแรงกันแบบนี้ ผมจะต้องเอาดอกไม้ธูปเทียนไปกราบถึงที่ทำงาน ขอให้เขาเลิกยุ่งกับคุณพ่อผมสักที ดีมั้ยครับ"
ผลปรากฏว่าเวลานั้น สังคมไทยกำลังติดตามข่าวสารนี้อย่างใกล้ชิด บ้างว่านี่คือการกุข่าวขึ้นเพื่อสร้างสถานการณ์บางอย่าง เช่น มัลลิกา บุญมีตระกูล ขณะเป็นรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก Mallika Boonmeetrakool เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว โดยพาดหัวว่า
"จากคาร์บ๊อง ถึง อาร์พีจี สงสัยจะช็อต !!"
และกล่าวในท่วงทำนองว่า น่าเห็นใจโอ๊คที่คงคิดถึงพ่อมากจนเกิดจินตนาการ หลอน ฟุ้งซ่าน
"สร้างนิยายหลอกผู้ใหญ่ขึ้นมาเหมือนเด็กเลี้ยงแกะ เพราะจินตนาการของโอ๊คขาดทั้งหลักฐาน ข้อมูล ความเป็นไปได้อันน่าเชื่อถือ ทั้งที่ความจริงรัฐบาลโดยการนำของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น่าจะรู้ดีว่าการที่ ทักษิณ เปิดเผยข่าวว่าจะมาท่าขี้เหล็กนั้น ทำให้รัฐบาลพม่าเขาติงเตือนมาอย่างไร และพม่าไม่ใช่เขมรที่นักโทษหนีคดีอาญาคนนี้จะไปเคลื่อนไหวทางการเมืองบนแผ่นดินของเขาให้เป็นข่าวในแผ่นดินของเขา เขาจึงไม่ให้เข้ามา "ใช่หรือไม่"
แม้กระทั่งโพลล์ จาก“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ยังได้มีการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศที่สนใจติดตามข่าว จำนวน 1,168 คน ระหว่างวันที่ 7 - 9 พ.ย.55 เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมทางการเมือง และแสวงหาฐานข้อมูลด้านความคิดเห็นของประชาชน สรุปผลดังนี้
เมื่อถามว่าประชาชนคิดอย่างไรกรณีข่าวการลอบทำร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ อันดับ 1 อาจเป็นเกมการเมือง /เป็นการสร้างกระแส เพื่อหวังผลประโยชน์จากข่าวนี้ 44.51% อันดับ 2 รู้สึกสับสน ไม่แน่ใจ ไม่รู้ว่าจะเชื่อใครดี /ยังไม่มีข้อมูลข้อเท็จจริงที่มีน้ำหนักพอ 39.01% และอันดับ 3 อาจเป็นเรื่องจริง หรือมีมูลความจริงก็เป็นได้ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณน่าจะมีศัตรูทางการเมืองและเรื่องอื่นๆ 16.48%
แต่อีกด้านหนึ่ง สังคมไทยอีกมุมหนึ่ง ก็อดที่จะเชื่อตามนี้ไม่ได้ เพราะช่วงเวลานั้น การเมืองไทย อะไรก็เกิดขึ้นได้!!
จนกระทั่งรุ่งขึ้น หรือตรงกับวันนี้ของเมื่อ 6 ปีก่อน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ก็ถึงกับต้องออกมาคอนเฟิร์มเรื่องนี้ด้วยตนเอง!!
โดยให้สัมภาษณ์ถึงข่าวดังกล่าวว่า มูลเหตุนั้นเริ่มจาก หลังจากมีการจับกุมชาวไทยใหญ่คนหนึ่งพร้อมอาวุธสงครามอาร์พีจีได้ ตนได้รับรายงานข่าวการลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ มาก่อนหน้านี้ เพราะมีพรรคพวกที่เป็นทหาร ตำรวจในพม่าเยอะ และตำรวจภูธรภาค 5 และป.ป.ส.ก็มีสายข่าว โดยทันทีที่จับผู้ต้องหาชาวไทยใหญ่ สัญชาติพม่าได้ในตอนแรกผู้ต้องหารับสารภาพหมดสิ้นว่ารับอาวุธมาจากฝั่งไทย และเป้าหมายคือ พ.ต.ท.ทักษิณ
นอกจากนี้ คนใหญ่ย่านบางบอนยังกล่าวว่า สำหรับสถานที่เป้าหมายคือ ช่วงระหว่างที่อดีตนายกฯ ทักษิณ เดินทางไปทำบุญที่เจดีย์ชเวดากอง ซึ่งตรงนั้นเป็นที่โล่งแจ้ง โดยผู้ต้องหารายนี้สารภาพหมดว่าใครจ้าง ใครสั่ง แต่พอวันรุ่งขึ้นกลับมาปฏิเสธ ตนจึงให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เข้าไปในฝั่งท่าขี้เหล็ก เพื่อติดตามเรื่องนี้ หาข้อมูลให้ชัด
"คนดีพระคุ้ม คนชั่วทำอะไรก็ไม่สำเร็จ ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง มีการสั่งให้ฆ่า พ.ต.ท.ทักษิณ จากฝั่งไทย มีการเอาเงินค่าจ้างไปแล้วส่วนหนึ่ง อาวุธอย่างอาร์พีจีก็เอาไปจากฝั่งไทย เป้าหมายชัดเจนคือ พ.ต.ท.ทักษิณ สถานที่คือเจดีย์ชเวดากอง ซึ่งการกระทำเช่นนี้เป้าหมายไม่ใช่เพื่อล้มรัฐบาล แต่เป็นการประทุษร้ายต่อชีวิต เพราะหากรัฐบาลไป คนก็ยังอยู่ แต่นี่ถ้าผู้ต้องหาไม่ถูกจับก่อน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็อันตราย" (-ข่าวจาก https://www.thairath.co.th/content/303852)
จนกระทั่งเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าคนจ้างวานเป็นนักการเมืองหรือเป็นใคร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนขออนุญาตไม่บอกว่าเป็นใคร แต่ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง ซึ่งการจับกุมผู้จ้างวานคงยากหน่อย เพราะผู้ต้องหาปฏิเสธแล้ว แต่ได้กำชับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ที่ขณะนี้อยู่ที่ท่าขี้เหล็กแล้ว ให้ติดตามเรื่องนี้ ซึ่งขณะนี้จับผู้ต้องหาได้คนเดียว แต่จะมีโครงข่ายอื่นอีกหรือไม่ก็ต้องขยายผลต่อไป
เมื่อถามว่าเมื่อเกิดเรื่องอย่างนี้ ทางรัฐบาลพม่าดำเนินการอย่างไรบ้าง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนให้ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ไปประสานแล้ว ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งคิดว่าคงทราบข่าวนี้แล้ว แต่จะเดินทางมาที่ท่าขี้เหล็กตามกำหนดการเดิมหรือไม่ ตนไม่ทราบ ต้องแล้วแต่ท่าน ตนเคารพการตัดสินใจของท่าน
เมื่อถามว่าเราจำเป็นต้องส่งเจ้าหน้าที่ไทยไปคุ้มกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ยังไม่รู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะตัดสินใจอย่างไร ต้องดูก่อน ส่วน สมช.ที่ออกมาระบุไม่มีข่าวนี้เช่นกันนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า สมช.จะไปรู้เรื่องได้อย่างไร อยู่เมืองไทย แต่เรื่องเกิดในพม่า เดี๋ยวตนจะเรียกมาคุย
อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.เฉลิม ยอมรับว่าพื้นที่ที่ อดีตนายกฯ ทักษิณ จะเดินทางไปนั้น ถือเป็นพื้นที่อันตราย เพราะมีทั้งหว้า ไทยใหญ่ พม่า มีโรงแรม 6 ชั้น เป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติด เป็นแหล่งสะสมอาวุธ และตอนสมัยที่เสี่ยแม้วเป็นนายกฯ ก็ไปปราบบริเวณนี้หนัก.
ที่สุดต่อมา ก็ได้ล่าสุดมีรายงานว่า อดีตนายกฯ ทักษิณ ได้ยกเลิกกำหนดการเดินทางมายัง จ.ท่าขี้เหล็ก แล้ว หลังจากมีรายงานข่าวการจับกุมชาวไทยใหญ่ สัญชาติพม่า ซึ่งรับสารภาพว่าเตรียมแผนลอบสังหารทักษิณ ด้วยระเบิด RPG ในช่วงที่จะเดินทางไปทำบุญที่เจดีย์จำลองวันที่ 10 พ.ย.
จากนั้น วันที่ 7 พ.ย. 2555 พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวอีกครั้ง และทำให้แฟนคลับพากันดล่งใจ เมื่อเขาโพสต์ภาพโชว์รูปกอดของพี่น้อง ร่วมกับ อดีตนายกฯ ทักษิณ ที่ฮ่องกง โดยมี นางพินทองทา คุณากรวงศ์ และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ร่วมในภาพดังกล่าวด้วย พร้อมระบุว่า ทั้ง 3 คน รู้สึกผิดหวัง ที่ทำให้ อดีตนายกฯ ทักษิณ ไม่ได้ไป จ.ท่าขี้เหล็กประเทศพม่า และทำให้หลายคนรู้สึกผิดหวังด้วยเช่นกัน
"ทันทีที่ยกเลิกภารกิจ ท่าขี้เหล็กได้สำเร็จ ผมและน้องๆขออนุญาตโดดงาน มาเยี่ยมคุณพ่อ แทนพ่อแม่พี่น้องทุกท่านที่ฮ่องกงครับ
"โตมาผมไม่ค่อยได้กอดพ่อ เหมือนกับเอม-อิ๊งค์ครับ แต่มาคราวนี้พอเจอพ่อ ผมและน้องๆเเย่งกันรุมกอดพ่อแบบ Big Hug กันใหญ่ ภาพออกมาอย่างที่เห็นนี้ครับ"
"พวกเราทั้ง 3 คนรู้ดีว่า เราทำให้คุณพ่อผิดหวัง ที่ไม่ได้ไปท่าขี้เหล็ก และพ่อแม่พี่น้องทุกท่านก็คงรู้สึกผิดหวัง ที่ไม่ได้เจอกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เช่นเดียวกัน"
"โอ๊ค เอม อิ๊ง ถือว่าครั้งนี้เราติดหนี้พ่อแม่พี่น้องครับ เย็นนี้เราจะคุยกับพ่อว่า จะมีสถานที่และเวลาใด ที่คุณพ่อจะสะดวกมาพบปะกับพ่อแม่พี่น้อง เพื่อเป็นการชดเชยการพลาดโอกาสในครั้งนี้ได้บ้าง แล้วจะแจ้งให้ทราบอีกที โชคดีทุกท่านครับ"
ทั้งหมดนี้ก็เป็นอีกเหตุการณ์หน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย ที่นำมาเล่าสู่กัน เผื่อใครจะนึกออก!!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง